เชียงราย - หน่วยงานความมั่นคงชายแดนด้านเชียงราย เผยยาบ้า-เกาหลีเหนือทะลักเข้าเชียงรายหลังศึกพม่า-โกกั้งหยุด
รายงานข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงชายแดนด้าน จ.เชียงราย แจ้งว่าในปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน รวมทั้งชายแดนไทย-สปป.ลาว ซึ่งมีแม่น้ำโขงขวางกั้นมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและคึกคักมากกว่าที่ผ่านมา โดยพบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมีความพยายามในการลักลอบนำเข้ายาบ้าจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่ชายแดน จ.เชียงราย มากขึ้นโดยสังเกตุได้จากปริมาณยาบ้าที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ สามารถยึดได้จากกลุ่มขบวนการในช่วง 1-2 เดือนนี้มีมากกว่าครั้งละ 30,000-หลัก 100,000 เม็ด จากเดิมที่เคยพยายามลักลอบมาเพียงหลัก 10,000 เม็ดหรือขนเข้ามาทีละเล็กทีละน้อย
โดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมาตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดชาวม้งได้จำนวน 3 คน บริเวณริมถนนสายเชียงของ-เทิง ม.11 ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ขณะขนยาบ้าไปกับรถยนต์ปิคอัพโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บบ-1453 เชียงราย จำนวน 100,000 เม็ด ผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเป็นยาบ้าจากกลุ่มชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่เชียงของ-เวียงแก่น วันเดียวกันฝ่ายปกครอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ร่วมกับทหารพราน ทพ.31 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ยังยึดยาบ้าได้จำนวน 30,000 เม็ด ได้บริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้านหมู่บ้านกิ่วสะไต หมู่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ช่วงต้นเดือนตำรวจ สภ.แม่สาย ยังร่วมกับตำรวจ ปส.ล่อซื้อยาบ้าจากกลุ่มขบวนการได้ภายในท้องที่ อ.แม่สาย ได้กว่า 150,000 เม็ด พร้อมผู้ต้องหา 5 คน นอกจากนี้ปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาทหารจากกรมทหารพราน 31 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับตำรวจ สภ.บ้านแซว อ.เชียงแสน ยึดยาบ้าที่กลุ่มขบวนการลักลอบนำใส่เรือหางยาวในแม่น้ำโขงไปวางไว้บนฝั่งหมู่บ้านท่าขันทอง หมู่ 3 ต.บ้านแซว จำนวน 52,000 เม็ดด้วย
รายงานข่าวแจ้งต่อว่าสำหรับสาเหตุที่มียาเสพติดทะลักเข้ามามากในช่วงนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ในประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่าและ สปป.ลาว มีสถานการณ์ภายในประเทศเกิดขึ้นโดยในประเทศพม่ามีการต่อสู้กันระหว่างทหารของรัฐบาลพม่ากับชนน้อยโกกั้งบริเวณชายแดนพม่า-จีน ทำให้ทางการพม่ามีการเข้มงวดกวดขันความเคลื่อนไหวต่างๆ ภายในเขตรัฐฉาน ขณะที่ใน สปป.ลาว เองพบว่าช่วงเดียวกันได้มีขบวนการต่อต้านลาว (ขตล.) ซึ่งฝังตัวอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย และเปิดกิจการเรือแม่น้ำโขงบังหน้า ได้เข้าไปก่อเหตุภายในแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จนทำให้เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ต้องมีการเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจต่างๆ รวมทั้งบนถนน R3A เชื่อมไทย-สปป.ลาว-จีน
"ด้วยการเข้มงวดกวดขันของทั้งสองประเทศดังกล่าวทำให้การลักลอบขนส่งยาเสพติดภายในประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ชายแดนไทย รวมทั้งการเดินทางของชาวเกาหลีเหนือผ่านประเทศเพื่อนทำได้ยากขึ้น ก่อให้เกิดภาวะอั้นเอาไว้อย่างเต็มที่ กระทั่งต่อมาสถานการณ์เบาบางลงโดยเฉพาะการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับโกกั้งซึ่งยุติลงแล้วและเจ้าหน้าที่พม่าได้ลดความเข้มงวดลงเป็นเหตุให้เกิดปรากฎการทะลักเข้าชาวเกาหลีเหนือและยาเสพติดดังกล่าว" แหล่งข่าวจากชายแดนกล่าว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าปรากฎการณ์ทะลักดังกล่าวยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว สามารถยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 4 กระสอบ บริเวณท่าเรือของเขตเศรษฐกิจพิเศษและการท่องเที่ยวในพื้นที่อาเซียน" หรือ "Kings Romans of Laos ASEAN economic & tourism development zone" ซึ่งกลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุนที่เมืองต้นผึ้งภายใต้เนื้อที่รวมกว่า 5,168.75 ไร่ เป็นระยะเวลา 75 ปี ปัจจุบันเปิดเฟตแรกเป็นบ่อนคาสิโนและโรงแรม ภายหลังตรวจยึดได้มีการขนของกลางไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว แล้ว.
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากปัญหาเรื่องยาเสพติดแล้วยังมีการทะลักเข้ามาของชาวเกาหลีเหนือที่หลบหนีออกจากประเทศตัวเองผ่านประเทศจีน และเดินทางด้วยเรือในแม่น้ำโขงลักลอบเข้าทาง อ.เชียงแสน มากขึ้นด้วย โดยกลางเดือน ก.ย.ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย จับกุมชาวเกาหลีเหนือที่กำลังจะขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 2 ได้จำนวน 7 คน ถัดมาอีกเพียงไม่กี่วันตำรวจน้ำ อ.เชียงแสน ก็จับกุมชาวเกาหลีเหนือที่ฝั่งแม่น้ำโขงได้อีกจำนวน 14 คน หลังจากช่วงต้นเดือนเดียวกันตำรวจชุดเดียวกันนี้สามารถจับกุมได้แล้วจำนวน 10 คน และล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาตำรวจน้ำสามารถจับชาวเกาหลีเหนือชุดใหญ่ได้กว่า 32 คน