ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สาธารณสุขเชียงใหม่เผยปัญหาคุณภาพอากาศส่งผลกระทบทำให้ยอดผู้ป่วยพุ่งขึ้นเท่าตัว ชี้แค่ มี.ค.53 ครึ่งเดือนเข้ารับการรักษาแล้ว 4 หมื่นราย คาด เมื่อถึงสิ้นเดือนทะลุ 100,000 รายแน่ ยอมรับมีความเป็นห่วงสถานการณ์รุนแรงเข้าขั้นวิกฤต เบื้องต้นประสานจังหวัดเตรียมพร้อมแผนอพยพประชาชนแล้วกระทบสุขภาพหนัก แนะฉีดพ่นละอองน้ำช่วยลดปริมาณฝุ่น
จากสถานการณ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหาคุณภาพอากาศ หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยตรวจวัดพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินค่ามาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษติดต่อกันหลายวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพนั้น
วันนี้ (19 มี.ค.) นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ดังกล่าวสัมพันธ์กับจำนวนประชานที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพที่เข้ารับบริการจากหน่วยบริการสุขภาพสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โดยระหว่างวันที่ 1-17 มี.ค.53 พบมีผู้ป่วยเข้ารับบริการประมาณ 40,000 ราย ในอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคหืดหอบ โรคภูมิแพ้ โรคความดันโลหิตสูง และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
จำนวนผู้ป่วยดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากช่วงปกติที่จะมีเฉลี่ยเดือนละประมาณ 40,000 คน และมีแนวโน้มสูงที่จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นเกิน 100,000 คน เมื่อถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ หากสถานการณ์ปัญหายังคงอยู่
สำหรับหน้ากากอนามัยที่จัดเตรียมไว้แจกจ่ายประชาชน เพื่อสวมใส่ป้องกันตัวเองในช่วงสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศนั้น นายแพทย์วัฒนา กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการแจกจ่ายหน้ากาอนามัยไปแล้วประมาณ 200,000 ชิ้น จากที่จัดเตรียมไว้ทั้งหมด 250,000 ชิ้น
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข กำลังเตรียมที่จัดสรรหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมให้อีก 2 ล้านชิ้น เพื่อแจกจ่ายในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่กำลังประสบปัญหาคุณภาพอากาศอยู่ ทั้งนี้ชี้แจงว่า การสวมใส่หน้ากากอนามัยนั้น เป็นเพียงการป้องกันฝุ่นละอองในเบื้องต้นและได้ผลระดับหนึ่งเท่านั้น หากมีความจำเป็นต้องออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร เพราะไม่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ ได้ ซึ่งวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือการอยู่ในบ้าน และหากมีโรคประจำตัวควรสำรองยาเอาไว้เผื่อกรณีอาการกำเริบ
ขณะเดียวกัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวยอมรับว่า มีความเป็นห่วงเช่นกันว่าสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงถึงขั้นวิกฤติ ซึ่งเบื้องต้นได้มีการประสานกับทางจังหวัดเชียงใหม่ในการจัดทำแผนอพยพประชาชนแล้วหากเกิดสถานการณ์วิกฤต จนกระทบสุขภาพประชาชนอย่างรุนแรง เช่น ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 อยู่ในระดับ 300-400 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันหลายวัน เป็นต้น
เบื้องต้นเสนอให้ทุกตำบลพร้อมทำการดัดแปลงโรงยิมของโรงเรียนในพื้นที่ไว้เป็นจุดรองรับด้วยการติดตั้งเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำไว้โดยรอบเป็นม่านละอองน้ำป้องกันฝุ่นควัน รวมทั้งมีการจัดเตรียมความพร้อมด้านต่างพร้อมรับหากเกิดสถานการณ์จริง
นอกจากนี้ ในส่วนของการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศในเวลานี้นั้น นายแพทย์วัฒนา กล่าวว่า ได้มีการเสนอให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำวิธีการฉีดพ่นละอองน้ำมาช่วยในการลดปริมาณฝุ่นที่อยู่ในอากาศ เนื่องจากละอองน้ำที่ฉีดพ่นจะไปจับตัวกับฝุ่นที่ปนเปื้อนในอากาศและทำให้ตกลงสู่พื้น ซึ่งน่าจะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองที่ปนเปื้อนในอากาศลงได้ในระดับหนึ่ง คาดว่าจะได้รับความร่วมมือในการนำวิธีการนี้มาใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และมีส่วนช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาลงได้ในระดับหนึ่ง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ช่วงค่ำวานนี้ (18 มี.ค.) เกิดฝนตกหนักและลมพัดแรงในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กลงได้บ้าง โดยวันนี้ (19 มี.ค.) ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ ทั้งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศ ลดต่ำลงมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว
จากสถานการณ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหาคุณภาพอากาศ หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยตรวจวัดพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินค่ามาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษติดต่อกันหลายวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพนั้น
วันนี้ (19 มี.ค.) นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ดังกล่าวสัมพันธ์กับจำนวนประชานที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพที่เข้ารับบริการจากหน่วยบริการสุขภาพสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โดยระหว่างวันที่ 1-17 มี.ค.53 พบมีผู้ป่วยเข้ารับบริการประมาณ 40,000 ราย ในอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคหืดหอบ โรคภูมิแพ้ โรคความดันโลหิตสูง และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
จำนวนผู้ป่วยดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากช่วงปกติที่จะมีเฉลี่ยเดือนละประมาณ 40,000 คน และมีแนวโน้มสูงที่จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นเกิน 100,000 คน เมื่อถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ หากสถานการณ์ปัญหายังคงอยู่
สำหรับหน้ากากอนามัยที่จัดเตรียมไว้แจกจ่ายประชาชน เพื่อสวมใส่ป้องกันตัวเองในช่วงสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศนั้น นายแพทย์วัฒนา กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการแจกจ่ายหน้ากาอนามัยไปแล้วประมาณ 200,000 ชิ้น จากที่จัดเตรียมไว้ทั้งหมด 250,000 ชิ้น
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข กำลังเตรียมที่จัดสรรหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมให้อีก 2 ล้านชิ้น เพื่อแจกจ่ายในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่กำลังประสบปัญหาคุณภาพอากาศอยู่ ทั้งนี้ชี้แจงว่า การสวมใส่หน้ากากอนามัยนั้น เป็นเพียงการป้องกันฝุ่นละอองในเบื้องต้นและได้ผลระดับหนึ่งเท่านั้น หากมีความจำเป็นต้องออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร เพราะไม่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ ได้ ซึ่งวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือการอยู่ในบ้าน และหากมีโรคประจำตัวควรสำรองยาเอาไว้เผื่อกรณีอาการกำเริบ
ขณะเดียวกัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวยอมรับว่า มีความเป็นห่วงเช่นกันว่าสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงถึงขั้นวิกฤติ ซึ่งเบื้องต้นได้มีการประสานกับทางจังหวัดเชียงใหม่ในการจัดทำแผนอพยพประชาชนแล้วหากเกิดสถานการณ์วิกฤต จนกระทบสุขภาพประชาชนอย่างรุนแรง เช่น ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 อยู่ในระดับ 300-400 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันหลายวัน เป็นต้น
เบื้องต้นเสนอให้ทุกตำบลพร้อมทำการดัดแปลงโรงยิมของโรงเรียนในพื้นที่ไว้เป็นจุดรองรับด้วยการติดตั้งเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำไว้โดยรอบเป็นม่านละอองน้ำป้องกันฝุ่นควัน รวมทั้งมีการจัดเตรียมความพร้อมด้านต่างพร้อมรับหากเกิดสถานการณ์จริง
นอกจากนี้ ในส่วนของการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศในเวลานี้นั้น นายแพทย์วัฒนา กล่าวว่า ได้มีการเสนอให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำวิธีการฉีดพ่นละอองน้ำมาช่วยในการลดปริมาณฝุ่นที่อยู่ในอากาศ เนื่องจากละอองน้ำที่ฉีดพ่นจะไปจับตัวกับฝุ่นที่ปนเปื้อนในอากาศและทำให้ตกลงสู่พื้น ซึ่งน่าจะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองที่ปนเปื้อนในอากาศลงได้ในระดับหนึ่ง คาดว่าจะได้รับความร่วมมือในการนำวิธีการนี้มาใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และมีส่วนช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาลงได้ในระดับหนึ่ง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ช่วงค่ำวานนี้ (18 มี.ค.) เกิดฝนตกหนักและลมพัดแรงในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กลงได้บ้าง โดยวันนี้ (19 มี.ค.) ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ ทั้งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศ ลดต่ำลงมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว