เชียงใหม่ - รัฐบาลญี่ปุ่นจัดงบสนับสนุน“โครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมเกษตรกรรมอินทรีย์ พะเยา” ผ่าน จีพีพี.
วันนี้ (12 ก.พ.53) ที่สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้จัดพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือสนับสนุนโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมเกษตรกรรมอีนทรีย์ จ.พะเยา วงเงิน 2,789,500 บาท ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์[Grant Assistance for Grassroots Human Security Projects Scheme (จีจีพี) ระหว่างนางจุนโกะ โยะโคะตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ประจำจังหวัดเชียงใหม่กับ ดร.มิซาบุโระ ทานิกุชิ ประธานมูลนิธิศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรและอาชีพ
โดยมูลนิธิฯเปิดศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรและอาชีพ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เพื่อส่งเสริมเทคนิคด้านการเกษตรกรรมให้เกษตรกร เยาวชนและชาวไทยภูเขา ตลอดจนกิจกรรมการพัฒนาชุมชนในเขตชนบท โดยเฉพาะการมุ่งเน้นในด้านเกษตรกรรมยั่งยืนอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพาะปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ ปราศจากการใช้สารเคมีกำจัดแมลงและปุ๋ยเคมีใดๆ นอกจากนี้ยังได้ทำการเผยแพร่เทคนิควิธีการเหล่านี้ให้แก่เกษตรกรด้วย
ขณะที่ช่วงฤดูแล้งจังหวัดทางภาคเหนือต้องเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงจากหมอกควันซึ่งบางส่วนเกิดจากการเผาขยะที่เหลือจากผลผลิตทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยวเช่นฟางและซังข้าว ถึงแม้ว่าปัจจุบันรัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้แนวความคิดแก่เกษตรกรเพื่อช่วยลดการเผาขยะดังกล่าวลง แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเกษตรกรได้
ดังนั้น ทางมูลนิธิฯจึงได้แนะนำวิธีการใช้ประโยชน์จากฟางข้าว โดยการนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมัก อาหารสัตว์และแปลงเพาะเห็ด ตลอดจนการแนะนำถึงเรื่องของการไถ่กลบตอซัง ซึ่งในทางปฏิบัติยังมีอุปสรรคอยู่ เนื่องจากเกษตรกรยังขาดเครื่องมือการเกษตรและยานพาหนะเพื่อช่วยผ่อนปรนภาระที่หนักลง
รัฐบาลญี่ปุ่นจึงจัดงบให้ความช่วยเหลือตามคำขอจากมูลนิธิฯ ในด้านงบประมาณการจัดซื้อเครื่องมือการเกษตรและยานพาหนะ เพื่อใช้ในการนำฟางมาอัดเป็นฟ่อน รวมถึงการขนส่งฟางข้าวอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางมูลนิธิฯจะเกษตรกรให้ยืมเครื่องมือและยานพาหนะ จำนวน300 คน และดึงเข้าอบรม 200 คนต่อปีเข้ารับการเกษตรอินทรัพย์-ดูงานที่ฟาร์ม เพื่อลดปัญหามลภาวะจากหมอกควัน
วันนี้ (12 ก.พ.53) ที่สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้จัดพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือสนับสนุนโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมเกษตรกรรมอีนทรีย์ จ.พะเยา วงเงิน 2,789,500 บาท ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์[Grant Assistance for Grassroots Human Security Projects Scheme (จีจีพี) ระหว่างนางจุนโกะ โยะโคะตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ประจำจังหวัดเชียงใหม่กับ ดร.มิซาบุโระ ทานิกุชิ ประธานมูลนิธิศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรและอาชีพ
โดยมูลนิธิฯเปิดศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรและอาชีพ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เพื่อส่งเสริมเทคนิคด้านการเกษตรกรรมให้เกษตรกร เยาวชนและชาวไทยภูเขา ตลอดจนกิจกรรมการพัฒนาชุมชนในเขตชนบท โดยเฉพาะการมุ่งเน้นในด้านเกษตรกรรมยั่งยืนอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพาะปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ ปราศจากการใช้สารเคมีกำจัดแมลงและปุ๋ยเคมีใดๆ นอกจากนี้ยังได้ทำการเผยแพร่เทคนิควิธีการเหล่านี้ให้แก่เกษตรกรด้วย
ขณะที่ช่วงฤดูแล้งจังหวัดทางภาคเหนือต้องเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงจากหมอกควันซึ่งบางส่วนเกิดจากการเผาขยะที่เหลือจากผลผลิตทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยวเช่นฟางและซังข้าว ถึงแม้ว่าปัจจุบันรัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้แนวความคิดแก่เกษตรกรเพื่อช่วยลดการเผาขยะดังกล่าวลง แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเกษตรกรได้
ดังนั้น ทางมูลนิธิฯจึงได้แนะนำวิธีการใช้ประโยชน์จากฟางข้าว โดยการนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมัก อาหารสัตว์และแปลงเพาะเห็ด ตลอดจนการแนะนำถึงเรื่องของการไถ่กลบตอซัง ซึ่งในทางปฏิบัติยังมีอุปสรรคอยู่ เนื่องจากเกษตรกรยังขาดเครื่องมือการเกษตรและยานพาหนะเพื่อช่วยผ่อนปรนภาระที่หนักลง
รัฐบาลญี่ปุ่นจึงจัดงบให้ความช่วยเหลือตามคำขอจากมูลนิธิฯ ในด้านงบประมาณการจัดซื้อเครื่องมือการเกษตรและยานพาหนะ เพื่อใช้ในการนำฟางมาอัดเป็นฟ่อน รวมถึงการขนส่งฟางข้าวอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางมูลนิธิฯจะเกษตรกรให้ยืมเครื่องมือและยานพาหนะ จำนวน300 คน และดึงเข้าอบรม 200 คนต่อปีเข้ารับการเกษตรอินทรัพย์-ดูงานที่ฟาร์ม เพื่อลดปัญหามลภาวะจากหมอกควัน