เชียงราย – กูรูแนะนักธุรกิจชายแดนปรับตัวรับการค้ากับจีน เตรียมตัวรับผลกระทบทั้งบวก-ลบ หลังสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ “ไทย-พม่า-ลาว-จีน” เปิดมากขึ้น
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าเมื่อเร็วๆ นี้ หอการค้า จ.เชียงราย นำโดยนายวิรุณ คำภิโล ประธานหอการค้า จ.เชียงราย จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 ณ ห้องสักทองโรงแรมทีค การ์เด้น สปา รีสอร์ท ตั้งอยู่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย โดยเป็นการประชุมเป็นปีแรกหลังจากนายวิรุณ เข้ารับตำแหน่ง
หลังจากมีการประชุมภายในและแจกแจงด้านงบประมาณรวมทั้งการดำเนินการที่ผ่านของคณะกรรมการหอการค้าชุดปัจจุบันแล้ว ได้จัดให้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง "เชียงรายจะได้อะไรจากสะพานข้ามแม่น้ำโขง(ถนนR3A)" มีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา และอดีต รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้บรรยายพิเศษ
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ภาคเศรษฐกิจและสังคมชุมชนในเชียงราย จะต้องมีการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยเฉพาะการจะทะลักเข้ามาของสินค้า การคมนาคม รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากปจีน ซึ่งจะมาตามทุกเส้นทางที่สะดวกสบายโดยเฉพาะถนน R3A ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้
ทั้งนี้คาดว่าเฉพาะผู้คนจากจีนตอนใต้ก็จะทะลักลงมาเป็นจำนวนมหาศาล ขณะเดียวกันคนจากทั่วทุกมุมโลกที่ต้องการสัมผัสกับสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจไทย-สปป.ลาว-พม่า-ไทย ก็จะเดินทางมาเช่นกัน
ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่คนในพื้นที่ต้องเรียนรู้ในการเข้ามาของสิ่งต่างๆ ซึ่งก็จะแฝงมาทั้งข้อดี-ข้อเสีย โดยเฉพาะข้อเสียนั้นเป็นประเด็นให้ขบคิดว่า เราจะดูแลอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้น หรือทำให้ผลกระทบกลายเป็นข้อดีสอดคล้องกับแผนการพัฒนา จ.เชียงราย ส่วนด้านสินค้า จะทำอย่างไรให้มีระบบการตรวจสอบ จัดการและติดตามเพื่อไม่ให้กระทบกับทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม
"สิ่งสำคัญสำหรับเชียงรายคือเราจะใช้ประโยชน์จากเมืองชายแดน ซึ่งเป็นหน้าด่านของเชียงรายได้อย่างไร”
ทั้งนี้ หากประสบความสำเร็จ จะทำให้เชียงรายมีการเติบโตด้านเศรษฐกิจเป็นอันมากพร้อมๆ กับการรักษาพื้นฐานความอบอุ่นทางวัฒนธรรมและเป็นที่รู้จักของชาวโลกด้วย
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า การส่งเสริมของภาครัฐแถบนี้ที่ผ่านมา ได้มีการตกลงในหลักการลดขั้นตอนการผ่านแดน แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพราะยังติดเงื่อนไขบางประการ อีกทั้งที่ผ่านมาคนในพื้นที่ต่างมองว่า ในการตกลงทางการค้ากับจีน เราเสียเปรียบเป็นประจำ
เขามองว่า การเจรจากับประเทศจีนหากจะใช้ข้อของกฎหมายในการเจรจาด้วย คงเป็นเรื่องยากแต่หากใช้ความสัมพันธ์ในฐานะเมืองต่อเมือง น่าจะง่ายกว่า และหากมีการรวมตัวเป็นกลุ่มจังหวัดไปเจรจาต่อรองกับมณฑลต่างๆ ของจีนจะทำได้ผลดีขึ้น