กาฬสินธุ์ - ปัญหาชาวบ้านตำบลหนองสอ เขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กว่า 300 คน รวมตัวปิดถนนขับไล่ปลัดเทศบาลยืดเยื้อเป็นวันที่ 2 แกนนำปัดเจราจายืนยันต้องย้ายปลัดออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวไดโนเสาร์แล้วกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (23 มี.ค.) เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานบรรยากาศการชุมนุมขับไล่ปลัดเทศบาลตำบลหนองสอ เขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ตรงถนนสายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ ซึ่งเป็นถนนการท่องเที่ยวไดโนเสาร์ที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ ชาวบ้านตำบลหนองสอกว่า 300 คน ยังคงปักหลักปิดถนนมาเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางผ่านเส้นทางสายนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
นายกฤษเพชร ค่ายเพชร แกนนำซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านปลาเค้าใหญ่ ยังคงยืนกรานที่ต้องการให้ปลัดเทศบาลตำบลหนองสอ ออกจากพื้นที่อย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งปฏิเสธการเจรจากับนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ รวมไปถึงฝ่ายปกครอง ซึ่งแกนนำอ้างว่าต้องการที่จะเจรจากับ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ฝ่ายเดียว
ทั้งนี้ ปัญหาการชุมนุมขับไล่ปลัดเทศบาลตำบลหนองสอ เกิดขึ้นมาแล้ว 4 ครั้ง และทางจังหวัดได้เคยเรียกตัวมาสำรองราชการที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ แต่ผลการสอบสวน พบว่า ปลัดเทศบาลตำบลหนองสอ ไม่มีความผิดที่ชัดเจนจึงได้ให้กลับไปทำงานที่เดิม แต่กลับพบว่า ปลัดเทศบาลตำบลหนองสอ ไม่สามารถเข้ากับประชาชนในพื้นที่ได้
ชาวบ้านอ้างว่าปลัดคนนี้ยังมีพฤติกรรมข่มขู่ก้าวร้าว และรับเหมาภายในเทศบาลเอง จนทำให้ชาวบ้านต้องรวมตัวกันเดินขบวนขับไล่
ด้าน นายคณนาถ ภูนาปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองสอ กล่าวว่า สิ่งที่ยังคงยืดเยื้อมีการชุมนุมปิดถนนเป็นวันที่สอง เป็นเพราะชาวบ้านยังคงต้องการให้ปลัดคนนี้ออกจากพื้นที่ทั้งนี้ตนก็ได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านถึงพฤติกรรมของปลัดที่ไม่เหมาสม อีกทั้งการที่ทางจังหวัดไม่ดำเนินการแก้ไข ปัญหานี้คงไม่จบเพราะชาวบ้านก็จะทำการปิดถนนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
ด้านว่าที่ร้อยเอก อัคคเดช เมธาวีรดากุล ปลัดเทศบาลตำบลหนองสอ กล่าวว่า การชุมนุมขับไล่นั้น เชื่อว่า เป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น และเกิดขึ้นจากนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองสอ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไม นายกฯถึงไม่ชอบตน เพราะก่อนหน้านี้ตั้งแต่การหาเสียง นายกเทศบาลตำบล ก็ประกาศนโยบายที่หากเข้ามาบริหารงานแล้วก็จะขับไล่ตนออกจากพื้นที่ และเมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาไม่ถึงเดือน พฤติกรรมที่ไม่ลงรอยกันก็เกิดขึ้น
กระทั่งมีการเดินขบวนขับไล่ตนถึง 4 ครั้ง และมีการตั้งกรรมการสอบสวน และผลก็ปรากฏว่าไม่สามารถเอาผิดกับตนได้ จึงได้มีการส่งตนกลับไปทำงานที่เดิม แต่แล้วก็ยังคงมีการขับไล่ออกมาอีก
“เรื่องนี้ต้องร้องขอความเป็นธรรมด้วย เพราะตามระเบียบนั้น หากทางจังหวัดไม่สามารถที่จะให้ตนย้ายได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจ หรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ว่าง แต่ในพื้นที่กาฬสินธุ์ ไม่มีตำแหน่งที่ว่างอีกทั้งปัญหานี้ ยืนยันว่า เป็นเรื่องของการเมืองที่ตนไม่สามารถจะรับใช้ นายกฯที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต จึงเกิดปัญหานี้” ว่าที่ร้อยเอก อัคคเดช กล่าว
ปลัดเทศบาลตำบลหนองสอ กล่าวต่อไปว่า การเคลื่อนไหวมวลชนนั้น เชื่อว่า จะเกิดจากการที่ตนได้ทำการตรวจสอบสุขภาพ เจ้าหน้าที่รวมถึงข้าราชการบางคน ที่มีพฤติกรรมเสพยาบ้า และเมื่อผลออกมาก็ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่และข้าราชการบางคนมีฉี่สีม่วง จึงต้องการให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมหรือไม่ หากต้องการให้ตนย้ายออกไปจริง นายกเทศบาลตำบลหนองสอก็ควรที่จะต้องลาออกไปด้วย
ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหานี้ได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องจาก นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เพราะเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน อีกทั้งต้องยอมรับว่าตามระเบียบข้อบังคับในสายปกครอง ผู้ว่าฯหรือคนที่มีอำนาจเองในมหาดไทยเองไม่สามารถที่จะย้ายปลัดออกจากพื้นที่ได้
เพราะจะต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และยอมรับว่า เป็นปัญหาที่ทางจังหวัดไม่สามารถจะดำเนินการอะไรได้เลยถ้าหากปลัดไม่สมัครใจก็จะผิดกฎหมาย แต่เพื่อความละมุนละม่อม ก็ได้สั่งการให้ นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ได้ขอความร่วมมือกับทางปลัดเทศบาลตำบล รวมไปถึงที่ชาวบ้านให้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง แต่เชื่อว่าการเจราจรน่าจะยุติลงได้ด้วยดี
ด้าน นายนิมิตร รองภัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นในเส้นทางไดโนเสาร์ขณะนี้ไม่สามารถที่จะประเมินได้ เนื่องจากรถทัวร์ที่จะเดินทางไปชมไดโนเสาร์ไม่สามารถที่จะสัญจรไปมาได้ ทั้งที่ปัญหาเกิดขึ้นจากความขัดแย้งของชาวบ้าน จึงต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันแล้วร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีก่อนที่จะทำให้ธุรกิจเสียหายไปมากกว่านี้