ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยอีสาน 19 จังหวัด กว่า 100 คน ปักหลักชุมนุมขอความเป็นธรรมจากรัฐบาลหน้าศาลากลางโคราชหวั่นไม่ได้รับเงินช่วยเหลือรายละกว่า 2 แสนบาท ชี้หลักเกณฑ์กำหนดคุณสมบัติไม่ครอบคลุม กก.ระดับจังหวัดไม่โปร่งใส เห็นแก่พรรคพวกตัวเอง ยันม็อบยาวจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจ เผยอีสานแห่ขึ้นทะเบียนกว่า 1 หมื่นคนหากผ่านคัดกรองคุณสมบัติเป็น“ผรท.”ตัวจริงหมดรัฐต้องจ่ายเงินกว่า 2,400 ล้าน
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ในพื้นที่ภาคอีสาน 19 จังหวัด เช่น จ.กาฬสินธุ์,นครพนม , สกลนคร และหนองคาย จำนวนกว่า 100 คน นำโดย นายบุญใส ก้อนดินจี่ ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 4 ภาค ได้เดินทางมาปักหลักชุมนุมรอฟังผลการประชุมของ คณะกรรมการกลั่นกรองคุณสมบัติระดับภาค ซึ่งมีการประชุมกันที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา
นายบุญใส ก้อนดินจี่ ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 4 ภาค กล่าวว่า วันนี้ (26 ม.ค.) ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้เรียกบรรดาแกนนำ ผรท.จากภาคอีสานทั้ง 19 จังหวัดมาร่วมประชุมในการคัดกรองคุณสมบัติ ผรท.ในระดับภาคหลังจากผ่านการคัดกรองระดับจังหวัดมาแล้ว เพื่อเข้ารับการช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วยการจ่ายเงินชดเชยให้คนละ 225,000 บาทตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 190/2552 เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับ ผรท. หลังรัฐบาลได้ประกาศยุติสงครามประชาชนและสัญญาจะให้ความช่วยเหลือตามนโยบาย 66/2523
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาขึ้นในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดคุณสมบัติของ ผรท.ที่จะได้รับสิทธิ์ มีความไม่เป็นธรรมหลายอย่าง เช่น กำหนดให้เฉพาะคนที่เกิดก่อนปี 2509 เท่านั้น, ผู้ที่เป็น ผรท.ที่ดำรงตำแหน่งเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือข้าราชการก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินจำนวนดังกล่าว รวมถึงผู้ที่มีรายได้มากกว่า 60,000 บาท/ปี ก็ถูกตัดสิทธิ์เช่นกัน และที่สำคัญคณะอนุกรรมการฯ ระดับจังหวัด โดยเฉพาะที่ จ.กาฬสินธุ์ไม่มีความโปร่งใส เห็นแก่พรรคพวกของตัวเอง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพี่น้องแนวร่วม ผรท.เป็นอย่างมาก จึงได้รวมตัวกันเดินทางมาปักหลักชุมนุมในวันนี้ที่ จ.นครราชสีมา
นายบุญใส กล่าวอีกว่า หลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนดขึ้นมีความไม่เป็นธรรมกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทั้งตัว ผรท. และแนวร่วมที่อาจไม่ได้เข้าป่าก็ควรมีสิทธิ์ในการรับการช่วยเหลือจากรัฐเช่นกันเพราะคนเหล่านี้ก็ถูกทางการกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์เช่นกัน ซึ่งจากการหารือกันวันนี้ยังหาข้อยุติไม่ได้ ฉะนั้นพี่น้อง ผรท.จะยังคงปักหลักรอความชัดเจนจากกองทัพภาคที่ 2 ต่อไปจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจจึงจะเดินทางกลับภูมิลำเนา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากฐานข้อมูลเดิมใน 19 จังหวัดภาคอีสาน มีกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยแจ้งขึ้นบัญชีไว้เพียง 3,817 ราย แต่ปัจจุบันมีผู้มาแจ้งลงทะเบียนมากกว่า 11,000 ราย ซึ่งหากทุกคนผ่านการกลั่นกรองคุณสมบัติว่าเป็น ผรท.ทั้งหมดจริง รัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยให้เฉพาะกลุ่ม ผรท.ของภาคอีสานรวมเป็นเงินกว่า 2,400 ล้านบาท