“จุรินทร์” จี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์ “น้ำหมักชีวภาพของป้าเช็ง” รู้ผลภายในวันจันทร์นี้ แจกการบ้านอย.รุกงานวางแผนคุ้มครองผู้บริโภค เลขาธิการอย.เผยใช้หยอดตา 10 ราย ตามัว อักเสบ
วันที่ 22 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงน้ำหมักชีวภาพ “ป้าเช็ง” ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประสานกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และกองการประกอบโรคศิลปะ บุกเข้าจับกุมและดำเนินคดีกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นถือว่ามีการกระทำผิดพรบ.ยา พ.ศ. 2510 และ พรบ.ประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 และได้ตั้งข้อกล่าวหา มีการผลิต จำหน่ายและโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีการโฆษณาเกินจริงด้วย ทั้งนี้ ได้ยึดของกลางทั้งหมดเพื่อนส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ ซึ่งปกติจะทราบผลภายใน 7 วัน แต่จะเร่งรัดกรณีนี้ให้เร็วที่สุด น่าจะทราบผลเบื้องต้นวันที่ 25 มกราคมนี้ เนื่องจากอยู่ในความสนใจของประชาชน
“ได้สั่งระงับการผลิต จำหน่าย และการโฆษณาไว้ทั้งหมดแล้วและให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เฝ้าระวังไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ที่ผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีก โดยผู้กระทำผิดมีโทษตามพรบ.ยา จำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับ ไม่เกิน 5 พันบาท หากยาไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและมีการโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท โฆษณาขายยาเกินจริงโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และผิดตามพรบ.ประกอบโรคศิลปะ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ”นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การคุ้มครองผู้บริโภคถือเป็น 1 ใน นโยบายที่ให้ความสำคัญไว้ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างประการหนึ่งที่อย.ได้ดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ซึ่งต่อไปจะดำเนินการคลอบคลุมทุกเรื่องที่เป็นภาระหน้าที่ของสธ. ทั้งด้านอาหารและยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ รวมทั้งด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้มอบหมายให้นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคระกรรมการอาหารและยา จัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อนำมากำหนดแผนการคุ้มครองผู้บริโภคให้เข้มข้นและชัดเจนยิ่งขึ้น
“ขอให้ประชาชนระมัดระวัง ต้องตระหนักและใช้วิจารณญาณ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาแอบอ้างสรรพคุณของยาหรืออาหารใดๆที่ผิดปกติ ซึ่งต่อจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะให้ความสำคัญทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมายและการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชน ผู้บริโภคได้เกิดความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่ออีกต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว
ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า น้ำหมักชีวภาพของป้าเช็ง หรือ ที่เรียกว่า “มหาบำบัด” เป็นการหลีกเลี่ยงคำโดยไม่ใช่คำว่ายา แต่มีการโฆษณาสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคได้สารพัด ซึ่งมีการจำหน่ายน้ำหมักชีวภาพชนิดเข้มข้น ราคาขวดละ 1,000 บาท นำไปใช้ในลักษณะฉีดพ่น และ น้ำหมักชีวภาพชนิดใช้หยอดตา ราคาขวดละ 100 บาท มีรายได้ตกวันละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้มีประชาชนร้องเรียนมายังอย.เนื่องจากนำน้ำหมักชีวภาพ หยอดใส่ตา ทำให้เกิดมีอาการตา มัว แสบ อักเสบ แต่ยังไม่พบรายใดมีอาการรุนแรง
วันที่ 22 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงน้ำหมักชีวภาพ “ป้าเช็ง” ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประสานกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และกองการประกอบโรคศิลปะ บุกเข้าจับกุมและดำเนินคดีกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นถือว่ามีการกระทำผิดพรบ.ยา พ.ศ. 2510 และ พรบ.ประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 และได้ตั้งข้อกล่าวหา มีการผลิต จำหน่ายและโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีการโฆษณาเกินจริงด้วย ทั้งนี้ ได้ยึดของกลางทั้งหมดเพื่อนส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ ซึ่งปกติจะทราบผลภายใน 7 วัน แต่จะเร่งรัดกรณีนี้ให้เร็วที่สุด น่าจะทราบผลเบื้องต้นวันที่ 25 มกราคมนี้ เนื่องจากอยู่ในความสนใจของประชาชน
“ได้สั่งระงับการผลิต จำหน่าย และการโฆษณาไว้ทั้งหมดแล้วและให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เฝ้าระวังไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ที่ผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีก โดยผู้กระทำผิดมีโทษตามพรบ.ยา จำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับ ไม่เกิน 5 พันบาท หากยาไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและมีการโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท โฆษณาขายยาเกินจริงโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และผิดตามพรบ.ประกอบโรคศิลปะ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ”นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การคุ้มครองผู้บริโภคถือเป็น 1 ใน นโยบายที่ให้ความสำคัญไว้ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างประการหนึ่งที่อย.ได้ดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ซึ่งต่อไปจะดำเนินการคลอบคลุมทุกเรื่องที่เป็นภาระหน้าที่ของสธ. ทั้งด้านอาหารและยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ รวมทั้งด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้มอบหมายให้นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคระกรรมการอาหารและยา จัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อนำมากำหนดแผนการคุ้มครองผู้บริโภคให้เข้มข้นและชัดเจนยิ่งขึ้น
“ขอให้ประชาชนระมัดระวัง ต้องตระหนักและใช้วิจารณญาณ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาแอบอ้างสรรพคุณของยาหรืออาหารใดๆที่ผิดปกติ ซึ่งต่อจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะให้ความสำคัญทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมายและการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชน ผู้บริโภคได้เกิดความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่ออีกต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว
ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า น้ำหมักชีวภาพของป้าเช็ง หรือ ที่เรียกว่า “มหาบำบัด” เป็นการหลีกเลี่ยงคำโดยไม่ใช่คำว่ายา แต่มีการโฆษณาสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคได้สารพัด ซึ่งมีการจำหน่ายน้ำหมักชีวภาพชนิดเข้มข้น ราคาขวดละ 1,000 บาท นำไปใช้ในลักษณะฉีดพ่น และ น้ำหมักชีวภาพชนิดใช้หยอดตา ราคาขวดละ 100 บาท มีรายได้ตกวันละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้มีประชาชนร้องเรียนมายังอย.เนื่องจากนำน้ำหมักชีวภาพ หยอดใส่ตา ทำให้เกิดมีอาการตา มัว แสบ อักเสบ แต่ยังไม่พบรายใดมีอาการรุนแรง