ยะลา – บรรยากาศการเดินทางมาขึ้นทะเบียนเพื่อปลดหนี้นอกระบบของชาวยะลา ตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการไทยเข้มแข็ง ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร ประกอบกับในพื้นที่มีฝนตกลงมาตั้งช่วงเช้า
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ธนาคารเกษตรและสหกรณ์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา มีประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา และอำเภอรอบนอก เดินทางมาขึ้นทะเบียนเพื่อปลดหนี้นอกระบบ ตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการไทยเข้มแข็ง บรรยากาศไม่คึกคักเท่าที่ควร ประกอบกับในพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางขอผู้ที่จะมาขึ้นทะเบียนในพื้นที่ อำเภอรอบนอกค่อนข้างลำบาก ผู้ที่เดินทางมาขอปลดหนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าในเขตเทศบาลนครยะลา และ พี่น้องเกษตรกรบางส่วน
นางณัฐยา ชวพงศ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ซอยคูหามุข ต.สะเตง อ.เมืองยะลา อาชีพแม่ค้าขายข้าวแกง ซึ่งเป็นหนึ่งในอีกหลายคนที่ติดหนี้นอกระบบ กล่าวว่า ตนเองติดหนี้นอกระบบ เนื่องจากว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อนำไปรักษาสามีซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งต่อมาสามีได้เสียชีวิตลง ฐานะทางการเงินค่อนข้างลำบาก มีภาระทางครอบครัว ต้องหยิบยืมเงินจากคนที่รู้จัก และมีความคุ้นเคย หากไม่จำเป็นก็คงไม่อยากจะมีหนี้สิน
เมื่อเจ้าหนี้มาทวงเงิน หากตนเองยังไม่มี เจ้าหน้าที่จะโทรมาต่อว่า โดยใช้คำพูดที่ไม่สุภาพแต่ก็ไม่ถึงกับมีการขู่ฆ่า เพราะในพื้นที่ จ.ยะลา พ่อค้า แม่ค้า จะไม่ค่อยติดหนี้นอกระบบกับกลุ่มเจ้าหนีที่มีอิทธิพล เพราะไม่คุ้มเสี่ยง
แม่ค้าพ่อค้าในเขตเทศบาลนครยะลา ต่างมีหนี้นอกระบบกันทั้งนั้น เพราะต้องนำเงินไปใช้จ่ายหมุนเวียน เพื่อทำมาค้าขาย ซึ่งตนเองก็มีความรู้สึกดีใจ ที่ทางรัฐบาลมีโครงการอย่างนี้ขึ้นมา เมื่อตนเองทราบข่าวแล้ว ก็รีบมาที่ธนาคารเกษตรและสหกรณ์ยะลาทันที เพื่อมาปลดหนี้ แต่ก็ต้องกลับมาภายหลังอีกครั้ง เพราะเอกสารต่างๆ ยังไม่ครบ สุดท้ายตนเองก็ขอให้มีโครงการอย่างนี้ขึ้นอีก เพราะคนในประเทศไทยมีหนี้นอกระบบกันเป็นจำนวนมาก
