ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ความเห็นชาวขอนแก่น ไม่ต้องการให้ยุบสภา พร้อมแนะนายกฯ เปิดปมปัญหาของชาติทั้งหมดในเวทีเจรจาเย็นวันนี้ เพื่อให้คนทั้งประเทศมองปัญหาทะลุและร่วมแก้ร่วมกัน โดยเฉพาะการแฉเบื้องหลังการหนีคดีของ นช.ทักษิณ อันเป็นที่มาของการชุมนุมคนเสื้อแดง และจี้เอาคำตอบการสร้างกระแสไพร่-อำมาตย์ สื่อถึงการล้มเจ้าหรือไม่
ภายหลังการเจรจานัดแรกระหว่างตัวแทนรัฐบาลที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีมและตัวแทนแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มี นายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นผู้แทนเมื่อเย็นวานนี้ (28 มี.ค.) สิ้นสุดลงโดยยังไม่มีข้อสรุปใดๆ นั้น ได้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในกลุ่มประชาชนที่ติดตามชมการถ่ายทอดสด
ทั้งนี้ โดยภาพรวมความคิดเห็นชาวขอนแก่นหลายภาคส่วน ไม่เห็นด้วย หากนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาตามข้อเรียกร้องของแกนนำ นปช.เพราะเชื่อมั่นว่า นายอภิสิทธิ์ จะนำพาประเทศไทยพ้นก้าวไปจากปัญหาความขัดแย้งได้ หากแก้ปัญหาถูกจุด
นางกิตติมา แก้วเหง้า เจ้าของกิจการในจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า ต้องการให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดแผลของประเทศไทยทั้งหมดให้ประชาชนคนไทยได้มองปัญหาอย่างเข้าใจและร่วมกันแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นกรณีต้นตอปัญหาที่ก่อให้เกิดการชุมนุมคนเสื้อแดง หรือ นปช.ซึ่งการเปิดโต๊ะเจรจา เมื่อวานนี้ กลับไม่มีการพูดถึง ว่า ต้นตอการชุมนุมที่มากกว่าแกนนำ 3 คนออกมายืนยันให้ยุบสภานั้น คนไทยรู้ตรงกันหมดว่าคนเสื้อแดงทั้งกลุ่มนักการเมือง และคนที่รัก นายทักษิณ ชินวัตร ต่างต้องการได้นายทักษิณ กลับมาบริหารประเทศเป็นจุดหมายหลักของคนเสื้อแดง
ดังนั้น ในวงเจรจาในค่ำวันนี้ (29 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีต้องเปิดแผลจุดนี้ให้คนทั้งประเทศเห็นถึงต้นตอว่าทำไม ทักษิณ ชินวัตร จึงหนีคดีความออกจากประเทศ แทนที่จะอยู่ในประเทศเพื่อสู้คดี หากเชื่อมั่นว่าตนเองไม่ผิดตามข้อกล่าวหา แต่กลับหลบหนี และนายทักษิณ ยังมีคดีติดตัวอีกกี่คดี และการกระทำความผิดในคดีเหล่านั้น ส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อผลประโยชน์ประเทศชาติ
อีกทั้งการพยายามปลุกกระแสไพร่และอำมาตย์ ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงนั้นมีเป้าหมายอย่างไร เพราะคนไทยล้วนอยู่กับความจงรักภักดีต่อสถาบันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และคำว่าไพร่นั่นเป็นความเข้าใจตรงกันของคนทั้งประเทศ ว่า หมายถึงไพร่ฟ้าประชาชน ดังนั้น อำมาตย์จะหมายถึงสิ่งใด แกนนำ นปช.ยังพูดไม่ตรงกัน จึงอยากให้เปิดออกมาให้หมดในทุกสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเกิดบาดแผล จนนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
“จริงๆ แล้ว ไม่เห็นด้วยที่ท่านนายกฯยอมนั่งโต๊ะเจรจากับ 3แกนนำเสื้อแดงเพื่อถกว่าจะจะยุบสภาหรือไม่ เพราะพวกเขาไม่ใช่ตัวแทนของคนทั้งประเทศ จะเอาความคิด เอาความต้องการของกลุ่มตนเองเป็นใหญ่ไม่ได้ ที่สำคัญ การเจรจาครั้งนี้มีอดีตนายกฯทักษิณอยู่เบื้องหลัง ไม่มีเหตุผลที่นายกจะคุยกับนักโทษหนีคดี แต่กระนั้นก็ตามถือว่านายกฯอภิสิทธิ์ มีสปิริตสูงมากที่ยอมเปิดโอกาสรับฟังความเห็นของกลุ่มคนที่กำลังพยายามล้มล้างตนเอง และเชื่อว่านายกคงไม่ยอมรับข้อเสนอของเสื้อแดง เพราะเป็นแค่ความต้องการของคนกลุ่มๆ หนึ่งเท่านั้น”
ขณะที่ นางมาลัย มงคลดี คุณยายชาวไทยมุสลิมวัย 75 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น อาชีพค้าขาย บอกว่า ไม่อยากให้นายกรัฐมนตรียุบสภา เช่นกัน เนื่องจากไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่อย่างใด อีกทั้งเหตุที่คนไทยแตกแยกทางความคิดเป็นเพราะการติดตามข่าวสารไม่ครบทุกด้าน คนในสังคมชนบทหลงเชื่อการปลุกระดมผ่านการแจกจานดาวเทียมของคนเสื้อแดงและฟังแต่วิทยุชุมชนคนเสื้อแดง ซึ่งมีเครือข่ายเยอะมาก
การฟังแต่ทีวีและวิทยุที่พูดด้านเดียวตลอด ประกอบกับความเชื่อที่ถูกปลูกฟังว่านายทักษิณ จะมาช่วยให้คนชนบทหายจนได้ แม้ว่าคนในครอบครัวจะเห็นต่างกันและพยายามพูดให้เห็นด้านเลวร้ายของทักษิณ ยิ่งทำให้แตกแยกกันจนมองหน้ากันไม่ติด
ยายมาลัย เห็นว่า รัฐบาลควรบริหารประเทศต่อไปจนครบวาระ และเมื่อถึงวาระการเลือกตั้ง ให้จัดการการเลือกตั้งให้ดีที่สุด อย่าให้มีการโกง ซื้อเสียงของกลุ่มนักการเมืองแบบเดิมๆ ได้อีก นั่นจึงจะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นได้
ด้านแหล่งข่าวนักธุรกิจรายหนึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า กลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจเองก็ไม่อยากให้มีการยุบสภาในขณะนี้ เพราะเศรษฐกิจการค้ากำลังปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากยุบสภาจะมีแต่ผลกระทบด้านลบ ฉุดให้เศรษฐกิจถอยหลังไปอีก การแก้ปัญหาของรัฐบาลในภาวะความขัดแย้งเช่นนี้ ข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงมีความสำคัญมากที่รัฐต้องเร่งชี้แจง เปิดเผยให้ประชาชนทุกกลุ่มรับรู้ให้มากที่สุด
โดยเฉพาะปมปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมีใครเป็นต้นเหตุ ปลุกปั่นอยู่เบื้องหลัง หากข้อเท็จจริงถูกเปิดโปงอย่างแพร่หลายและเข้าถึงชนบท เชื่อว่า แม้แต่พี่น้องคนเสื้อแดงเองก็จะถอนตัวจากการร่วมชุมนุมจำนวนไม่น้อย