อย. ร่วมกับตำรวจ บก.ปคบ. กองโรคศิลปะลุยตรวจแหล่งผลิต/จำหน่ายน้ำหมักชีวภาพของ “ป้าเช็ง” ที่โฆษณาผ่านทางเคเบิลทีวี ช่อง Superchengอวดอ้างรักษาได้ครอบจักรวาล หลังพบผู้บริโภคร้องเรียน
วันที่ 21 มกราคม นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ประชาชนเป็นจำนวนมากที่ได้รับชมโทรทัศน์ดาวเทียม เกี่ยวกับคุณภาพ ความปลอดภัย ของผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพของ “ป้าเช็ง” ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้อย่างครอบจักรวาล เช่น มีการรักษาและให้ผู้ป่วยยืนยันผลดีของการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำหมักต่างๆ ในการรักษาโรค เช่น ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์ ได้หายขาด 100% รวมทั้ง มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์ของป้าเช็งในลักษณะโอ้อวด หลอกลวง เกินจริง อย่างต่อเนื่องทุกวัน ว่าเป็นการโฆษณาโอ้อวด หลอกลวง เกินจริง หรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสในการรักษา โดยได้ฟ้องร้องที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย.
นพ.พิพัฒน์ กล่าวว่า ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเฝ้าระวังการโฆษณาช่อง Supercheng ได้ตรวจสอบเบื้องต้น พบมีการโฆษณาสรรพคุณทางยาของผลิตภัณฑ์น้ำหมักผลไม้ ขยะ และสมุนไพร ของป้าเช็ง อวดอ้างรักษาสารพัดโรค โดยได้ใช้สื่อเฉพาะของตนเองเผยแพร่ ผ่านโทรทัศน์ดาวเทียมอย่างกว้างขวาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนใน วงกว้าง อีกทั้งประชาชนให้ความสนใจและใช้บริการจำนวนมาก
"ในวันนี้ (21 ม.ค.) อย. ได้ประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา และน้ำหมักชีวภาพของป้าเช็ง ณ บ้านป้าเช็ง ที่รังสิตคลอง 2 จ.ปทุมธานี พบว่า มีการผลิตและจำหน่ายน้ำหมักชีวภาพ และได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพส่งตรวจวิเคราะห์ โดยพฤติการณ์ทางคดีดังกล่าวจะมีลักษณะหมักเป็นถังใหญ่ๆ อยู่ภายในร้าน มีหน้าม้าคอยบรรยายสรรพคุณว่า บำบัดรักษาได้ทุกโรค และยังกระจายข่าวผ่านทางเคเบิลทีวีดาวเทียม และไม่เกรงกลัว อย."
เลขาธิการอย. กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดต่างๆ ดังนี้ 1. ผลิตและ/หรือขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับ ไม่เกิน 5 พันบาท2. ขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ3. โฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท4. โฆษณาขายยาโดยกล่าวอ้างว่า สามารถบำบัด บรรเทา รักษาโรคที่รัฐมนตรีห้ามตามประกาศฯ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท5. ประกอบโรคศิลปะโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ถ้าพบว่าประกอบโรคศิลปะจริง ก็จะมีความผิดในข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพของป้าเช็งที่อวดอ้างสรรพคุณรักษาสารพัดโรคเด็ดขาด การโฆษณาชวนเชื่ออวดอ้างสรรพคุณดังกล่าว อีกทั้งมีการตั้งราคาขายผลิตภัณฑ์ที่แพงมาก เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค นอกจากจะเป็นอันตรายที่อาจคาดไม่ถึงแล้ว ผู้ป่วย ยังเสียโอกาสในการรักษาโรค แถมเสียเงินทองจำนวนมากด้วย หากจำเป็นต้องใช้ยาใดๆ รักษาโรค ควรปรึกษา สอบถามแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนซื้อหรือใช้ยาทุกครั้ง"เลขาธิการอย.กล่าว
นพ.พิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้ผ่านการขออนุญาตจาก อย. หรือพบการโฆษณาหลอกลวงผู้บริโภค ขอแจ้งร้องเรียนมาได้ที่ ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ชั้น 1 ตึก อย. หรือ สายด่วน อย. 1556 หรือ E-mail:1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นอกจากนี้ สามารถร้องเรียนได้ที่ บก.ปคบ. ตู้ ปณ. 459 ปณศ. สามเสนใน พญาไท กทม. 10400 เพื่อ อย. จะได้ร่วมกับ บก.ปคบ. ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย
วันที่ 21 มกราคม นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ประชาชนเป็นจำนวนมากที่ได้รับชมโทรทัศน์ดาวเทียม เกี่ยวกับคุณภาพ ความปลอดภัย ของผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพของ “ป้าเช็ง” ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้อย่างครอบจักรวาล เช่น มีการรักษาและให้ผู้ป่วยยืนยันผลดีของการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำหมักต่างๆ ในการรักษาโรค เช่น ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์ ได้หายขาด 100% รวมทั้ง มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์ของป้าเช็งในลักษณะโอ้อวด หลอกลวง เกินจริง อย่างต่อเนื่องทุกวัน ว่าเป็นการโฆษณาโอ้อวด หลอกลวง เกินจริง หรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสในการรักษา โดยได้ฟ้องร้องที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย.
นพ.พิพัฒน์ กล่าวว่า ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเฝ้าระวังการโฆษณาช่อง Supercheng ได้ตรวจสอบเบื้องต้น พบมีการโฆษณาสรรพคุณทางยาของผลิตภัณฑ์น้ำหมักผลไม้ ขยะ และสมุนไพร ของป้าเช็ง อวดอ้างรักษาสารพัดโรค โดยได้ใช้สื่อเฉพาะของตนเองเผยแพร่ ผ่านโทรทัศน์ดาวเทียมอย่างกว้างขวาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนใน วงกว้าง อีกทั้งประชาชนให้ความสนใจและใช้บริการจำนวนมาก
"ในวันนี้ (21 ม.ค.) อย. ได้ประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา และน้ำหมักชีวภาพของป้าเช็ง ณ บ้านป้าเช็ง ที่รังสิตคลอง 2 จ.ปทุมธานี พบว่า มีการผลิตและจำหน่ายน้ำหมักชีวภาพ และได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพส่งตรวจวิเคราะห์ โดยพฤติการณ์ทางคดีดังกล่าวจะมีลักษณะหมักเป็นถังใหญ่ๆ อยู่ภายในร้าน มีหน้าม้าคอยบรรยายสรรพคุณว่า บำบัดรักษาได้ทุกโรค และยังกระจายข่าวผ่านทางเคเบิลทีวีดาวเทียม และไม่เกรงกลัว อย."
เลขาธิการอย. กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดต่างๆ ดังนี้ 1. ผลิตและ/หรือขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับ ไม่เกิน 5 พันบาท2. ขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ3. โฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท4. โฆษณาขายยาโดยกล่าวอ้างว่า สามารถบำบัด บรรเทา รักษาโรคที่รัฐมนตรีห้ามตามประกาศฯ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท5. ประกอบโรคศิลปะโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ถ้าพบว่าประกอบโรคศิลปะจริง ก็จะมีความผิดในข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพของป้าเช็งที่อวดอ้างสรรพคุณรักษาสารพัดโรคเด็ดขาด การโฆษณาชวนเชื่ออวดอ้างสรรพคุณดังกล่าว อีกทั้งมีการตั้งราคาขายผลิตภัณฑ์ที่แพงมาก เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค นอกจากจะเป็นอันตรายที่อาจคาดไม่ถึงแล้ว ผู้ป่วย ยังเสียโอกาสในการรักษาโรค แถมเสียเงินทองจำนวนมากด้วย หากจำเป็นต้องใช้ยาใดๆ รักษาโรค ควรปรึกษา สอบถามแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนซื้อหรือใช้ยาทุกครั้ง"เลขาธิการอย.กล่าว
นพ.พิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้ผ่านการขออนุญาตจาก อย. หรือพบการโฆษณาหลอกลวงผู้บริโภค ขอแจ้งร้องเรียนมาได้ที่ ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ชั้น 1 ตึก อย. หรือ สายด่วน อย. 1556 หรือ E-mail:1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นอกจากนี้ สามารถร้องเรียนได้ที่ บก.ปคบ. ตู้ ปณ. 459 ปณศ. สามเสนใน พญาไท กทม. 10400 เพื่อ อย. จะได้ร่วมกับ บก.ปคบ. ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย