นราธิวาส - บิดา และมารดา ยืนยันไม่ไปเยี่ยมบุตรชาย 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวพร้อมวัตถุผลิตระเบิด หากผิดจริงมีโทษประหารชีวิต
วันนี้ (11 ม.ค.) นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายสุรชัย ชวาลารัตน์ นายอำเภอเมืองนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 60/7 ถนนแสงจันทร์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าพบ นายรอซะ สาและ อายุ 62 ปี และนางฮะยะห์ สาและ อายุ 54 ปี บิดา มารดาของ นายโมฮัมหมัดซีดี อาลี อายุ 32 ปี 1 ในผู้ต้องหา 3 คน
ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย จับกุมตัวได้พร้อมวัตถุระเบิดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งการเข้าพบครอบครัวครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายโมฮัมหมัดซีดี อาลีผู้ต้องหาได้ร้องผ่านสถานกงสุลใหญ่ไทย เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ขอให้บิดา มารดาเดินทางไปเยี่ยมที่เรือนจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ศาลมาเลเซียจะนัดไต่สวนคดีมีกระสุนปืนและระเบิดไว้ในครอบครองวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้และหากศาลพิพากษาว่า มีความผิดจริง นายโมฮัมหมัดซีดี อาลี และเพื่อนผู้ต้องหารวม 3 คน มีโทษหนักถึงประหารชีวิตทันที
จากการพูดคุยครั้งนี้ นายรอซะ และนางฮะยะห์ บิดา มารดา ยืนยันว่าจะไม่เดินทางไปเยี่ยมนายโมฮัมหมัดซีดี อาลี เนื่องจากเมื่อ 2 ปีก่อนหลังจากทราบว่า นายโมฮัมหมัดซีดี เข้าร่วมเป็นขบวนการก่อความไม่สงบ ครอบครัวได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนให้กลับตัวกลับใจ แต่นายโมฮัมหมัดซีดี บุตรชายไม่ฟังทำให้มีปากเสียงกันรุนแรง และจะไม่ร่วมรับผิดชอบกับการกระทำของนายโมฮัมหมัดซีดี โดยเด็ดขาด