สาวใหญ่นักธุรกิจสุดทน ขับเก๋ง “ฮอนด้า ซีวิค” มาทุบกลางโรงพักพหลโยธิน หลังซื้อมาใช้ได้แค่ 2 ปี แต่กลับมีปัญหาตลอด แฉวันรับรถถูกบังคับให้เซ็นรับสภาพว่าหากรถเกิดปัญหาทำได้แค่ส่งซ่อมเท่านั้นเปลี่ยนคันใหม่ไม่ได้ พอใช้ได้สัปดาห์เดียวก็มีเสียงดังทั้งคัน แถมปัญหาอีกสารพัด ต้องส่งซ่อมที่ศูนย์หัวหมากไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (22 พ.ย.) ที่ สน.พหลโยธิน นาง ชมพูนุท วานิชกุล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/65 ซอยบุญศิริ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ได้นำรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชว-5399 กทม.ที่เกิดปัญหาหลังจากซื้อมาตลอดระยะเวลา 2 ปี มาทุบต่อหน้าสื่อมวลชน
นางชมพูนุทเปิดเผยว่า ตนซื้อรถคันดังกล่าวมาจากโชว์รูมฮอนด้า ซัมมิท สาขาอุดมสุข เมื่อประมาณเดือน ก.ย.50 ในราคา 800,000 กว่าบาท โดยศูนย์นัดให้มารับรถเมื่อวันที่ 13 ก.ย.50 แต่เมื่อตนเข้าไปรับรถ พนักงานที่โชว์รูมกลับบอกว่ารถมีปัญหา และนัดให้ตนมารับรถอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เมื่อตนมาตามนัดทางโชว์รูมกลับให้ตนเซ็นสัญญารับสภาพว่าหากรถเกิดปัญหาภายหลังจะไม่สามารถเปลี่ยนคันใหม่ได้ ทำได้อย่างเดียวเพียงแค่เข้ามาซ่อมที่ศูนย์บริการเท่านั้น
“ดิฉันก็ยอมเซ็นสัญญา เพราะต้องการรถมาใช้ แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น รถก็เกิดปัญหามีเสียงดังทั้งคัน ดิฉันก็เอารถเข้าไปซ่อมที่ศูนย์บริการที่ออกรถ แต่ทางทีมช่างกลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้หายขาดได้ แก้ปัญหาได้เพียงแค่ตรงจุดที่เกิดเท่านั้น ซึ่งต่อมาปัญหาใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาอีก เช่น กระจกไฟฟ้าเลื่อนขึ้นลงไม่ได้ ช่างก็ได้แก้ปัญหาเอาน้ำยาหล่อลื่นมาฉีดให้เท่านั้น แถมยังมีเสียงดังเพิ่มขึ้นที่บริเวณคอนโซลหน้าอีก” นางชมพูนุทกล่าว
นางชมพูนุทกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถไม่เพียงแค่นี้ ยังมีตามมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ตนใช้รถคันนี้ และต้องเอาไปซ่อมที่ศูนย์บริการแห่งนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ทุกครั้งที่ตนเอารถเข้าไปซ่อมก็ไม่ได้รับการบริการที่ดี เพราะเอารถไปซ่อมมาแล้วก็ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตนเริ่มไม่พอใจในบริการ เลยทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้จัดการประจำโชว์รูม แต่เจ้าตัวกลับนิ่งเฉย เมื่อเป็นเช่นนี้ตนจึงหนังร้องเรียนไปยังบริษัท ฮอนด้า ออโต้ โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แต่ก็ยังไม่ได้รับส่งหนังสือตอบกลับ ทำให้ตนต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยังบริษัทฮอนด้า ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตนก็ได้รับหนังสือตอบกลับมาว่าจะเข้ามาดูแลเรื่องให้ แต่สุดท้ายก็เงียบหายไปอีก
“ดิฉันรอจนหมดความอดทนเลยโทร.ไปยัง เอเชี่ยน ฮอนด้า ก็มีพนักงานหญิงเป็นคนรับโทรศัพท์ ดิฉันก็แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถให้ฟัง พร้อมบอกว่าจะทุบรถแล้วนะ เพราะยังไม่มีอะไรดีขึ้น แต่เขากลับตอบมาว่าให้ดิฉันทุบรถไปเลยตามใจ ฉันจึงขอพูดสายกับผู้บริหารระดับสูง แต่ก็ได้รับคำตอบว่ากรุณารอซักครู่ และถูกปล่อยให้รอนานกว่า 30 นาที ก่อนที่สายถูกตัดไป” นางชมพูนุทกล่าว
นางชมพูนุทกล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะโทร.ไปแจ้งเรื่องที่เอเชี่ยน ฮอนด้า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่ สคบ.แล้ว เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา และทาง สคบ.มีจดหมายตอบกลับมาว่า วันที่ 26 พ.ย.นี้ จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ให้ แต่ตนอดทนรอไม่ไหวแล้ว เลยต้องเอารถมาทุบเพราะว่าอยากให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบดูแลลูกค้าอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยแบบนี้ ตนรู้สึกผิดหวังกับบริษัท ฮอนด้า เป็นอย่างมาก ทั้งที่เมื่อก่อนเคยรู้สึกรักและผูกพันเนื่องจากรถคันนี้เป็นคันที่ 3 ที่ตนซื้อรถยี่ห้อฮอนด้ามาใช้ แต่เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ตนก็ต้องซื้อรถค่ายของคู่แข่งมาใช้แทน
นางชมพูนุทกล่าวด้วยว่า สำหรับอุปกรณ์ที่ตนเตรียมมาทุบรถในครั้งนี้ มีด้วยกัน 4 ชนิด คือ “สากกะเบือ” ซึ่งหมายถึงผู้จัดการโชว์รูมรถแห่งหนึ่งย่านหัวหมาก ที่นิ่งเฉยกับเรื่องของตน อย่างที่ 2 คือ “พลั่ว” เป็นเครื่องหมายที่สื่อไปยังการไว้อาลัยให้บรรดาผู้บริหาร ชนิดที่ 3 คือ “จอบ” ตนใช้ทุบเพื่อให้ส่งเสียงดังไปถึงหูของประธานฮอนด้าที่ประเทศญี่ปุ่น และอย่างสุดท้ายคือ “ค้อน” สำหรับการบริการที่ย่ำแย่ของศูนย์บริการย่านหัวหมาก ที่เข้าไปซ่อมกี่ครั้งก็มีแต่ปัญหาทุกที
