xs
xsm
sm
md
lg

ลุยพิสูจน์ “ไม้ประดู่”รองผกก.สุรินทร์ฉาว – ตะลึง ! พบเจ้าของ ยึดป่า 500 ไร่ออกโฉนดตัดไม้ขาย 259 ต้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิสูจน์แหล่งที่มาไม้ฉาว “รองผกก.”สภ.บัวเชด ตลึงพบเจ้าของสวนป่าไม้สักทองยึดป่าชายแดนสุรินทร์ 500 ไร่ ออกโฉนด อ้างที่ดินมีเอกสารสิทธิ์และเป็นเจ้าของตัดไม้ประดู่ขายอื้อ 259 ตัน
สุรินทร์ - “พ.ต.ท.” รองผกก. สภ.บัวเชด เจ้าของไม้ประดู่ฉาว 100 ท่อน นำตร.-ทหาร-นักข่าว ลงพื้นที่พิสูจน์แหล่งที่มาของไม้ ตะลึงพบเจ้าของสวนป่าไม้สักทองยึดป่าชายแดน 500 ไร่ ออกโฉนด อ้างที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องและเป็นเจ้าของตัดไม้ประดู่ ขายให้ “รองผกก.ฉาว” 259 ต้น ด้านฝ่ายข่าวกรองทหารชี้ ทำกันเป็นขบวนการใหญ่ เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย และติดตามพฤติกรรมมานาน ขณะบิ๊กตร.ภาค 3 เต้นไล่ตัวคนคาบข่าวบอกสื่อมวลชน

วันนี้ (11 มี.ค. )ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ภาสกร คงดารัตน์ ผู้กำกับกการ (ผกก.) สภ.บัวเชด สนธิกำลังกับตำรวจชายแดน (ตชด.) ที่ 214 อ.สังขะ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ และ นายรณภพ บุตรสยากรส์ ปลัดอาวุโสอำเภอบัวเชด ตรวจยึดรถบรรทุกเทรลเลอร์ 18 ล้อ จำนวน 2 คันบรรทุกไม้ประดู่มาเต็มคันรถรวมกว่า 100 ท่อน พร้อมด้วยคนขับรถและผู้ควบคุมรถ 4 คน ขณะบรรทุกไม้ออกมาจากบ้านจรัส ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อคืนวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย พ.ต.ท.ไท สกุลติรักษ์ รองผกก.สภ.บัวเชด แสดงตัวเป็นเจ้าของไม้ทั้งหมด กลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ นั้น

ล่าสุดช่วงบ่ายวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภาสกร คงดารัตน์ ผกก.สภ.บัวเชด พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไท สกุลติรักษ์ รอง ผกก.สภ.บัวเชด เจ้าของไม้ประดู่ฉาว , นายมนัส ศรีสำอาง อายุ 56 ปี ชาวบ้านจรัส ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่ตัดไม้ประดู่ ขายให้กับ พ.ต.ท.ไท ,เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายการข่าวกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 และสื่อมวลชน ได้เดินทางเข้าไปสำรวจแหล่งที่มาของไม้ประดู่ในพื้นที่ป่าไม้ บ้านจรัส ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่ พ.ต.ท.ไทย กล่าวอ้างแหล่งที่มา ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทาง จากถนนสายบัวเชด-ช่องสะงำ เข้าไปพื้นที่ป่าลึกเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร

โดยพื้นที่ป่าไม้ดังกล่าวพบว่า มีการปลูกไม้สักทองจำนวนหลายหมื่นต้น และตลอดเส้นทาง เข้าไปยังพื้นที่ป่าไม้เพื่อสำรวจแหล่งที่มาของไม้ประดู่ที่ถูกตัด พบว่ามีไม้ประดู่จำนวนมากถูกตัดโค่นลง ด้วยเลื่อยยนต์ และ ถูกเลื่อยเป็นท่อนๆ เตรียมพร้อมขนออกจากพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก

นายมนัส ศรีสำอาง ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ป่าและเป็นเจ้าของสวนป่าไม้สักทอง ดังกล่าวได้นำผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ไปดูหลักเขตที่ดิน ซึ่งอ้างว่าออกโฉนดอย่างถูกต้อง 2 หลักเขต โดยเป็นหลักเขตที่ดิน ที่ระบุว่า “หลักเขตที่ดิน 7 จ 7625 ส ร”

นายมนัส ศรีสำอาง เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งที่ดินผืนป่าแห่งนี้ว่า เมื่อประมาณ 16 ปีที่แล้ว ที่ดินผืนนี้เรียกว่าที่ดินป่าไม้เสื่อมโทรมบ้านจรัส มีเนื้อที่รวมกว่า 20,000 ไร่ และมีการเตรียมออกโฉนดที่ดินเพื่อจัดสรรแบ่งให้ประชาชนได้เข้าทำกิน แต่ที่ดินแปลงนี้ตกสำรวจไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ ตนจึงได้วิ่งเต้นให้มีการออกโฉนดให้ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ในการปลูกไม้เศรษฐกิจ ซึ่งตนสามารถวิ่งเต้นออกโฉนดให้แก่ประชาชนได้ และตนก็สามารถจับจองที่ดินแปลงนี้ในการออกโฉนด เป็นชื่อของตนจำนวน 500 ไร่ และทำการปลูกไม้สักทอง จำนวนหลายหมื่นต้น ขณะนี้อายุไม้สักทองประมาณ 17 ปี แล้ว

นายมนัส กล่าวต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตนลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จรัส หมดเงินไปหลายแสนบาท เมื่อ พ.ต.ท. ไท สกุลติรักษ์ รอง ผกก.สภ.บัวเชด มาติดต่อหาซื้อไม้ประดู่ และเห็นว่าสวนป่าของตนมีไม้ประดู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ เสนอขายให้ จำนวน 259 ต้น ในราคา 500,000 บาท

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ซื้อได้เข้ามาตัดไม้ประดู่ และทยอยนำรถมาบรรทุกขนออกไป จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ ตรวจยึดไว้ ซึ่งขอยืนยันว่า ไม้ประดู่ทั้งหมดที่ตัดออกไป ได้ตัดจากที่ดินของตนที่มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินอย่างถูกต้อง

ขณะที่ พ.ต.ท.ไท สกุลติรักษ์ รอง ผกก.สภ.บัวเชด เจ้าของไม้ประดู่ฉาว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียหายมาก หน้าที่ราชการที่ทำมา 27 ปี ถูกลบทิ้งหมด สิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงในขณะนี้คือ ไม้ที่ตนซื้อ เป็นไม้ที่ระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน เป็นการซื้อไม้มาจากที่ดินที่มีโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ตนยังไม่มีบ้านพักเป็นของตัวเอง อาศัยอยู่แต่บ้านราชการ จึงตัดสินใจซื้อไม้ประดู่กับเพื่อน ที่เป็นตำรวจอยู่คลองหลวง เพื่อนำไม้ไปแปรรูปที่ โรงงานไม้แปรรูป จ.พระนครศรีอยุธยา และจะนำไปสร้างบ้านพัก ที่ จ.นครราชสีมา

ขณะที่ พ.ต.อ.ภาสกร คงดารัตน์ ผกก.สภ.บัวเชด กล่าวว่า ในวันนี้ได้มาทำการตรวจสอบ แหล่งที่มาของไม้ ตามที่ผู้ขาย และผู้ซื้อ ได้นำหลักฐาน ไปแสดงกับตนที่ สภ.บัวเชด ซึ่งเบื้องต้นพอยืนยันว่าเป็นที่ดินที่มีโฉนด และได้ตรวจตอไม้ประดู่ที่ถูกตัดซึ่งได้มีการทำหลักฐาน เขียนตัวเลขกำกับไว้ที่ท่อนไม้และตอไม้ที่ถูกตัด ซึ่งก็ตรงกับไม้ที่บรรทุกออกไปจากป่า แต่ไม่ยืนยันว่าจะตรงกันทั้งหมดหรือไม่

อย่างไรก็ตามยังต้องรอเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบ เดินทางเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง เพราะวันนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบด้วย สำหรับไม้ประดู่ทั้งที่บรรทุกออกจากป่าไปแล้วและยังไม่ได้ขนย้ายออกจากป่าไปอีกจำนวนมาก ก็ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาให้ถูกต้องเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานาเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวฉาวโฉ่ การจับกุมไม้ของ รองผกก.สภ.บัวเชด ออกไป ปรากฏว่า ได้มีนายตำรวจระดับสูงหลายคนโดยเฉพาะจากตำรวจภูธรภาค 3 ร้อนตัวโทรศัพท์มาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสุรินทร์ว่า ใครเป็นคนนำเรื่องการจับกุมครั้งนี้ไปแจ้งให้กับผู้สื่อข่าวได้ทราบ

ขณะที่ทหารฝ่ายข่าวกรอง กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า กลุ่มลักลอบตัดไม้ชายแดนไทย-กัมพูชาส่งออกขายในพื้นที่นี้ทำกันเป็นขบวนการใหญ่ มีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องหลายฝ่าย และไม่ได้มีเฉพาะไม้ประดู่เท่านั้น แต่รวมถึงไม้พะยูง และไม้หวงห้ามอื่นๆ ด้วย โดยนายตำรวจที่มีชื่อมาเกี่ยวข้องนั้น ฝ่ายการข่าวทางทหารได้ติดตามพฤติกรรมมานานแล้ว ส่วนที่อ้างมาเป็นไม้มีแหล่งที่มาจากที่ดินมีเอกสารสิทธิ์อย่างถูกต้อง นั้น ต้องตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดว่ามีการสวมตอไม้หรือไม่ และที่สำคัญไม่ทราบว่าพื้นที่ป่าเขา กว่า 500 ไร่ ดังกล่าวสามารถออกโฉนดได้อย่างไร






พ.ต.ท.ไท สกุลติรักษ์ รอง ผกก.สภ.บัวเชด เจ้าของไม้ประดู่ฉาว
นายมนัส ศรีสำอาง เจ้าของสวนป่า 500 ไร่
พ.ต.อ.ภาสกร คงดารัตน์ ผกก.สภ.บัวเชด
กำลังโหลดความคิดเห็น