เชียงราย - ก.แรงงานฯ ร่วมเอกชน จัดสัมมนาเตรียมพร้อมรับเสรีแรงงานอาเซียน-GMS
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (19 ส.ค.) นี้ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสน ร่วมกับคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ หอการค้า จ.เชียงราย สภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย ได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง” ณ ห้องเชียงรุ้ง โรงแรมเวียงอินทร์ อ.เมือง จ.เชียงราย มีนายยุพ นานา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิด และนายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นำคณะให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน
ในการสัมมนา ตัวแทนกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ข้อมูลต่อผู้เข้าร่วมการการสัมมนาว่า ปัจจุบันไทยเป็นสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ที่ใกล้ชิดที่สุดได้แก่กลุ่มอาเซียนและกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียนมีการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งผู้นำแต่ละประเทศได้ลงนามในปฏิญญาบาหลีเพื่อนำอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี 2563 และเร่งรัดเป้าหมายเป็นปี 2558 หรืออีกประมาณ 6 ปีข้างหน้า มีการจัดทำเป็น “กฎบัตรอาเซียน” เพื่อให้เกิดการรวมตัวกันเป็นตลาดหรือฐานการผลิตเดียวกัน
เป็นที่มาของการเปิดเสรีกันภายในประชาคมอาเซียน เช่น ลดและยกเลิกภาษีทุกรายการเหลือ 0% ในปี 2553 ยกเว้นสินค้าอ่อนไหวให้ลดเหลือ 0-5% ยกเลิกการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เปิดเสรีการค้าบริการ ฯลฯ และที่เกี่ยวข้องกับการสัมมนาในครั้งนี้คือ “การเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือ” ซึ่งมีข้อตกลงให้บริหารจัดการเคลื่อนย้ายหรืออำนวยความสะดวกแรงงาน เช่น ออกใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพและแรงงานฝีมือ เป็นต้น
นายยุพ นานา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากเวทีการแข่งขันระหว่างประเทศต่างๆ พบว่าคนไทยมีฝีมือดีสามารถชนะเลิศได้เหรียญทอง เหรียญเงินและเหรียญทองแดงมาโดยตลอด จึงถือได้ว่าเราเป็นหนึ่งในประเทศที่มีฝีมือด้านแรงงานดีจึงไม่น่าเป็นห่วงหากถึงเวลาในการเปิดเสรีการใช้แรงงานในกลุ่มอาเซียนอย่างเป็นทางการในอนาคต คงเหลือเพียงการพัฒนาด้านวัสดุ อุปกรณ์ เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนเท่านั้น ซึ่งกรณีนี้ในการจัดสรรงบประมาณตามโครงการไทยเข้มแข็งได้มีการทุ่มงบประมาณกว่า 150,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งคือการพัฒนาระบบสาธาณูปโภคต่างๆ และการสร้างงานสร้างอาชีพ
“ในอนาคตเมื่อสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อม อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เชื่อมกับถนน R3A ไทย-สปป.ลาว-จีน ก็ยิ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาฝีมือแรงงานของไทยเพื่อป้อนกับความคึกคักดังกล่าวโดยเฉพาะด้านการค้าและลอจิสติกส์ ซึ่งผมเห็นว่าเรื่องฝีมือและเรื่องการเปิดเสรีไม่น่าห่วงสำหรับคนไทย”
ด้าน นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธาน คสศ.หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า คสศ.คำนึงถึงการที่ตลาดแรงงานฝีมือจะมีการเปิดเสรีในอนาคตโดยเฉพาะตามกฎบัตรอาเซียนหรือข้อตกลงต่างๆ ของกลุ่ม GMS เพราะต่อไปหากภาคเอกชนจากประเทศใดๆ เข้าไปลงทุนในอีกประเทศหนึ่งก็สามารถใช้แรงงานฝีมือตามที่ตัวเองต้องการได้ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะเสรีการใช้แรงงาน
นายพัฒนากล่าวอีกว่า และต่อไปก็จำเป็นในการขยายความร่วมมือไปยังประเทศจีน อินเดีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ของโลกด้วย