ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองนายกฯ “กอร์ปศักดิ์” พร้อมคณะลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ติดตามช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับสารพิษ จากท่าเทียบเรือบี 3 กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางมาติดตามกรณีสารเคมีรั่วไหล เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณท่าเทียบเรือบี 3 ท่าเรือแหลมฉบัง จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยมีนายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง ได้ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง
นายเฉลิมเกียรติชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดสารเคมีรั่วไหลในวันนั้น ที่บริเวณท่าเทียบเรือบ 3 ในช่วงเวลา 15.00 น. หลังจากได้รับแจ้งก็เข้าไปดำเนินการควบคุมและสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเวลาต่อมาเกิดปัญหาขึ้นอีกจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงต้องแจ้งให้ประชาชนบริเวณรอบข้างอพยพหนีภัยดังกล่าวในช่วงเวลา 01.00 น. ระยะเวลาห่างจากสารเคมีรั่วไหล 10 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านได้รับสารพิษจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
“ในตอนแรกทางการท่าเรือแหลมฉบังและหน่วยงานที่รับผิดชอบ คิดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่สารเคมีกลับมาปะทุขึ้นมาอีกครั้ง จนยากที่จะควบคุมได้ ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว” นายเฉลิมเกียรติกล่าว
ด้าน นายกอร์ปศักดิ์กล่าวถึงสาเหตุที่เดินทางมาในครั้งนี้เพื่อมาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีความกังวลชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว นอกจากนั้นมาดูแผนงานและมาตรการของการท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อเกิดปัญหาขึ้นดำเนินการอย่างไร เพราะปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ 3 โมงเย็น และมาแจ้งให้ชาวบ้านทราบหรือหนีในช่วงตี 1 โดยทิ้งระยะเวลานานถึง 10 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านอพยพไม่ทันจนได้รับอันตรายจากสารเคมีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่า ผู้ที่ประเมินสถานการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่รุนแรง เกิดความผิดพลาด เพราะหากประเมินสถานการณ์ถูกต้อง ปัญหาคงไม่เป็นเช่นนี้ ดังนั้นควรจะต้องมาหามาตรการดังกล่าวว่าใครเป็นผู้ที่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ และหากประเมินสถานการณ์แล้วเกิดความผิดพลาด ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องลงพูดคุยกันอีกครั้ง เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาก็จะต้องกับประชาชนอีก
นายกอร์ปศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ควรจะมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหมุนเวียนเฝ้าระวังปัญหา ซึ่งไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร โดยให้เจ้าหน้าที่ของการท่าเรือแหลมฉบัง, เจ้าหน้าที่ของท่าเทียบเรือเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ คน ผลัดเวรครั้งละ 8 ชั่วโมง ตรวจดูพื้นที่ตลอดเวลา เพื่อไม่ต้องการให้เกิดการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ตนและคณะจะเดินทางมาลงอีกครั้งในช่วงปลายเดือนม.ค. 2553 นี้ เพื่อวางมาตรการที่เข้มงวดและเป็นรูปธรรมต่อไป
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายวิเชษฐ์ คำทอง ประชาชนชุมชนแหลมฉบัง ตัวแทนชาวบ้าน ได้เข้ายื่นหนังสือ กับนายกอร์ปศักดิ์ เพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของชาวชุมชน ประกอบด้วย
1.ให้ติดตั้งสัญญาณเตือนภัยระหว่างท่าเรือกับชุมชน 2.สร้างสถานีอนามัยที่มีลักษณะพิเศษเอื้อต่อการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ 3.ดำเนินการจัดทำสำมโนประชาชกรของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการเร่งสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่อย่างสมบูรณ์ (ทะเบียนบ้าน, ไฟฟ้า, ประปา)
และ 4.แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินของชาวชุมชนด้วยการจัดสรรที่ดินให้ถูกต้อง หรือออกโฉนดชุมชนให้กับชาวบ้าน เพราะชาวบ้านอยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวมาเกิน 100 ปีแล้ว ซึ่งทางกอร์ปศักดิ์ รับหนังสือดังกล่าวและพร้อมจะลงมาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้