ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค นำกำลังเข้าบุกทลายคลังน้ำมันเถื่อนยึดของกลางเกือบ 2 แสนลิตร มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
วันนี้ (18 ก.พ.53) พ.ต.อ.กฤศ โบว์สุวรรณ รอง ผบก.กองบังคับการปราบปรามกระทำความ ผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ) นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 41/2553 เข้าทำการตรวจค้นบริษัท วังทองออยล์ แอนเซอร์วิส จำกัด เลขที่ 59/9 ม.4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บาสงละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งปลอมปนน้ำมันเชื้อ เพลิงรายใหญ่ในภาคตะวันออก
ในที่เกิดเหตุพบว่าบริษัทดังกล่าวมีเนื้อกว่า 4 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ตรวจสอบเบื้องต้นพบรถ บรรทุกน้ำมัน 3 คัน ถังน้ำมันขนาด 15,000 ลิตรจำนวน 11 ถัง นอกจากนี้ยังพบกลุ่มคนงานกำลังผสมน้ามันดีเซลกับสารสารโซเวนท์ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายจึงเข้าทำการจับกุม
นอกจากนี้ยังตรวจยึดน้ำมันโซล่าดีเซล 114,000 ลิตร น้ำมันเบนซิน 91 จำนวน 41,200 ลิตร แกสโซฮอล์ จำนวน 7,200 ลิตร สารโซเวนท์ 800 ลิตร สีผสมน้ำมัน 8,400 ลิตร รวมของกลางทั้งหมดจำนวน 163,200 ลิตร รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางสาวไพรินทร์ โมฆรัตน์ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนดูแลไว้ พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่า ประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.ควบคุมน้ามันเชื้อเพลิง มีไว้ในความครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่ายังมิได้เสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนตาม พรบ. สรรพสามิตต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กฤศ โบสุวรรณ รอง ผบก.กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่าได้เข้าใช้บริการเติมน้ำมันจากปั้มดังกล่าวแล้วทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหาระบบสั่นรวน ทางผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงพากันเข้าร้องเรียนมายังหน่วยงานตน ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค
สำหรับโซเว้นท์ ถือเป็นสารที่กลั่นกรองมาแล้วจากน้ามันดีเซลและเบนซิน ซึ่งส่วนใหญ่สารดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีราคาถูก และสามารถนำมาผสมในน้ามันเบนซิน หรือ ดีเซล แต่คุณภาพของเชื้อเพลิงจะต่ำมาก หากมีการนำไปใช้กับรถยนต์ชนิดต่างๆ จะทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังฝากประชาสัมพันธ์ว่าผู้บริโภครายใดนำรถเข้าไปเติมน้ามันแล้วทำให้รถมีปัญหาขอให้ร้องเรียนมาที่หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ตลอดเวลา
การลักลอบจำหน่ายน้ำมันปลอมปนโดยมีสารสารโซเว้นท์เป็นตัวผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้รัฐและประชาชนผู้บริโภคได้รับความเสียหายโดยมีการวิเคราะห์ถ้านำสารสารโซเว้นท์มาปลอมปนในน้ำมันเบนซินจะให้รัฐขาดรายได้ภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆประมาณ 5 บาท ต่อการนำสารละลายมาปลอมปน 1 ลิตร ถ้านำไปปลอมปนในน้ำมันดีเซล รัฐจะขาดรายได้ 2.58 บาท ต่อลิตร
ส่วนผู้บริโภคที่นำน้ำมันปลอมปนไปใช้จะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายอย่างแรงจึงมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับกองบังการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกับการคุ้มครองผู้บริโภคจนเป็นที่มาของการจับกุมได้ในที่สุด
วันนี้ (18 ก.พ.53) พ.ต.อ.กฤศ โบว์สุวรรณ รอง ผบก.กองบังคับการปราบปรามกระทำความ ผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ) นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 41/2553 เข้าทำการตรวจค้นบริษัท วังทองออยล์ แอนเซอร์วิส จำกัด เลขที่ 59/9 ม.4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บาสงละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งปลอมปนน้ำมันเชื้อ เพลิงรายใหญ่ในภาคตะวันออก
ในที่เกิดเหตุพบว่าบริษัทดังกล่าวมีเนื้อกว่า 4 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ตรวจสอบเบื้องต้นพบรถ บรรทุกน้ำมัน 3 คัน ถังน้ำมันขนาด 15,000 ลิตรจำนวน 11 ถัง นอกจากนี้ยังพบกลุ่มคนงานกำลังผสมน้ามันดีเซลกับสารสารโซเวนท์ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายจึงเข้าทำการจับกุม
นอกจากนี้ยังตรวจยึดน้ำมันโซล่าดีเซล 114,000 ลิตร น้ำมันเบนซิน 91 จำนวน 41,200 ลิตร แกสโซฮอล์ จำนวน 7,200 ลิตร สารโซเวนท์ 800 ลิตร สีผสมน้ำมัน 8,400 ลิตร รวมของกลางทั้งหมดจำนวน 163,200 ลิตร รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางสาวไพรินทร์ โมฆรัตน์ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนดูแลไว้ พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่า ประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.ควบคุมน้ามันเชื้อเพลิง มีไว้ในความครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่ายังมิได้เสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนตาม พรบ. สรรพสามิตต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กฤศ โบสุวรรณ รอง ผบก.กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่าได้เข้าใช้บริการเติมน้ำมันจากปั้มดังกล่าวแล้วทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหาระบบสั่นรวน ทางผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงพากันเข้าร้องเรียนมายังหน่วยงานตน ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค
สำหรับโซเว้นท์ ถือเป็นสารที่กลั่นกรองมาแล้วจากน้ามันดีเซลและเบนซิน ซึ่งส่วนใหญ่สารดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีราคาถูก และสามารถนำมาผสมในน้ามันเบนซิน หรือ ดีเซล แต่คุณภาพของเชื้อเพลิงจะต่ำมาก หากมีการนำไปใช้กับรถยนต์ชนิดต่างๆ จะทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังฝากประชาสัมพันธ์ว่าผู้บริโภครายใดนำรถเข้าไปเติมน้ามันแล้วทำให้รถมีปัญหาขอให้ร้องเรียนมาที่หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ตลอดเวลา
การลักลอบจำหน่ายน้ำมันปลอมปนโดยมีสารสารโซเว้นท์เป็นตัวผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้รัฐและประชาชนผู้บริโภคได้รับความเสียหายโดยมีการวิเคราะห์ถ้านำสารสารโซเว้นท์มาปลอมปนในน้ำมันเบนซินจะให้รัฐขาดรายได้ภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆประมาณ 5 บาท ต่อการนำสารละลายมาปลอมปน 1 ลิตร ถ้านำไปปลอมปนในน้ำมันดีเซล รัฐจะขาดรายได้ 2.58 บาท ต่อลิตร
ส่วนผู้บริโภคที่นำน้ำมันปลอมปนไปใช้จะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายอย่างแรงจึงมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับกองบังการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกับการคุ้มครองผู้บริโภคจนเป็นที่มาของการจับกุมได้ในที่สุด
