ฉะเชิงเทรา - กลุ่มเกษตรกรเดือดร้อนปัญหาที่ดินทำกินแปดริ้ว-สระแก้ว ขนทัพสองร้อย เตรียมบุกทำเนียบฯขอเข้าพบนายกฯให้ช่วยสางปัญหาโดยตรงวันนี้ หลังเคยยื่นข้อเรียกร้องผ่านหลายหน่วยงานให้ช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ไม่มีความคืบหน้า พร้อมเตรียมอวยพรให้กำลังใจรัฐบาล เพื่อให้อยู่แก้ไขปัญหาชาวบ้านต่อไป ห้ามชิงยุบสภาหนีหลังปีใหม่
วันนี้ (24 ธ.ค.52) เวลา 11.00 น. นายสาธิต ยืนสุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 434 ม.19 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยเกษตรกรผู้เดือดร้อน จากปัญหาที่ดินทำกิน 4 หมู่บ้านใน ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่โครงการปลูกป่าสวนป่าห้วยไคร้ และสวนป่าหนองไผ่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งมีนายมนตรี เข็มทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.15 ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นแกนนำ พร้อมรถยนต์กระบะ และรถบรรทุก จำนวน 16 คัน และชาวบ้านกว่า 200 คน
ได้ออกเดินทางจากจุดนัดหมายรวมตัวกัน ที่บริเวณด้านหน้าปั้มน้ำมัน ปตท. ในตลาดเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของเส้นทาง ถนนสายสระแก้วตัดใหม่ และถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี เพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล ในเขตพื้นที่ กทม.แล้ว
โดยนายสาธิต ยืนสุข แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า การเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ วันนี้ เพื่อต้องการที่จะขอเข้าไปพบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายกฯ ติดตามความคืบหน้า ปัญหาของเกษตรกรในเขตพื้นที่ 2 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว ที่ได้เคยยื่นผ่านกระทรวงฯ และหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแล้วหลายครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการแต่อย่างใด จึงต้องการให้นายกฯ ช่วยแก้ไขปัญหาให้
โดยปัญหาที่เคยเรียกร้องไปนั้น มีทั้งหมด 4 ข้อ คือ ปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรที่ทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวน และถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยึดนำไปปลูกป่า จนทำให้ชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกิน จึงต้องการให้นายกฯ แก้ไขปัญหาให้ ด้วยการนำที่ดินที่ถูกยึดไปกลับคืนมาให้แก่เกษตรกร
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่มีที่ทำกินให้จัดสรรพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้ทำกิน และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เข้าไปบุกรุกถางป่าไม้ยืนต้นที่มีอยู่เดิมในเขตป่าสงวน
เพื่อใช้พื้นที่ปลูกนำไปปลูกป่าเบี้ยกล้าไม้เล็กทดแทน ซึ่งมีหลักฐานในการกระทำผิดอย่างชัดเจน หลังทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ของคดี นอกจากนี้ชาวบ้านยังจะได้ขอพื้นที่ป่า ที่ถูกเจ้าหน้าที่แผ้วถางทำลาย ให้เป็นพื้นที่ป่าชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านเข้าไปดูแลกันเอง
หากได้พบกับนายกรัฐมนตรีแล้วยังได้เข้าไปอวยพรปีใหม่เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านต่อไป โดยไม่ให้รีบยุบสภาเพื่อหนีปัญหาต่างๆ หลังปีใหม่ พร้อมเตรียมของขวัญ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนนำมามอบให้ และจะเดินทางกลับในทันที
วันนี้ (24 ธ.ค.52) เวลา 11.00 น. นายสาธิต ยืนสุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 434 ม.19 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยเกษตรกรผู้เดือดร้อน จากปัญหาที่ดินทำกิน 4 หมู่บ้านใน ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่โครงการปลูกป่าสวนป่าห้วยไคร้ และสวนป่าหนองไผ่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งมีนายมนตรี เข็มทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.15 ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นแกนนำ พร้อมรถยนต์กระบะ และรถบรรทุก จำนวน 16 คัน และชาวบ้านกว่า 200 คน
ได้ออกเดินทางจากจุดนัดหมายรวมตัวกัน ที่บริเวณด้านหน้าปั้มน้ำมัน ปตท. ในตลาดเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของเส้นทาง ถนนสายสระแก้วตัดใหม่ และถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี เพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล ในเขตพื้นที่ กทม.แล้ว
โดยนายสาธิต ยืนสุข แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า การเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ วันนี้ เพื่อต้องการที่จะขอเข้าไปพบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายกฯ ติดตามความคืบหน้า ปัญหาของเกษตรกรในเขตพื้นที่ 2 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว ที่ได้เคยยื่นผ่านกระทรวงฯ และหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแล้วหลายครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการแต่อย่างใด จึงต้องการให้นายกฯ ช่วยแก้ไขปัญหาให้
โดยปัญหาที่เคยเรียกร้องไปนั้น มีทั้งหมด 4 ข้อ คือ ปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรที่ทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวน และถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยึดนำไปปลูกป่า จนทำให้ชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกิน จึงต้องการให้นายกฯ แก้ไขปัญหาให้ ด้วยการนำที่ดินที่ถูกยึดไปกลับคืนมาให้แก่เกษตรกร
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่มีที่ทำกินให้จัดสรรพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้ทำกิน และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เข้าไปบุกรุกถางป่าไม้ยืนต้นที่มีอยู่เดิมในเขตป่าสงวน
เพื่อใช้พื้นที่ปลูกนำไปปลูกป่าเบี้ยกล้าไม้เล็กทดแทน ซึ่งมีหลักฐานในการกระทำผิดอย่างชัดเจน หลังทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ของคดี นอกจากนี้ชาวบ้านยังจะได้ขอพื้นที่ป่า ที่ถูกเจ้าหน้าที่แผ้วถางทำลาย ให้เป็นพื้นที่ป่าชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านเข้าไปดูแลกันเอง
หากได้พบกับนายกรัฐมนตรีแล้วยังได้เข้าไปอวยพรปีใหม่เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านต่อไป โดยไม่ให้รีบยุบสภาเพื่อหนีปัญหาต่างๆ หลังปีใหม่ พร้อมเตรียมของขวัญ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนนำมามอบให้ และจะเดินทางกลับในทันที