นักวิชาการเชื่อหลังยึดทรัพย์หางแดงประท้วงยาว

อุบลราชธานี - นักวิชาการด้านการปกครองท้องถิ่น มรภ.อุบลราชธานี ฟันธงหลังตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ประเทศยังมีความขัดแย้งอีกยาว เหตุรัฐด้อยให้ข้อมูลประชาชนไม่ครบถ้วนรอบด้าน ผิดกับอีกฝ่ายที่สร้างความเชื่อแบบตอกย้ำๆ ผ่านระบบหัวคะแนนและแผ่นวีซีดี ชี้สุดท้ายอาจต้องยุบสภาหาทางออกให้บ้านเมือง

นายสุเชาว์ มีหนองหว้า รองคณบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ภาควิชาการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และเป็นเลขาศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงการตัดสินคดี 76,000 ล้านบาทในพรุ่งนี้(26 ก.พ.) ว่า รัฐบาลยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการยึดทรัพย์ไม่ชัดเจนกับประชาชน ทำให้ประชาชนมีข้อสงสัยไม่เข้าใจว่า ทรัพย์ที่ถูกนำขึ้นศาลได้มาก่อนหรือหลังระหว่างการดำรงตำแหน่ง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำผิดอย่างไร

ผิดกับอีกฝ่ายที่ให้ข้อมูลความเชื่อแบบตอกย้ำๆ กรอกข้อมูลซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้ประชาชนที่ได้รับข้อมูลมีความเชื่อตาม กระทั่งนำไปสู่การโน้มน้าวชักจูงให้ประชาชนเข้าใจผิด และร่วมกระทำการล่วงละเมิดต่อศาล ซึ่งถือเป็นเสาหลักของความเชื่อถือของบ้านเมืองที่เหลืออยู่เพียงเสาเดียว

ถือเป็นจุดด้อยของรัฐบาล และเป็นโจทย์สำคัญในอนาคตว่า การให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างรอบด้านเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะการให้ข้อมูลก่อนวันตัดสินคดีไม่กี่วันไม่สามารถสร้างความเข้าใจกับประชาชนได้ ผิดกับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณที่ให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านระบบหัวคะแนนในพื้นที่ หรือการสื่อสารราคาถูก เช่น แผ่นวีซีดี

นักวิชาการรายนี้ ยังระบุต่อว่า หากศาลมีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเกิดความขัดแย้งรุนแรงตามมา และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะกินเวลายืดเยื้อยาวนานเป็นปี ทางออกสำหรับสังคมไทยเวลานั้น คงต้องหาทางออกด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพื่อบรรเทาเหตุการณ์ความขัดแย้งให้ดีขึ้น