ฉะเชิงเทรา - ทีมทนายคดีระงับ 76 โครงการมาบตาพุดยื่นมือช่วยเหลือชาวบ้านกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเขาหินซ้อน เตรียมล่ารายชื่อส่งมอบอำนาจยื่นฟ้องล้มโครงการต่อศาลปกครอง ระบุคล้าย 65 โครงการลงทุนในมาบตาพุดที่ศาลปกครองสูงสุดยังมีคำสั่งคุ้มครองให้ระงับโครงการ
วันนี้( 16 ม.ค.52 ) เวลา 17.30 น. นายวิบูลย์ ชัยภูมิ ชาวบ้าน ม.7 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา แกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเขาหินซ้อน กล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านผู้มาร่วมชุมนุมต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่รัศมี 5 กม. รอบพื้นที่การก่อสร้าง ได้ร่วมกันลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้แก่ทนายความจากสภาทนายความที่เข้ามาแนะนำและให้การช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย
สำหรับทีมทนายความชุดดังกล่าวนี้ ประกอบด้วย นายศรีสุวรรณ จรรยา และว่าที่ร้อยตรี สมชาย อามีน อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นทีมทนายชุดเดียวกันกับที่ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งคุ้มครองโครงการในมาบตาพุด 76 โครงการ จนถูกศาลมีคำสั่งให้ระงับโครงการไป จำนวน 65 โครงการ โดยล่าสุดมีชาวบ้านเข้ามาร่วมกันลงชื่อมอบอำนาจให้แก่ทีมทนายความชุดนี้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองแล้วจำนวนกว่า 300 คน และจะมีการเปิดรับให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อมอบอำนาจต่อไปอีก เนื่องจากยังมีผู้ที่มาร่วมชุมนุมอีกจำนวนมาก ที่ไม่ได้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัว มาร่วมลงชื่อมอบอำนาจด้วย หลังจากร่วมกันลงชื่อแล้วก็จะสลายการชุมนุมกลับไป นายวิบูลย์ กล่าว
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี สมชาย หนึ่งในทีมทนายความ กล่าวว่า คดีนี้มีลักษณะเดียวกันกับ 65 โครงการที่มาบตาพุด ที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำงาน ไม่ทำตามกระบวนการของกฎหมาย และอีไอเอ.ที่ผ่านการอนุมัติจากผู้ชำนาญการไปแล้วนั้น ผ่านหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2550 มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้น ถือเป็นกิจการที่มีผลอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง ซึ่งจะต้องทำรายงานผลกระทบต่อสุขภาพด้วย
หลังจากได้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านผู้เดือดร้อนในพื้นที่แล้ว จะรวบรวมรายชื่อทั้งหมด เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในเขตอำนาจ เพื่อให้มีการเพิกถอน อีไอเอ ที่ผ่านการอนุมัติแล้วต่อไป ส่วนโอกาสที่ชาวบ้านจะชนะคดีหรือไม่นั้น ได้มีกรณีศึกษาที่มาบตาพุดเป็นแนวทางอยู่แล้ว ซึ่งก็น่าจะใช้ได้เหมือนกันทั่วประเทศ ในโครงการที่ผ่านการอนุมัติหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มีผลบังคับใช้ และไม่ได้ทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ ก็มีโอกาสที่จะสามารถเพิกถอนโครงการได้หมด