ศูนย์ข่าวศรีราชา - พบซากลูกโลมายาว 1.20 ลอยติดชายฝั่งทะเล อ.เมืองตราด คาดตายมาหลายวันเนื่องจากเน่าเปื่อย กลุ่มอนุรักษ์เผยเป็นตัวที่ 8 ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่บริเวณบ้านสะพานหิน หมู่ 5 ต.แหลมกลัด นายเสนอ จันทเสน รองประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ บ้านสะพานหิน ได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่าเมื่อช่วงสายของวันนี้ขณะที่ชาวบ้านที่มีอาชีพทำประมงพื้นบ้านได้ออกทำการประมงตามปกติ ได้พบซากโลมามีลักษณะเน่าเปื่อยลอยมาติดอยู่บริเวณชายหาด จึงพร้อมด้วยกลุ่มอนุรักษ์และชาวบ้านเดินทางไปตรวจสอบ พบโลมาตัวดังกล่าวเป็นพันธุ์อิระวดี มีความยาวประมาณ 1.20 เมตร ลักษณะของโลมาเน่าเปื่อย แม้แต่โครงกระดูกส่วนลำตัวก็ไม่มีเหลือ สภาพตัวโลมา ถูกน้ำทะเลซัดจนขาวซีดเหลือแต่หนังและบริเวณศรีษะที่สามารถระบุได้ว่าเป็นโลมาพันธุ์อิระวดี ซึ่งชาวบ้านและนักอนุรักษ์ได้ช่วยกันนำซากโลมาขึ้นมาจากทะเลและทำการขุดหลุมฝัง
นายเสนอกล่าวว่า โลมาตัวนี้เป็นตัวที่ 8 ในรอบ 3 เดือนที่พบว่าเสียชีวิต โดยตัวแรก เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2552 จนถึงปัจจุบันนี้พบว่ามีโลมาเสียชีวิตไปแล้วทั้งสิ้น 8 ตัว และ 1 ใน 8 ตัวนี้มี ลูกโลมาด้วย 1 ตัว โดยก่อนหน้าที่จะพบซากโลมาตัวนี้ เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) กลุ่มอนุรักษ์และชาวประมงก็พบซากโลมาเสียชีวิตที่มีความยาวประมาณ 1.20 เมตร แต่สภาพของโลมายังไม่เน่าเปื่อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยชายฝั่ง จ.ระยอง ได้แจ้งให้ชาวบ้านได้ทราบว่าโลมาตัวดังกล่าวมีอายุได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น จากนั้นได้นำซากกลับไปเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต
สำหรับสาเหตุที่ทำให้โลมาเสียชีวิตอยู่บ่อยน่าจะเกิดจากการที่โลมาติดอวนของชาวประมง เนื่องจากขณะทำการประมงโลมามักจะว่ายน้ำเคียงคู่กับอวนและเรือของชาวประมง บางครั้ง โลมาก็ติดอวนทำให้สำลักน้ำและขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต หรืออาจจะเป็นเพราะถูกใบพัดของเรือตีเข้าที่บริเวณลำตัว หรือศีรษะ จนเป็นให้เสียชีวิตได้ด้วยเช่นกัน