ตราด - พบซากปลาโลมาตายเกยตื้นหาดบ้านสะพานหิน จ.ตราด คาดติดอวนเรืออวนลากคู่ เผยโลมาเสียชีวิตมาแล้ว 4 ตัวในรอบ 2 เดือน นายกอบต.แหลมกลัดระบุ มีล่าเนื้อขาย
นายบุญโน๊ต ภู่มณี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด ว่า เมื่อเย็นวานนี้ ได้มีลูกบ้านแจ้งมาว่าพบโลมาตายเกยตื้นที่บริเวณชายหาดบ้านสะพานหิน จึงได้ออกไปตรวจสอบพร้อมกับชาวบ้าน และพบว่ามีโลมาตายเกยตื้น ลักษณะเน่าเปื่อย และไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโลมาชนิดใด เนื่องจากบริเวณศีรษะของปลาไม่มีแล้ว ความยาวประมาณ 1.20 ซม. น้ำหนัก 30-50กิโลกรัม จึงได้ช่วยกันนำซากโลมามาทำการฝังไว้
นายบุญโน๊ต กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีโลมาเสียชีวิตแล้วในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 4 ตัว และมี 1 ใน 4 ตัวนั้นเป็นลูกโลมาด้วย ซึ่งซากโลมาตัวแรกที่พบลอยอยู่กลางทะเล เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเลือกตั้งตนเองไม่ได้ออกไปตรวจสอบแต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้านที่ทำอาชีพประมงพบและถ่ายรูปมาให้ดู ซึ่งพบว่าลอยอยู่กลางทะเล ส่วนตัวที่ 2-3 (1 ตัวเป็นลูก) พบลอยอยู่กลางทะเลก่อนที่จะพบโลมาตัวนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และตัวล่าสุดที่พบเมื่อวานนี้
“เนื่องจากอ่าวแหลมกลัดจะมีโลมาอาศัยอยู่จำนวนมาก และพบว่ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับช่วงนี้มีเรืออวนลากคู่เข้ามาทำประมงในอ่าวแหลมกลัดกันมากขึ้น และน่าจะมีส่วนทำให้ โลมาเหล่านี้ตาย เนื่องจากติดอวน และถูกใบพัดของเรือตีจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตอนนี้ ทางชาวบ้านได้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์ขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานของทางราชการ คือกรมทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ ต.แหลมกลัดแล้วเพื่อร่วมดูแลอีกทางหนึ่งด้วย”นายบุญโน๊ต กล่าว
ทางด้านนายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายกอบต.แหลมกลัด กล่าวว่า ปัญหาการเสียชีวิตของโลมาในพื้นที่ ต.แหลมกลัด ส่วนใหญ่จะเกิดจากเรือลากคู่ที่มาจับปลาในบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง และส่งกระทบกับแหล่งที่อยู่อาศัยของโลมา เนื่องจากพื้นที่อ่าวตราดหน้าตำบลแหลมกลัด มีโลมาฝูงใหญ่กว่า 100 ตัวอาศัยอยู่ ซึ่งทาง อบต.ได้ร่วมมือกับกลุ่มอนุรักษ์และเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์ฯ ที่ตั้งสำนักงานเพื่อควบคุมและดูแลโลมาในพื้นที่เพื่ออนุรักษ์และป้องกันการล่าโลมา
ที่ผ่านมามีชาวบ้านนำเนื้อโลมาที่อ้างว่าตายแล้วมาขายให้กับทางประชาชน ซึ่งทางอบต.ได้กำชับไม่ให้มีการกระทำดังกล่าวเนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากยังกระทำอยู่ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
นายบุญโน๊ต ภู่มณี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด ว่า เมื่อเย็นวานนี้ ได้มีลูกบ้านแจ้งมาว่าพบโลมาตายเกยตื้นที่บริเวณชายหาดบ้านสะพานหิน จึงได้ออกไปตรวจสอบพร้อมกับชาวบ้าน และพบว่ามีโลมาตายเกยตื้น ลักษณะเน่าเปื่อย และไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโลมาชนิดใด เนื่องจากบริเวณศีรษะของปลาไม่มีแล้ว ความยาวประมาณ 1.20 ซม. น้ำหนัก 30-50กิโลกรัม จึงได้ช่วยกันนำซากโลมามาทำการฝังไว้
นายบุญโน๊ต กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีโลมาเสียชีวิตแล้วในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 4 ตัว และมี 1 ใน 4 ตัวนั้นเป็นลูกโลมาด้วย ซึ่งซากโลมาตัวแรกที่พบลอยอยู่กลางทะเล เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเลือกตั้งตนเองไม่ได้ออกไปตรวจสอบแต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้านที่ทำอาชีพประมงพบและถ่ายรูปมาให้ดู ซึ่งพบว่าลอยอยู่กลางทะเล ส่วนตัวที่ 2-3 (1 ตัวเป็นลูก) พบลอยอยู่กลางทะเลก่อนที่จะพบโลมาตัวนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และตัวล่าสุดที่พบเมื่อวานนี้
“เนื่องจากอ่าวแหลมกลัดจะมีโลมาอาศัยอยู่จำนวนมาก และพบว่ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับช่วงนี้มีเรืออวนลากคู่เข้ามาทำประมงในอ่าวแหลมกลัดกันมากขึ้น และน่าจะมีส่วนทำให้ โลมาเหล่านี้ตาย เนื่องจากติดอวน และถูกใบพัดของเรือตีจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตอนนี้ ทางชาวบ้านได้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์ขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานของทางราชการ คือกรมทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ ต.แหลมกลัดแล้วเพื่อร่วมดูแลอีกทางหนึ่งด้วย”นายบุญโน๊ต กล่าว
ทางด้านนายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายกอบต.แหลมกลัด กล่าวว่า ปัญหาการเสียชีวิตของโลมาในพื้นที่ ต.แหลมกลัด ส่วนใหญ่จะเกิดจากเรือลากคู่ที่มาจับปลาในบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง และส่งกระทบกับแหล่งที่อยู่อาศัยของโลมา เนื่องจากพื้นที่อ่าวตราดหน้าตำบลแหลมกลัด มีโลมาฝูงใหญ่กว่า 100 ตัวอาศัยอยู่ ซึ่งทาง อบต.ได้ร่วมมือกับกลุ่มอนุรักษ์และเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์ฯ ที่ตั้งสำนักงานเพื่อควบคุมและดูแลโลมาในพื้นที่เพื่ออนุรักษ์และป้องกันการล่าโลมา
ที่ผ่านมามีชาวบ้านนำเนื้อโลมาที่อ้างว่าตายแล้วมาขายให้กับทางประชาชน ซึ่งทางอบต.ได้กำชับไม่ให้มีการกระทำดังกล่าวเนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากยังกระทำอยู่ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
