ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “มานิต” โผล่โคราช ย้ำตัดสินใจไขก๊อกพ้น รมช.สธ.สังเวยผลสอบทุจริตไทยเข้มแข็งหรือไม่หลังปีใหม่ อ้างจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแล ปชช.ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เหตุ สธ.เป็นกระทรวงหลัก พร้อมแจงยิบอ้างไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายการทำงานโครงการไทยเข้มแข็ง ส่วนกรณี จ.ราชบุรี ได้งบฯ เยอะเป็นโครงการเก่าที่ผลักดันมานานแล้ว ระบุอยู่หรือไปมั่นใจตอบคำถามได้ทุกเรื่องยืนยันยังไม่ท้อแท้
วันนี้ (29 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น.ที่สนามกีฬากลางเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาตรวจเยี่ยมการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุจราจรและการช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ทั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ในการดำเนินงานของศูนย์ความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ และลดการเสียชีวิตของประชาชนจากอุบัติเหตุจราจร
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีการแสดงความรับผิดชอบต่อผลสอบการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข หรือ SP2 ว่า เมื่อเช้านี้ได้พูดคุยกับนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซึ่งทาง รมว.สาธารณสุข บอกว่าให้อยู่ดูงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ก่อน เพราะในช่วงปีใหม่ กระทรวงสาธารณสุขถือเป็นกระทรวงหลักที่จะดูแลในเรื่องของความพร้อมโรงพยาบาล, เจ้าหน้าที่ รวมถึงรถกู้ชีพกู้ภัย ซึ่งวันนี้ตนก็เดินทางมาตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นประตูสู่อีสาน และประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนามากในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้นั้นจะแถลงในเรื่องใด นายมานิตบอกว่า ต้องดูอีกทีก่อน เพราะวันนี้ยังไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรเลย ตั้งแต่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จก็เดินทางมาที่ จ.นครราชสีมา ทันที
ต่อข้อถามที่ว่าหลังช่วงปีใหม่แล้วท่านจะไขก๊อกใช่หรือไม่ นายมานิตบอกว่า ขอดูก่อน ซึ่งตอนนี้จะเอาสิ่งที่คณะกรรมการที่มีข้อตรวจสอบต่างๆ มาอ่านดูนิดหนึ่งและได้ขอจากท่านนายกรัฐมนตรีมา ซึ่งในหลายเรื่องที่ท่านพูดถึงก็คงจะมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นการก้าวก่ายการทำงาน หรืออีกหลายเรื่อง ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมีข้อมูลเอกสาร โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นโครงการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ทำเรื่องเมกะโปรเจกต์มาตั้งแต่ปี 2547-48 ทำมาหลายปีแล้วเพียงแต่ว่ามันยังไม่มีเม็ดเงิน พอมามีเม็ดเงินในช่วงปีนี้ ทางรัฐบาลจัดเงินกู้ขึ้นมา
ส่วนตนเมื่อไปทำงานตามโรงพยาบาลต่างๆ ในต่างจังหวัดก็ได้รับการร้องขอจากหน่วยงานหรือท้องที่ ตนก็มีหน้าที่นำส่งปัญหานั้นให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันนี้จะถือว่าผมก้าวก่ายการทำงานก็คงไม่ใช่ เพราะเวลาไปตรวจเยี่ยมตามจังหวัดหรือตามอำเภอต่างๆ การร้องขอเป็นเรื่องที่เราในฐานะ รัฐมนตรีช่วยฯ เราคงจะบอกว่าเราไม่รับผิดชอบหรือไม่ได้ดูแลหน่วยงานนั้นก็คงไม่ใช่ ก็คงจะเป็นเรื่องของการที่ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ดูแลโดยตรง เราก็คงต้องนำปัญหาของพี่น้องประชาชนไปส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้ได้เล่าให้คณะกรรมการที่ตรวจสอบทราบไปแล้ว
นายมานิตกล่าวต่อว่า กรณีโครงการใน จ.ราชบุรี นั้นได้บอกไปว่าเป็นคำขอตั้งแต่ปี 2548 มีการทำเรื่องขอจากกระทรวง และตอบไปที่โรงพยาบาลแล้วว่าพร้อมหรือไม่ที่จะทำเป็นศูนย์โรคเฉพาะทาง หรือ “เอ็กซ์เรนเซ็นเตอร์” ซึ่งทุกอย่างอยู่ในแผนหมด เพียงแต่ว่าเมื่อมีการดำเนินการถึงขั้นนี้ตนได้บอกทุกจังหวัดว่า ถ้ามีขออยู่เดิมท่านต้องเอาไปปรับปรุงให้ตรงกับภาวะปัจจุบัน ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ ท่านต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง ตรงนี้เรียนยืนยันว่าการดำเนินการทั้งในส่วนที่ตนดูแลเงินทุกบาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ได้พูดไปแล้วว่ายังไม่มีการจ่ายให้ใคร บางเรื่อง ทีโออาร์ยังไม่ได้เขียนด้วยซ้ำ ซึ่งก็คงจะต้องมีการพูดคุยกันต่อ
ต่อข้อถามว่าหากรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขชุดนี้ลาออกจะทำให้นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขหยุดชะงักหรือไม่ นายมานิตบอกว่า เอาเป็นว่าวันนี้มาตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ จ.นครราชสีมา ก่อนแล้วค่อยมาพูดคุยกัน ส่วนจะชี้แจงต่อพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ ตอนนี้ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ขอทำงานในช่วงปีใหม่ก่อน
“ไม่รู้สึกท้อแท้ต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด วันนี้ก็ยังทำงานอยู่ในฐานะที่มาดูแลเรื่องการรณรงค์เรื่องอุบัติเหตุอุบัติภัยส่วนจะอยู่จะไปคงต้องมีสิ่งที่เราสามารถจะตอบคำถามได้ ตอบได้ทุกเรื่อง อย่างที่บอกว่า ถ้าเราทำงานแล้วจุดหมายปลายทางคือให้พี่น้องประชาชนคนไทยเราได้รับการบริการจากกระทรวงสาธารณสุข ผมพร้อมทำทุกเรื่อง ถึงแม้อาจจะดูเป็นการก้าวก่ายผมก็ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ในนามของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ผมก็ไม่ได้มีความกดดันอะไร เพราะดูกันตามข้อเท็จจริง” นายมานิตกล่าว