xs
xsm
sm
md
lg

ตามดูหมู่บ้านน้ำหมัก“ป้าเช็ง2”ชาววังทองแห่ทำใช้เองทั้งหมู่บ้าน/เชื่อรักษาโรคได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก – ตามไปดูน้ำหมัก “ป้าเช็ง 2”ที่วังทอง เมืองสองแคว ที่นิยมทำน้ำหมักไว้ใช้เองเถื่อนทั้งหมู่บ้านวังพิกุล เผยชาวบ้านยังเชื่อน้ำหมักแก้โรคสารพัด หลักฐานชัด

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพิษณุโลก ได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านทั้งตำบลแห่กันทำน้ำหมัก เพื่อนำมาดื่ม อาบ และหยอดตา จนหายจากโรคต่างๆได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง “เจ๊เช็ง 2” ที่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบที่บ้านของนางลำดวน แสงน้อย อายุ 52 ปี เลขที่ 72 ม.6 ต.วังพิกุล เปิดเป็นร้านขายของชำ และจำหน่ายถังพลาสติก ที่ชาวบ้านในตำบลแห่กันมาซื้อ เพื่อนำไปใช้หมักน้ำชีวภาพดังกล่าว

นางลำดวน บอกว่า ตนมีปัญหาเรื่องดวงตา มองอะไรไม่ค่อยชัด เพราะเป็นต้อเนื้อ หลังมีข่าวว่ามียาหยอดตาที่ทำจากน้ำหมักรักษาหาย จึงได้ไปซื้อแบบหยอดมาในราคา ขวดละ 150 บาท และที่ใช้ผสมกับน้ำดื่มขวดละ 1,000 บาท หลังจากใช้ไปประมาณ 1 เดือน อาการตาฝ้าฟางจะมองเห็นชัดขึ้น ส่วนที่ใช้ดื่มจะหยดใส่แก้วน้ำแก้วละ 1 หยด จากนั้นจึงมีการพูดต่อ ๆ กันว่าน้ำหมักสามารถรักษาโรคได้ จึงมีชาวบ้านจำนวนมากพากันมาขอซื้อถังพลาสติกไปหมักทำน้ำหมักกันเป็นจำนวนมาก โดยเตรียมถังพลาสติกสีน้ำเงินมาขายใบละ 40 บาท

นางทองหยด เรืองจุ้ย อายุ 73 ปี บอกว่า ตนได้ซื้อน้ำหมักมาหยอดตาเหมือนกัน เพราะตาเป็นหนอง หลังจากหยอดยาจะรู้สึกแสบเล็กน้อย หลังจากหยอดได้สองสามวันอาการตามัวมองไม่ค่อยเห็น เริ่มมองเห็นชัดขึ้น จะหยอดวันละครั้งเฉพาะก่อนนอน แรกๆไม่ค่อยเชื่อแต่มีคนลองแล้วหาย จึงลองใช้บ้าง ตอนนี้มีชาวบ้านจำนวนมากพากันทำน้ำหมักเอาไว้ใช้เอง ทั้งดื่มกิน อาบ และหยอดตา เพราะถ้าไปซื้อราคาจะแพงมาก

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามผู้ที่ทำน้ำหมักต่อมาทราบว่า คือ นายสุเทพ ศรีเครือ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1411 ม.6 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพเป็นช่าง เป็นโรคเบาหวานมานานเป็น 10 ปีต่อมาได้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว ไม่สามารถเดินเหินหรือทำงานได้ ต้องนอนอยู่กับบ้านอย่างเดียว ไปพบหมอเป็นประจำ อาการก็มีแต่ทรุดลง

ต่อมาทราบว่า น้ำหมักสามารถรักษาโรคได้ ภรรยาจึงช่วยทำน้ำหมักขึ้นใช้เอง โดยมีส่วนประกอบ น้ำ 5 ส่วน น้ำตาล 1 ส่วน และผลไม้ 3 ส่วน ซึ่งจะมีบอระเพ็ด ลูกยอ มะขามป้อม สมอ และมะรุม ซึ่งจริงๆแล้วต้องหมักไว้นานเป็นปีๆ ถึงจะนำมาดื่มกินได้ แต่ตนหมักได้ประมาณ 3 เดือนต้องนำมาดื่มกินก่อน เพราะอาการเริ่มทรุดหนักและแย่มากๆ ภายหลังได้ดื่มน้ำหมัก ทำให้อาการเริ่มดีขึ้น จากที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เริ่มลุกนั่ง และเดินได้ในที่สุด ขณะนี้ดีขึ้นมาก เหมือนปกติ แต่ยังไม่เต็มร้อยเท่านั้นเอง

ด้านนายวาด พุ่มเขียว อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.6 ต.วังพิกุล ซึ่งนอนป่วยเป็นอัมพาตทั้งตัว แต่สามารถพูดคุยรู้เรื่อง กล่าวว่า ตนเป็นอัมพาตมา 4 เดือนแพทย์ว่าเส้นเลือดแตก ช่วงที่มานอนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถพูดคุยได้เหมือนตอนนี้ ช่วงนั้นต้องให้อาหารทางสายยาง นอนนิ่งอย่างเดียวขยับตัวไม่ได้ ต่อมาทราบข่าวว่ามีน้ำหมักรักษาได้ จึงให้ภรรยาไปซื้อมาในราคาแบบหยอดตา150 บาท และแบบผสมดื่มกับน้ำขวดละ 1,000 บาท นอกจากนั้นยังใช้น้ำหมักมาเช็ดตัวให้อีก ปัจจุบันสามารถขยับตัวได้ พูดได้ ไม่ต้องให้อาหารทางสายยาง แต่ยังไม่ได้ทำใช้เอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำหมักที่ใช้หยอดตาจะมีสีขาวใส ส่วนน้ำหมักที่ใช้หยดผสมดื่มกับน้ำจะมีสีเหลือง บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกขนาดเท่ากับขวดหยอดตาทั่วไป สำหรับน้ำหมักที่ใช้อาบหรือเช็ดตัวจะบรรจุขวดพลาสติกใสเท่ากับขวดนำดื่มทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ส่วนบางรายไม่ยอมเปิดเผยเกี่ยวกับทำน้ำหมัก เพราะไม่ต้องการให้ใครนำสูตรไปใช้ เกรงความผิดที่ไม่ได้ขออนุญาต หลังปรากฏข่าวดัง “ป้าเช็ง” ถูกจับ



กำลังโหลดความคิดเห็น