ม็อบต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน “เครือดั๊บเบิ้ลเอ” ปรับแนวสู้-หลัง สผ.แอบไฟเขียวอีไอเอ

ฉะเชิงเทรา-กลุ่มชาวบ้านพนมสารคามกว่า 300 คน รวมตัวชุมนุมเตรียมหาแนวทางต่อสู้ โครงการผลิตไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทในเครือโรงงานกระดาษยักษ์ใหญ่ หลังส่อแววต้านไม่อยู่ ขณะแกนนำระบุ สผ.เป็นใจแอบดอดเห็นชอบ อีไอเอ.แล้ว

วันนี้(16 ม.ค.53) ที่วัดดอนขี้เหล็ก ม.13 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มชาวบ้านในเขตพื้นที่ อ.พนมสารคาม จำนวนกว่า 300 คน เดินทางมารวมตัวชุมนุม เพื่อปรึกษาหาแนวทางการเคลื่อนไหวในการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน “เขาหินซ้อน” ของบริษัทเนชันแนล พาวเวอร์ซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัทเกษตรรุ่งเรืองพืชผล จำกัด ในเครือดับเบิ้ลเอ และ บริษัทเอ็มซีเอส จากประเทศสหรัฐอเมริกา (CMS Co.ltd., from U.S.A) กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ที่ได้มีการเตรียมการก่อสร้างอยู่ในเขตอุตสาหกรรมโครงการพนมพัฒนา ริมถนนสาย 331 กบินทร์บุรี-สัตหีบ ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาหินซ้อน

นายเสริมศักดิ์ คุณธรรมอนันต์ หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากชาวบ้านในพื้นที่ได้ทราบข่าวว่า รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักนโยบายและแผน (สผ.) แล้ว เมื่อช่วงปลายปี (27 ต.ค.52) ที่ผ่านมา ทั้งที่บริษัทดังกล่าวยังไม่เคยลงพื้นที่มาสำรวจ และรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน จึงเห็นว่าไม่ชอบ ไม่ถูกต้องด้วยขบวนการของมาตราที่ 67 ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 การมีส่วนร่วมของประชาชนที่แท้จริง ที่ส่วนใหญ่ไม่เคยได้รับข้อมูลข่าวสารในการลงพื้นที่ของบริษัทดังกล่าว ในวันนี้จึงได้นัดชาวบ้านมารวมตัว เพื่อประชุมหารือ และรอปรึกษาความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากสภาทนายความ เพื่อเตรียมการต่อสู่ทางกฎหมายต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าวนี้ ได้เริ่มเข้ามาในพื้นที่ ตั้งแต่เมื่อ เดือน ก.ย.51 โดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านมาโดยตลอด แต่ไม่ทราบว่าโครงการดังกล่าวนี้ผ่านความเห็นชอบจาก สผ. ได้อย่างไร

บริษัทแห่งนี้ มีโรงไฟฟ้าย่อย ที่ได้ขออนุญาตใช้พลังงานชีวมวลอยู่ในโครงการอยู่แล้ว จำนวน 3 แห่ง ขนาดกำลังการผลิต 37 เมกะวัตต์ และ 9 เมกะวัตต์ อีก 2 โรง แต่ในกระบวนการผลิตนั้น กลับแอบใช้ถ่านหินเป็นส่วนผสมเจือปนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากในเครือของบริษัทแห่งนี้ เป็นผู้ค้าและนำเข้าถ่านหินจนเกิดมลพิษ เป็นฝุ่นละอองออกมารบกวนเป็นอันตรายกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง และยังเป็นอันตรายต่อแหล่งต้นน้ำแควระบม- สียัด ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำบางปะกง

นอกจากนี้ยังมีการกำจัดกากเศษเถ้าถ่านอย่างไม่ถูกต้องอีกด้วย คือ การนำไปถมทิ้งโรยในแปลงป่าคูคาลิปตัส นำมาโรยใส่ถนนบ้าง และยังนำมาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องอีกด้วย ที่ทราบข้อมูลและพฤติกรรมภายในของบริษัทนี้ เนื่องจากมีลูกหลานของคนในพื้นที่ ทำงานอยู่ในโรงงานดังกล่าว