ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลุ่มพันธมิตรฯและชาวโคราชรักสงบสุข สุดทนรวมตัวแสดงเจตนารมณ์หน้า “ย่าโม” ก่อนเคลื่อนขบวนแจกแถลงการณ์พร้อมบุกจี้ “ผู้ว่าฯ–ผู้การ ตร.-นายกเล็ก ลูกเจ๊เกียว-มทภ.2” รื้อทิ้งป้ายเสนียดแผ่นดิน “นช.ทักษิณ” สัมภเวสีหนีคุกโผล่กลางเมืองย่าโม พร้อมดำเนินคดีเชือดผู้กระทำผิด ระบุชัด จงใจหลบหลู่เบื้องสูงติดป้ายนช.แทนพระบรมสาทิสลักษณ์ “ในหลวง” ทั้งปลุกระดม ปชช.สร้างแตกแยกในบ้านเมือง เป็นภัยต่อความมั่นคงและท้าทายกม.เหยียบย่ำศาลยุติธรรมไทย
วันนี้ (5 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.ที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จ.นครราชสีมา และประชาชนชาวโคราช นำโดย นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล รองประธานพันธมิตรฯ นครราชสีมา ได้รวมกันแสดงเจตนารมณ์คัดค้าน กรณีมีผู้นำแผ่นป้ายขนาดใหญ่ มีภาพของนักโทษชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมข้อความการอวยพรวันปีใหม่ 2553 ปลุกปั่นขอให้ชาวโคราชนำกลับประเทศไทยอย่างไม่ถูกต้อง มาติดตั้งบนผนังอาคารตึกร้าง บริเวณสี่แยกหนองบัวรอง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อยู่ในขณะนี้
ชี้ชัดจงใจหลบหลู่สถาบันเบื้องสูง
เหยียบย่ำศาล-ปลุกปั่นลากกลับบ้าน
ต่อมาได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อกรณีการติดตั้งป้ายภาพพร้อมข้อความของ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ดังกล่าว ดังนี้
1.เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากจุดที่ติดตั้งแผ่นป้ายของ นช.ทักษิณ นั้น เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ผู้กระทำได้ปลดออก แล้วนำแผ่นป้าย นช.ทักษิณ มาติดตั้งแทน การกระทำดังกล่าวนี้ส่อว่าผู้กระทำมีเจตนาลบหลู่สถาบันเบื้องสูงของชาติ อันเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเป็นความผิดตามกฎหมาย
จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวน ว่า เป็นการกระทำของผู้ใดและหากพบเป็นการกระทำผิดดังกล่าวจริง ขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องในฐานะผู้ร่วมกระทำผิด เพื่อธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายโดยเฉียบขาดต่อไป
2.การกระทำดังกล่าวส่อแสดงว่า ผู้กระทำผิดมีเจตนาแสดงต่อสาธารณชน ให้เห็นว่าสถาบันตุลาการ ซึ่งเป็นเสาหลักหนึ่งของชาติและเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดว่า นช.ทักษิณ เป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายนั้น ไม่มีความหมายในสายตาของผู้กระทำ และผู้ร่วมกระทำ เท่ากับเป็นการเจตนาทำลายล้างระบอบการปกครองของชาติ และเป็นการต่อต้านขัดขวางบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรที่ใช้บังคับในปัจจุบัน
3.การจะเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่นั้น เป็นสิทธิส่วนตัวของ นช.ทักษิณ ไม่มีใครต่อต้านขัดขวางได้ แต่เหตุที่ไม่กลับเพราะกลัวความผิดที่ได้กระทำเอาไว้ และกลัวว่าจะต้องมารับโทษตามกฎหมาย ดังนั้น นช.ทักษิณและผู้เกี่ยวข้องจึงมีเจตนาที่จะให้ นช.ทักษิณ กลับประเทศไทย ด้วยอำนาจพิเศษ นอกเหนือจากวิธีการตามบทบัญญัติของกฎหมาย เป็นการส่อเจตนาว่าจะมีการทำลายล้างระบอบการปกครองของประเทศชาติ เหยียบย่ำสถาบันหลักของชาติ และเป็นการเหยียบย่ำความศักดิ์สิทธิ์ของศาลสถิตยุติธรรม อันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นช.ทักษิณ ที่ยังคิดอยากจะมามีอำนาจในประเทศอีกจะต้องให้การยอมรับในสถาบันหลักของชาติและยอมรับในความศักดิ์สิทธิ์ของการวินิจฉัยชี้ขาดคดีของสถาบันตุลาการโดยเคร่งครัด จึงจะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำของชาติบ้านเมืองได้
“การกระทำของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ครั้งนี้เห็นว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามามีอำนาจในประเทศไทยได้อีก ไม่สมควรที่ประชาชนชาวไทยจะยอมรับนับถืออีกต่อไป” แถลงการณ์ระบุในตอนท้าย
บุกยื่น “ผู้ว่าฯ-ผู้การ-มทภ.2-ลูกเจ๊เกียว”
จี้รื้อทิ้งป้าย “นช.แม้ว” คนมลทินทำลายชาติ
จากนั้นประชาชนกลุ่มพันมิตรฯ และชาวโคราช ได้ร่วมกันแจกจ่ายแถลงการณ์ดังกล่าวแก่ประชาชนพร้อมเดินทางไปยื่นหนังสือข้อเรียกร้องพร้อมภาพถ่าย ต่อ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อคัดค้านและให้ตรวจสอบดำเนินการกับป้าย นช.ทักษิณ ดังกล่าว ประกอบด้วยนายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา, พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ลูกชาย นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าของตึกร้างติดตั้งป้ายนช.ทักษิณ -ที่ปรึกษากลุ่ม ส.ส.โคราชพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา และ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ที่กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งต่างได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือ
ทั้งนี้ รายละเอียดเนื้อหาหนังสือดังกล่าวระบุว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันบ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤตทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เราในฐานะคนไทยจำต้องตระหนักในอันที่จะผ่อนคลายภาวะการณ์ดังกล่าวด้วยการรู้รักสามัคคีและลดความขัดแย้ง แต่ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลหรือบุคคลได้กระทำการอันอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม อันเป็นการซ้ำเติมวิกฤต โดยนำเอาภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมข้อความอันอาจก่อให้เกิดวามขัดแย้งในสังคมเมืองโคราช มาติดไว้บริเวณอาคารซึ่งอยู่มุมสี่แยกวัดหนองบัวรอง ซึ่งเดิมใช้ติดพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลปัจจุบัน
การกระทำดังกล่าวเป็นที่โจษจันของคนโคราชว่า สมควรหรือไม่ มีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ และเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้มีคดีความมากมาย รวมทั้งคดีหมิ่นฯ ในหลวง บางคดีอยู่ในชั้นตำรวจ อัยการ บางคดีศาลตัดสินลงโทษและคดีถึงที่สุดแล้ว
อีกทั้งหลายคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล เช่น คดีกล้ายาง, คดีหวยบนดิน, คดีออกกฎหมายแก้ไขสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียม, คดีปล่อยให้รัฐบาลพม่ากู้เงิน 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังให้การสนับสนุนบุคคล และกลุ่มบุคคลกระทำการหมิ่นเหม่ หรือผิดกฎหมาย เช่น นายวีระ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด, นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง, นางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล, นายสุชาติ นาคบางไทร ซึ่งบางคนถูกตัดสินลงโทษจำคุกในข้อหาจาบจ้วงในหลวง บางคนอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี บางคนหลบหนีหมายจับไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งคดีดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคบคิดกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านในอันที่จะล้มล้างรัฐบาล มีการใช้เทคโนโลยีสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ออนไลน์ยุงยงประชาชนให้ ขัดแย้งและแตกแยกกันเพื่อล้มล้างอำนาจฝ่ายบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ อันเป็นสถาบันหลักของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
สนับสนุนยุยงให้ทหาร ตำรวจ ทั้งในและนอกราชการออกมาพูดจาข่มขู่ผู้บังคับบัญชา, ประชาชน และจาบจ้วงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์สถาบันศูนย์รวมจิตใจอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย เป็นการทำลายความสงบสุขและศีลธรรมอันดีงามของประชาชน
พวกเราในนามของพันธมิตรฯ จ.นครราชสีมา และชาวโคราชผู้รักความสงบสุข มีความไม่สบายใจ กังวลใจในการนำรูปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้มีมลทินและมีการกระทำที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองมาติดไว้ในที่อาคารดังกล่าว จึงใคร่กราบเรียนท่านได้โปรดพิจารณาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อความสงบสุขของชาวโคราช
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดนครราชสีมา และชาวโคราชผู้รักความสงบสุข