นครพนม-ชาวบ้านผู้เลี้ยงปลาเผาะในกระชังที่จังหวัดนครพนมกว่า 100 ราย เดือดร้อนหนักหลังเลี้ยงปลาเผาะตามโครงการแก้ไขปัญหาความจน ตั้งแต่ปี 2547 ที่ พล.อ.ชวลิต ทาส นช.แม้ว ใช้เม็ดเงิน 400 ล้านบาท ส่งเสริมชาวบ้านเลี้ยงส่งขายกลุ่มประเทศยุโรป ปัจจุบันโรงงานรับซื้อปิดไม่มีตลาดรองรับชาวบ้านต้องนำปลาไปแลกข้าวเปลือก
นายสุกัน จันเกษร ตัวแทนกลุ่มเลี้ยงปลาเผาะบ้านบัวหมู่ 3-4 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมด้วยกลุ่มผู้เลี้ยงปลาเผาะในกระชัง บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงจำนวนกว่า 100 ราย กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากการขาดตลาดรองรับ ขณะที่ไม่มีเงินทุนในการซื้อหัวอาหารเลี้ยงปลา ขณะที่ชาวบ้านหลายรายต้องนำปลาไปแลกข้าวเปลือก เนื่องจากขายไม่ได้
นายสุกัน จันเกสร พร้อมชาวบ้าน เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2547 กรมประมงและสำนักงานสถาบันอาหารกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีนักการเมืองในจังหวัดมี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธานและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ได้ขับเคลื่อนให้ชาวบ้านเลี้ยงตามโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท จัดหากระชังและพันธุ์ปลาเผาะ ตลอดจนหัวอาหารให้ชาวบ้านเลี้ยง พร้อมกับมีการตั้งโรงงานรับชำแหละที่บ้านเมืองเก่า เพื่อนำปลาเผาะส่งขายในกลุ่มประเทศยุโรป
ชาวบ้านที่เลี้ยงจะได้ค่าจ้างเลี้ยงตัวละ 5 บาท ปลาน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ใช้เวลาเลี้ยง 4-5 เดือน เมื่อชาวบ้านลงมือเลี้ยงปีแรกก็ได้รับเงินค่าจ้างเลี้ยงตัวละ 5 บาท ต่อมาก็ลดเหลือตัวละ 3-4 บาท ซึ่งชาวบ้านก็มีกำไร เพราะไม่ได้ลงทุนแค่ลงแรงเท่านั้น
แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โรงงานชำแหละปลาก็ปิด งดรับซื้อโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ส่งเสริมชาวบ้านเลี้ยงต่อโดยไม่แจ้งสาเหตุ เจ้าหน้าที่สถาบันอาหารบอกว่าไม่มีงบส่งเสริมเลี้ยง จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมาจังหวัดได้ส่งเสริมเลี้ยงต่อ โดยนำพันธุ์ปลามาให้คนละ 4,000 ตัว พร้อมหัวอาหารคนละ 30 กระสอบ โดยผลผลิตปลาให้ชาวบ้านหาตลาดขายเอาเอง
ปรากฏว่า ปลาชนิดนี้กินหัวอาหารมากหัวอาหารหมดขณะที่ปลาก็โตไม่เต็มที่ ขณะที่ชาวบ้านก็ขาดเงินซื้อหัวอาหาร เพราะขาดเงินทุนหมุนเวียน และที่สำคัญขาดตลาดรองรับ ชาวบ้านก็นำไปเร่ขายตามหมู่บ้าน และขายในราคาถูกแถมยังขายไม่ดี พร้อมกับขายตัดราคากันเช่น 3 กิโลฯ 100 บาท เพื่อระบายปลาให้หมดก่อนจะเลิกเลี้ยง ขณะที่ชาวบ้านหลายรายขายปลาไม่ได้ต้องนำปลาเผาะไปเร่แลกข้าวเปลือกตามหมู่บ้าน
“อยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนเงินทุนและหาตลาดขายอย่างเร่งด่วน เพราะยังมีปลาจำนวนหลายหมื่นตัว ที่ยังติดค้างในกระชังที่ขายไม่ได้”