แม่ฮ่องสอน – หมอกควันคลุมแม่ฮ่องสอน ทะลุเกินเพดานเกือบ 5 เท่าตัวแล้ว ทำชาวบ้านต้องเดินเข้าออกโรงพยาบาลทุกวัน ฟันธงสุดสุดรอบ 20 ปี “นกแอร์”ต้องหยุดบินเข้าติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แถมยังไม่รู้จะบินได้เมื่อไหร่
นายประมินทร์ วัฒนวารี หัวหน้ากลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีควันไฟป่าปกคลุมหลายพื้นที่ ในวันนี้ (18 มี.ค.) คุณสภาพอากาศวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM10) วัดได้ 518.5 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ส่วนดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) วัดได้ 409
ทั้งนี้ สภาพอากาศของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันไฟป่าหนาทึบอย่างที่ไม่เคยปรากฏ ถือว่าหนักสุดในรอบ 20 ปี ผลการตรวจวัดพบคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานมากอยู่ในระดับเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ สาเหตุมาจากการเกิดไฟป่าในพื้นที่ที่มีให้เห็นมากกว่าทุกปี และจากสภาพภูมิประเทศภายในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นแอ่งกระทะ ทำให้กลุ่มหมอกควันไม่สามารถลอยตัวขึ้นสูงได้
จึงทำให้การสะสมของควันไฟแน่นหนาถึงขั้นมืดฟ้ามัวดิน มีค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็กสูง ซึ่งสูงเกินค่ามาตรฐานมากและสูงที่สุดในภาคเหนือ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่จำเป็นต้องออกนอกบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการสูดดมหมอกควันเข้าสู่ร่างกาย
ด้าน นพ.สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ยอดผู้ป่วยที่มีผลกระทบจากควันไฟแล้วกว่า 12,914 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ รองลงมาคือ โรคหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน มียอดผู้ป่วยจากผลกระทบจากควันไฟป่าเข้าทำการรักษาเนืองแน่นแทบทุกวัน
สำนักงานสาธารณสุขจังหัดแม่ฮ่องสอน ได้แจกหน้ากากอนามัยให้แก่สถานีอนามัย 7 อำเภอ และเทศบาล จำนวน 47,000 ผืน และได้ขอสนับสนุนหน้ากากอนามัยจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มเติมอีก
ขณะที่ นายพีรัตน์ เรืองสุกใส หัวหน้าสถานอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทัศนวิสัยที่มองเห็นประมาณ 1,600 เมตร ถือว่าทัศนวิสัยเลวร้ายมาก การคมนาคมทางอากาศย่ำแย่ สายการบินนกแอร์ที่ทำการบินสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนวันละ 3 เที่ยวบิน ต้องยกเลิกทุกเที่ยวบินติดต่อกันมาเป็นวันที่ 4 โดยที่ไม่มีกำหนดว่าจะสามารถทำการบินได้เมื่อใด เนื่องจากทัศน์วิสัยมองเห็นในการบินมีน้อยมาก สภาพหมอกควันนับวันย่ำแย่ลงทุกวัน
“มองจากวัดพระธาตุดอยกองมูลงมาไม่เห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอน”
นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวถึงวิกฤตหมอกควันในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอมรับว่า มีความรุนแรงจนต้องประกาศให้ทั้ง 7 อำเภอเป็นพื้นที่วิกฤตจากหมอกควันไฟป่า โดยชี้สาเหตุที่หมอกควันปกคลุมมากเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี นอกจากการเกิดไฟป่าในพื้นที่แล้วส่วนหนึ่งมาจากการเกิดไฟป่าในฝั่งพม่า กลุ่มหมอกควันลอยเข้ามาเพิ่มอีกเท่าตัว ทำให้แม่ฮ่องสอนปีนี้ประสบปัญหาหมอกควันไฟปกคุมอย่างรุนแรงกว่าทุกๆ ปี
ส่วนการแก้ปัญหาที่ทำได้ในขณะนี้ คือ การแนะนำประชาชนป้องกันตนเองจากหมอกควัน และการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟให้ถี่ขึ้นจากเดิมเท่านั้น