เชียงราย - กูรูประวัติศาสตร์เร่งถกที่มาเมืองเชียงราย 750 ปี เพื่อทำหนังสือประวัติเมืองเชียงราย ฉบับสมบูรณ์
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า คณะทำงานจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย นำโดยนายบดินทร์ กินาวงศ์ ประธานกรรมการได้จัดการประชุมกรรมการ เพื่อจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย ในโอกาสที่จะมีอายุครบ 750 ปีในปี 2555 ที่ห้องประชุม สำนักงานวัฒนธรรม จ.เชียงราย เมื่อ 9 ม.ค.53 ซึ่งคณาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ และเคยดำรงตำแหน่ง ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เชียงรายเข้าร่วมคับคั่ง เช่น อาจารย์ปริญญา กายสิทธิ์ อาจารย์รุ่ง ใจมา อาจารย์เตือนใจ ไชยศิลป์ อาจารย์พัชรินทร์ ชัยอิ่นคำ ฯลฯ
นายบดินทร์เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 เพื่อจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์เมืองเชียงรายที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุด โดยกำหนดให้มีเนื้อหาประมาณ 800 หน้า เพื่อประกอบการเฉลิมฉลองเมืองเชียงรายอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2555 ซึ่งเราจะพยายามจัดทำให้ดีที่สุดเพราะเชื่อว่าการเฉลิมฉลองแม้จะมีความยิ่งใหญ่ปานใดแต่ก็มีที่สิ้นสุด แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่เหลือเอาไว้อย่างคงทนคือหนังสือประวัติศาสตร์ดังกล่าว เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษารากเหง้าของตัวเอง
ทั้งนี้ หนังสือจะครอบคลุมตั้งแต่ลักษณะพื้นที่ ประวัติศาสตร์ในภาพรวมที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ของทวีปเอเชีย เช่น การรุกรานของชนเผ่ามองโกล เรื่องราวของชนชาติไต ฯลฯ กระทั่งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ จ.เชียงราย ในปัจจุบัน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ การก่อเกิดอาณาจักรต่างๆ ก่อนยุคอาณาจักรล้านนา อาณาจักรล้านนาซึ่งมีอายุร่วม 269 ปี ประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบัน ฯลฯ ซึ่งจะได้รวบรวม เรียบเรียงข้อมูลกับบรรดาผู้ทรงภูมิความรู้ทั้งหมดและร้อยเรียงออกมาเป็นหนังสือประวัติศาสตร์เชียงราย 750 ปีในที่สุด
นายบดินทร์กล่าวว่า การร้อยเรียงประวัติศาสตร์เมืองเชียงรายดังกล่าวจะแตกต่างจากนักประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ซึ่งมักจะกล่าวอ้างว่าเมืองเชียงรายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนาและเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรพม่ามาร่วม 200 ปี ทั้งๆ ที่ในบางช่วงบางเมืองมีการแยกตัวเป็นอิสระอยู่เนืองๆ ยิ่งในบางยุคเกิดการโยกย้ายอพยพจากเมืองต่างๆ ไป มาก่อให้เกิดประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถหาอ่านได้จากหนังสือประวัติศาสตร์เชียงราย 750 ปี ฉบับสมบูรณ์นี้ได้
“ครั้งหนึ่งในปี 2453 เมืองเชียงรายและพะเยาถูกควบรวมให้ขึ้นตรงต่อการปกครองที่เมืองหลวงกรุงเทพฯ ขณะที่เมืองเชียงใหม่ เมืองน่าน มีสถานะเป็นประเทศราช เพราะเหตุผลด้านความมั่นคงของสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อป้องกันการคุกคามของประเทศนักล่าอาณานิคม กระทั่งเชียงรายเข้าสู่ยุคใหม่” นายบดินทร์กล่าว
การดำเนินการจะแบ่งนักวิชาการให้ไปเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐาน และเรียบเรียงการเขียนเป็นยุคๆ คือยุคเริ่มต้นซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือแคว้นหรืออาณาจักรต่างๆ ดังกล่าว ยุคอาณาจักรล้านนา และยุคปัจจุบัน โดยเนื้อหาแต่ละช่วงจะครบทุกด้านทั้งภูมิศาสตร์ กายภาพ ดินฟ้าอากาศ การปกครอง เศรษฐกิจ ศาสนา เหตุการณ์ ฯลฯ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง เพื่อให้แล้วเสร็จก่อนการเฉลิมฉลองเมืองเชียงราย 750 ปีในปี 2555
ข้อมูลบางส่วนคณะจะต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลในมณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด เพื่อหาข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และเชิญชวนนักวิชาการของจีนตอนใต้มาร่วมกับเรียบเรียงหนังสือ นอกจากนี้ยังจะรวบรวมผลงานด้านประวัติศาสตร์ของนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยและภาคเหนือ เพื่อนำไปร้อยเรียงเป็นหนังสือดังกล่าว
ด้านงบประมาณได้ใช้เงินบริจาคในการดำเนินการเป็นหลัก โดยล่าสุดมีหลายองค์กรเห็นความสำคัญและร่วมบริจาคแล้วคือมูลนิธิปิยมหาราช มูลนิธิสถาบันอุดมศึกษา ฯลฯ และเชื่อว่าจะมีเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
สำหรับด้านการพิมพ์ ได้รับแจ้งจากทางผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย แล้วว่าจะให้การสนับสนุนแน่นอนจึงเชื่อว่าหนังสือจะแล้วเสร็จ และใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ของเชียงรายได้อย่างสมบูรณ์
