กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านร้องคณะกรรมการสหกรณ์เคหะบ้านร่วมใจจังหวัดกาฬสินธุ์กลั่นแกล้งบีบให้ออกจากหมู่บ้าน ด้าน ปธ.คณะกรรมการสหกรณ์ฯระบุผู้ร้องไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดบ้านจึงจำเป็นต้องให้ออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.พ.) นายณรงค์ โยธาฤทธิ์ อายุ 55 ปี นางพนมสวรรค์ มาประจวบ อายุ 50 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 9809/42 เคหะบ้าร่วมใจ จังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการสหกรณ์เคหะบ้านร่วมใจ เนื่องจากคณะกรรมการดังกล่าวมีมติให้ตนและครอบครัวย้ายออกจากหมู่บ้าน
นางพนมสวรรค์ มาประจวบ อายุ 50 ปี กล่าวว่า ขณะนี้ตนและครอบครัวกำลังเดือดร้อน เนื่องจากถูกคณะกรรมการสหกรณ์เคหะบ้านร่วมใจชุดปัจจุบันกลั่นแกล้งบีบให้ออกจากหมู่บ้าน โดยกล่าวหาว่าตนและครอบครัวไม่ใช่สมาชิกของสหกรณ์และไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดบ้านและเงินค่าส่วนเกินต่อเติมบ้าน ทั้งที่ตนนำเงินค่างวดบ้านไปจ่ายแต่คณะกรรมการไม่ยอมรับ เวลาประชุมก็ไม่เคยแจ้งให้ทราบ เพราะต้องการบีบให้ออกอย่างเดียว
นางพนมสวรรค์กล่าวอีกว่า เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมาตนได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากนายราเมศร์ พูลสุข ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเดิมที่ตนอาศัยอยู่ปัจจุบัน โดยได้เซ็นสัญญาทำตามระเบียบถูกต้องทุกอย่าง และยังได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดก่อน
ต่อมาปัจจุบันมีการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ และคณะกรรมการชุดใหม่ได้แจ้งว่านายราเมศร์ ได้ค้างค่าวัสดุอุปกรณ์ส่วนเกินต่อเติมบ้านจำนวน 70,785 บาท ดอกเบี้ยค่าวัสดุอุปกรณ์ 39,00 บาท ค่างวดบ้านอีก 37 งวด พร้อมทั้งมีมติให้ตนและครอบครัวย้ายออกจากหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
เพราะก่อนที่ตนจะเข้ามารับกรรมสิทธิ์ คณะกรรมการชุดเก่าแจ้งว่านายราเมศร์ได้ค้างค่างวดบ้านเพียง 12 งวดเท่านั้น ซึ่งตนก็ยินดีจ่ายทั้งหมด ส่วนเงินค่าวัสดุอุปกรณ์ส่วนเกินต่อเติมบ้านและดอกเบี้ยที่คณะกรรมการแจ้งมาใหม่นั้น เป็นยอดที่เกินความเป็นจริง เพราะเท่าที่ตรวจสอบค่าต่อเติมบ้านไม่น่าที่จะแพงถึงเพียงนี้ ซึ่งเคยเรียกร้องให้เอาช่างมาประเมินราคาก่อสร้างคณะกรรมการก็ไม่ยอม
ดังนั้นจึงต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือและตรวจสอบด้วย
ด้าน นางวิลาวัลย์ ศรีเภา ประธานคณะกรรมการสหกรณ์เคหะบ้านร่วมใจ จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สาเหตุที่คณะกรรมการได้ให้นางพนมสวรรค์ และนายณรงค์ ออกจากบ้านเคหะบ้านร่วมใจนั้น เนื่องจากทั้งสองคนไม่ใช่สมาชิกของสหกรณ์และไม่ยอมรับสภาพหนี้ โดยไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดบ้านที่ค้างชำระตั้งแต่นายราเมศร์เป็นเจ้าของเดิมจำนวน 37 งวดๆ ละ 1,500 บาท
อีกทั้งยังไม่ยอมจ่ายเงินที่ค้างค่าวัสดุอุปกรณ์ส่วนเกินต่อเติมบ้านจำนวน 70,785 บาท ดอกเบี้ยค่าวัสดุอุปกรณ์ 39,00 บาท และไม่เคยเข้ามาชี้แจ้งกับคณะกรรมการ ดังนั้นทางคณะกรรมการจึงมีความจำเป็นให้ทั้งสองคนออกจากหมู่บ้านเคหะร่วมใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.พ.) นายณรงค์ โยธาฤทธิ์ อายุ 55 ปี นางพนมสวรรค์ มาประจวบ อายุ 50 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 9809/42 เคหะบ้าร่วมใจ จังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการสหกรณ์เคหะบ้านร่วมใจ เนื่องจากคณะกรรมการดังกล่าวมีมติให้ตนและครอบครัวย้ายออกจากหมู่บ้าน
นางพนมสวรรค์ มาประจวบ อายุ 50 ปี กล่าวว่า ขณะนี้ตนและครอบครัวกำลังเดือดร้อน เนื่องจากถูกคณะกรรมการสหกรณ์เคหะบ้านร่วมใจชุดปัจจุบันกลั่นแกล้งบีบให้ออกจากหมู่บ้าน โดยกล่าวหาว่าตนและครอบครัวไม่ใช่สมาชิกของสหกรณ์และไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดบ้านและเงินค่าส่วนเกินต่อเติมบ้าน ทั้งที่ตนนำเงินค่างวดบ้านไปจ่ายแต่คณะกรรมการไม่ยอมรับ เวลาประชุมก็ไม่เคยแจ้งให้ทราบ เพราะต้องการบีบให้ออกอย่างเดียว
นางพนมสวรรค์กล่าวอีกว่า เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมาตนได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากนายราเมศร์ พูลสุข ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเดิมที่ตนอาศัยอยู่ปัจจุบัน โดยได้เซ็นสัญญาทำตามระเบียบถูกต้องทุกอย่าง และยังได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดก่อน
ต่อมาปัจจุบันมีการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ และคณะกรรมการชุดใหม่ได้แจ้งว่านายราเมศร์ ได้ค้างค่าวัสดุอุปกรณ์ส่วนเกินต่อเติมบ้านจำนวน 70,785 บาท ดอกเบี้ยค่าวัสดุอุปกรณ์ 39,00 บาท ค่างวดบ้านอีก 37 งวด พร้อมทั้งมีมติให้ตนและครอบครัวย้ายออกจากหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
เพราะก่อนที่ตนจะเข้ามารับกรรมสิทธิ์ คณะกรรมการชุดเก่าแจ้งว่านายราเมศร์ได้ค้างค่างวดบ้านเพียง 12 งวดเท่านั้น ซึ่งตนก็ยินดีจ่ายทั้งหมด ส่วนเงินค่าวัสดุอุปกรณ์ส่วนเกินต่อเติมบ้านและดอกเบี้ยที่คณะกรรมการแจ้งมาใหม่นั้น เป็นยอดที่เกินความเป็นจริง เพราะเท่าที่ตรวจสอบค่าต่อเติมบ้านไม่น่าที่จะแพงถึงเพียงนี้ ซึ่งเคยเรียกร้องให้เอาช่างมาประเมินราคาก่อสร้างคณะกรรมการก็ไม่ยอม
ดังนั้นจึงต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือและตรวจสอบด้วย
ด้าน นางวิลาวัลย์ ศรีเภา ประธานคณะกรรมการสหกรณ์เคหะบ้านร่วมใจ จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สาเหตุที่คณะกรรมการได้ให้นางพนมสวรรค์ และนายณรงค์ ออกจากบ้านเคหะบ้านร่วมใจนั้น เนื่องจากทั้งสองคนไม่ใช่สมาชิกของสหกรณ์และไม่ยอมรับสภาพหนี้ โดยไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดบ้านที่ค้างชำระตั้งแต่นายราเมศร์เป็นเจ้าของเดิมจำนวน 37 งวดๆ ละ 1,500 บาท
อีกทั้งยังไม่ยอมจ่ายเงินที่ค้างค่าวัสดุอุปกรณ์ส่วนเกินต่อเติมบ้านจำนวน 70,785 บาท ดอกเบี้ยค่าวัสดุอุปกรณ์ 39,00 บาท และไม่เคยเข้ามาชี้แจ้งกับคณะกรรมการ ดังนั้นทางคณะกรรมการจึงมีความจำเป็นให้ทั้งสองคนออกจากหมู่บ้านเคหะร่วมใจ