เชียงราย-กลุ่มดอกงิ้วเจ้าของโครงการขนาดใหญ่ฝั่งลาว ไม่สนใจคำท้วงติงจากฝั่งไทย ที่ขอให้หยุดตักทรายกลางแม่น้ำโขง เหตุทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศแถมส่งผลกระทบฝั่งเชียงแสนที่ถูกน้ำกัดเซาะผิดพังทลายลงไปอย่างหนัก ล่าสุดต้องทำหนังสือส่งกรมโยธาฯจัดส่งเจ้าหน้าที่ศึกษาผลกระทบอย่างเป็นทางการ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าจากกรณีที่กลุ่มทุนจากประเทศจีนนำโดยกลุ่มดอกงิ้วคำ ได้เข้าไปประกอบกิจกรรมตามโครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้ามหมู่บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน และได้ทำการขุดทรายรวมทั้งก่อสร้างริมตลิ่งฝั่ง สปป.ลาว อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี
เป็นผลทำให้กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีรวมทั้งฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ได้ทำหนังสือแจ้งขอให้ชะลอการขุดตักทรายกลางแม่น้ำโขง เนื่องจากได้ทำให้กระแสน้ำไหลเปลี่ยนทิศทางและทำให้ท่าเรือในแม่น้ำโขงฝั่งไทยตื้นเขินนั้น ปรากฎว่า จนถึงปัจจุบันการดำเนินการดังกล่าวยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการชะลอการขุดตักแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ คำภิโล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี จ.เชียงราย เปิดเผยว่าการขุดตักทรายในแม่น้ำโขงตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ดำเนินมาติดต่อกันกว่า 1 ปีแล้ว วัตถุประสงค์เพื่อนำทรายไปถมพื้นที่เชื่อมระหว่างเกาะดอนซาวของ สปป.ลาว กับฝั่ง สปป.ลาว ในพื้นที่โครงการดังกล่าว ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คือทำให้ตลิ่งแม่น้ำโขงของฝั่ง อ.เชียงแสน ของไทยถูกน้ำที่เปลี่ยนกระแสทางน้ำไหลกัดเซาะอย่างหนัก และตั้งแต่พ้นพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำไปจนเกือบถึงหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ก็ไม่ได้มีการทำแนวคอนกรีตกั้นตลิ่งพังทลายด้วย จึงทำให้เกิดการกัดเซาะดินลงไปอย่างหนัก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาทางโครงการหรือ สปป.ลาว ไม่เคยแจ้งเรื่องนี้ให้ทางฝ่ายไทยได้รับทราบว่าจะดำเนินการขุดตักทราย มีเพียงการแจ้งว่าจะก่อสร้างแนวป้องกันตลิ่งพังตามขอบพื้นที่โครงการซึ่งติดกับแม่น้ำโขงเท่านั้น และไม่ได้แจ้งว่าจะนำทรายซึ่งใช้เป็นส่วนผสมในการทำแนวป้องกันตลิ่งมาจากทรายในแม่น้ำโขงดังกล่าว ดังนั้นการขุดตักทรายและทำให้เกิดผลกระทบในฝั่งไทย จึงเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดข้อตกลงว่าด้วยการใช้แม่น้ำโขงร่วมกันของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง
"ก่อนหน้านี้ทาง จ.เชียงราย ได้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้รับทราบ และจัดทำหนังสือคัดค้านไปยังคณะกรรมการว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้างแม่น้ำโขงหรือ JCCCN ซึ่งเป็นคณะกรรมการร่วม 4 ประเทศคือไทย ลาว จีนและพม่า ทำให้ JCCCN ได้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ไปบ้างแล้ว โดยทางการลาวเห็นชอบที่จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมในการศึกษาผลกระทบ แต่จนถึงขณะนี้เรื่องกลับเงียบหายไปและผลกระทบก็ยังมีเหมือนเดิม" นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า
ล่าสุดทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้ประสานไปยังรัฐบาลให้ได้รับทราบแล้วและแจ้งให้กรมโยธาธิการและผังเมืองช่วยจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาผลกระทบอย่างเป็นทางการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับโครงการ Kings Romans of Laos ASEAN economic & tourism development zone" สร้างบนเนื้อที่กว่า 5,168.75 ไร่ที่เมืองต้นผึ้งภายใต้สัญญาเช่าจากรัฐบาล สปป.ลาว เป็นระยะเวลา 75 ปี โดยมีกำหนดก่อสร้างเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างเพื่อการพักผ่อนหลากหลาย เช่น โรงแรมขนาด 700 ห้องและ 1,200 ห้อง จำนวน 5- 6 แห่ง สนามกอล์ฟ 18 หลุม จำนวน 2 แห่ง บ่อนคาสิโน อาคารพาณิชย์สำหรับเช่าขายสินค้า ตลาดการค้าเสรีปลอดภาษี ฯลฯ โดยได้มีการเปิดโครงการและด่านถาวรในพื้นที่เดียวกันไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2552 ปีที่ผ่านมา
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าจากกรณีที่กลุ่มทุนจากประเทศจีนนำโดยกลุ่มดอกงิ้วคำ ได้เข้าไปประกอบกิจกรรมตามโครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้ามหมู่บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน และได้ทำการขุดทรายรวมทั้งก่อสร้างริมตลิ่งฝั่ง สปป.ลาว อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี
เป็นผลทำให้กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีรวมทั้งฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ได้ทำหนังสือแจ้งขอให้ชะลอการขุดตักทรายกลางแม่น้ำโขง เนื่องจากได้ทำให้กระแสน้ำไหลเปลี่ยนทิศทางและทำให้ท่าเรือในแม่น้ำโขงฝั่งไทยตื้นเขินนั้น ปรากฎว่า จนถึงปัจจุบันการดำเนินการดังกล่าวยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการชะลอการขุดตักแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ คำภิโล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี จ.เชียงราย เปิดเผยว่าการขุดตักทรายในแม่น้ำโขงตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ดำเนินมาติดต่อกันกว่า 1 ปีแล้ว วัตถุประสงค์เพื่อนำทรายไปถมพื้นที่เชื่อมระหว่างเกาะดอนซาวของ สปป.ลาว กับฝั่ง สปป.ลาว ในพื้นที่โครงการดังกล่าว ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คือทำให้ตลิ่งแม่น้ำโขงของฝั่ง อ.เชียงแสน ของไทยถูกน้ำที่เปลี่ยนกระแสทางน้ำไหลกัดเซาะอย่างหนัก และตั้งแต่พ้นพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำไปจนเกือบถึงหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ก็ไม่ได้มีการทำแนวคอนกรีตกั้นตลิ่งพังทลายด้วย จึงทำให้เกิดการกัดเซาะดินลงไปอย่างหนัก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาทางโครงการหรือ สปป.ลาว ไม่เคยแจ้งเรื่องนี้ให้ทางฝ่ายไทยได้รับทราบว่าจะดำเนินการขุดตักทราย มีเพียงการแจ้งว่าจะก่อสร้างแนวป้องกันตลิ่งพังตามขอบพื้นที่โครงการซึ่งติดกับแม่น้ำโขงเท่านั้น และไม่ได้แจ้งว่าจะนำทรายซึ่งใช้เป็นส่วนผสมในการทำแนวป้องกันตลิ่งมาจากทรายในแม่น้ำโขงดังกล่าว ดังนั้นการขุดตักทรายและทำให้เกิดผลกระทบในฝั่งไทย จึงเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดข้อตกลงว่าด้วยการใช้แม่น้ำโขงร่วมกันของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง
"ก่อนหน้านี้ทาง จ.เชียงราย ได้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้รับทราบ และจัดทำหนังสือคัดค้านไปยังคณะกรรมการว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้างแม่น้ำโขงหรือ JCCCN ซึ่งเป็นคณะกรรมการร่วม 4 ประเทศคือไทย ลาว จีนและพม่า ทำให้ JCCCN ได้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ไปบ้างแล้ว โดยทางการลาวเห็นชอบที่จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมในการศึกษาผลกระทบ แต่จนถึงขณะนี้เรื่องกลับเงียบหายไปและผลกระทบก็ยังมีเหมือนเดิม" นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า
ล่าสุดทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้ประสานไปยังรัฐบาลให้ได้รับทราบแล้วและแจ้งให้กรมโยธาธิการและผังเมืองช่วยจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาผลกระทบอย่างเป็นทางการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับโครงการ Kings Romans of Laos ASEAN economic & tourism development zone" สร้างบนเนื้อที่กว่า 5,168.75 ไร่ที่เมืองต้นผึ้งภายใต้สัญญาเช่าจากรัฐบาล สปป.ลาว เป็นระยะเวลา 75 ปี โดยมีกำหนดก่อสร้างเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างเพื่อการพักผ่อนหลากหลาย เช่น โรงแรมขนาด 700 ห้องและ 1,200 ห้อง จำนวน 5- 6 แห่ง สนามกอล์ฟ 18 หลุม จำนวน 2 แห่ง บ่อนคาสิโน อาคารพาณิชย์สำหรับเช่าขายสินค้า ตลาดการค้าเสรีปลอดภาษี ฯลฯ โดยได้มีการเปิดโครงการและด่านถาวรในพื้นที่เดียวกันไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2552 ปีที่ผ่านมา