เมื่อเวลา13.30 น. วานนี้ (18 ม.ค.) ที่ห้องประชุมกระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวระหว่างเป็นประธานมอบนโยบายคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตอนหนึ่งว่า การปฏิบัติที่กระทรวงมหาดไทยเกี่ยวข้องในแผนงานคือ การให้ระดับอำเภอ โดยให้นายอำเภอเป็นผู้อำนวยการศูนย์ในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ในทุกอำเภอ เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่าการคิดดอกเบี้ยในการกู้ยืมสูงมาก ลูกหนี้บางคนมีแค่ตัวกับหัวใจ จึงไม่สามารถหาช่องทางการใช้หนี้ได้ เพราะฉะนั้นหากมีกระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยศึกษาจากกระบวนการการกู้ยืมมาเป็นแนวทาง ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ จะต้องสร้างเสริมอาชีพหากมีการปลดหนี้ได้ จึงอยากให้คณะกรรมการสอบถามความต้องการของประชาชนที่เป็นลูกหนี้ ในการอบรมอาชีพเพื่อเสริมรายได้ โดยอาจประสานหน่วยงานพัฒนาฝีมือแรงงานในจังหวัด เพื่อดำเนินการช่วยเหลือได้อีกหนึ่งช่องทาง
"ต้องยอมรับว่า งานนี้เป็นงานหนัก ไม่ใช่งานใหม่ของกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ ๆ จะเอาหนี้นอกระบบมาแก้ปัญหา แต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการช่วยเหลือตามแนวทางที่ได้วางเอาไว้" นายบุญจงกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมมีการหารือเรื่องกรอบแนวทางในการดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงมหาดไทย หลังจากรับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบแล้ว และธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล เอกสาร หลักฐานการเป็นหนี้ก่อนเข้าสู่กระบวนการเจรจาหนี้ และป้องกันการถูกฟ้องร้องของเจ้าหนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ โดยได้วางกรอบในการดำเนินการ คือ
1. เชิญลูกหนี้มาเขียนคำร้องและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 2. ออกหนังสือลับ เชิญเจ้าหนี้และนัดหมายลูกหนี้ 3. ดำเนินการเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติและเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย 4. ส่งผลการเจรจาให้ธนาคารที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้สินเชื่อเงินกู้ และ 5. การติดตามประเมินผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้สรุปผลการลงทะเบียนหนี้นอกระบบทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-30 ธ.ค. 52 มีจำนวนทั้งสิ้น 990,588 ราย จำนวนมูลหนี้ 104,974,132,841.70 บาท โดยจังหวัดที่มีผู้มาขึ้นทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรกคือ 1. กรุงเทพมหานคร มาขึ้นทะเบียน 67,362 คน จำนวนหนี้ 6,254,699,094.69 บาท 2. จ.สุรินทร์ มาขึ้นทะเบียน 60,719 คน จำนวนหนี้ 6,304,999,050.27 บาท 3. จ.นครราชสีมา ขึ้นทะเบียน 47,923 คน จำนวนหนี้ 5,347,186,741.25 บาท 4. จ.ศรีสะเกษ มาขึ้นทะเบียน 36,607 คน จำนวนหนี้ 3,838,539,665.18 บาท 5. จ.อุบลราชธานี มาขึ้นทะเบียน 32,910 คน จำนวนหนี้ 3,410,732,134.41 บาท
ส่วนจังหวัดที่มีผู้มาขึ้นทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก คือ 1. จ.สมุทรสงคราม มาขึ้นทะเบียน 1,611 คน จำนวนหนี้ 170,655,328.25 บาท 2. จ.ระนอง มาขึ้นทะเบียน 1,777 คน จำนวนหนี้ 178,782,687.00 บาท 3. จ.ตราด มาขึ้นทะเบียน 1,822 คน จำนวนหนี้ 202,455,762.28 บาท 4. จำหวัดแม่ฮ่องสอน มาขึ้นทะเบียน 2,545 จำนวนหนี้ 273,882,830.00 บาท 5. จังหวัดสิงห์บุรี มาขึ้นทะเบียน 2,557 คน จำนวนหนี้ 270,985,999.21 บาท
นอกจากนี้ในการประชุมได้มีการกำหนดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในส่วนของกระทรวงมหาดไทย คือ
1. รับข้อมูลลูกหนี้นอกระบบที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ จากกระทรวงการคลัง วันที่ 1 ก.พ. 53 2.จังหวัดและอำเภอ ประสานตรวจรายละเอียดลูกหนี้นอกระบบ และนัดหมายลูกหนี้ เจ้าหนี้ เข้าสู่กระบวนการเจรจา วันที่ 1-15 ก.พ. 53 3. ดำเนินการเจรจาหนี้นอกระบบให้ครบทุกราย โดยมีผลการปฏิบัติเดือนละไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนลูกหนี้ที่ได้ ระหว่างวันที่ 16 ก.พ.-16 มิ.ย. 53 4. ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบ เอ็กซ์เรย์ ลูกหนี้ที่ยังมิได้ลงทะเบียนให้ไปลงทะเบียนเพิ่มเติม
"ต้องยอมรับว่า งานนี้เป็นงานหนัก ไม่ใช่งานใหม่ของกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ ๆ จะเอาหนี้นอกระบบมาแก้ปัญหา แต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการช่วยเหลือตามแนวทางที่ได้วางเอาไว้" นายบุญจงกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมมีการหารือเรื่องกรอบแนวทางในการดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงมหาดไทย หลังจากรับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบแล้ว และธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล เอกสาร หลักฐานการเป็นหนี้ก่อนเข้าสู่กระบวนการเจรจาหนี้ และป้องกันการถูกฟ้องร้องของเจ้าหนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ โดยได้วางกรอบในการดำเนินการ คือ
1. เชิญลูกหนี้มาเขียนคำร้องและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 2. ออกหนังสือลับ เชิญเจ้าหนี้และนัดหมายลูกหนี้ 3. ดำเนินการเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติและเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย 4. ส่งผลการเจรจาให้ธนาคารที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้สินเชื่อเงินกู้ และ 5. การติดตามประเมินผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้สรุปผลการลงทะเบียนหนี้นอกระบบทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-30 ธ.ค. 52 มีจำนวนทั้งสิ้น 990,588 ราย จำนวนมูลหนี้ 104,974,132,841.70 บาท โดยจังหวัดที่มีผู้มาขึ้นทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรกคือ 1. กรุงเทพมหานคร มาขึ้นทะเบียน 67,362 คน จำนวนหนี้ 6,254,699,094.69 บาท 2. จ.สุรินทร์ มาขึ้นทะเบียน 60,719 คน จำนวนหนี้ 6,304,999,050.27 บาท 3. จ.นครราชสีมา ขึ้นทะเบียน 47,923 คน จำนวนหนี้ 5,347,186,741.25 บาท 4. จ.ศรีสะเกษ มาขึ้นทะเบียน 36,607 คน จำนวนหนี้ 3,838,539,665.18 บาท 5. จ.อุบลราชธานี มาขึ้นทะเบียน 32,910 คน จำนวนหนี้ 3,410,732,134.41 บาท
ส่วนจังหวัดที่มีผู้มาขึ้นทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก คือ 1. จ.สมุทรสงคราม มาขึ้นทะเบียน 1,611 คน จำนวนหนี้ 170,655,328.25 บาท 2. จ.ระนอง มาขึ้นทะเบียน 1,777 คน จำนวนหนี้ 178,782,687.00 บาท 3. จ.ตราด มาขึ้นทะเบียน 1,822 คน จำนวนหนี้ 202,455,762.28 บาท 4. จำหวัดแม่ฮ่องสอน มาขึ้นทะเบียน 2,545 จำนวนหนี้ 273,882,830.00 บาท 5. จังหวัดสิงห์บุรี มาขึ้นทะเบียน 2,557 คน จำนวนหนี้ 270,985,999.21 บาท
นอกจากนี้ในการประชุมได้มีการกำหนดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในส่วนของกระทรวงมหาดไทย คือ
1. รับข้อมูลลูกหนี้นอกระบบที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ จากกระทรวงการคลัง วันที่ 1 ก.พ. 53 2.จังหวัดและอำเภอ ประสานตรวจรายละเอียดลูกหนี้นอกระบบ และนัดหมายลูกหนี้ เจ้าหนี้ เข้าสู่กระบวนการเจรจา วันที่ 1-15 ก.พ. 53 3. ดำเนินการเจรจาหนี้นอกระบบให้ครบทุกราย โดยมีผลการปฏิบัติเดือนละไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนลูกหนี้ที่ได้ ระหว่างวันที่ 16 ก.พ.-16 มิ.ย. 53 4. ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบ เอ็กซ์เรย์ ลูกหนี้ที่ยังมิได้ลงทะเบียนให้ไปลงทะเบียนเพิ่มเติม
