ศูนย์ข่าวศรีราชา - กมธ.สิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ลงพื้นที่แหลมฉบัง รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อวางแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำซาก เน้นเรื่อง อีไอเอ
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่วัดแหลมฉบังเก่า หมู่ 3 ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา และประธานคณะกรรมธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กมธ) วุฒิสภา พร้อมคณะได้เดินทางมารับฟังปัญหาเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลจากท่าเทียบเรือบี3 ท่าเรือแหลมฉบัง จนส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก และมีชาวบ้านได้เข้าไปยื่นหนังสือเพื่อให้ทางคณะ กมธ.ช่วยเหลือ โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ส.ว.ชลบุรี พร้อมผู้บริหารเทศบาลตำบลแหลมฉบัง ให้การต้อนรับและมีชาวบ้านกว่า 200 คน มารับฟังและร่วมชี้แจงปัญหาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้หน่วยงานต่างๆ ได้รับทราบ
นายสุรชัย กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร โดยต้องนำข้อมูลจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ และข้อมูลจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ก็จะนำเสนอหน่วยงานที่รับผิดชอบนำไปปฏิบัติต่อไป
ในช่วงที่สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น ได้เกิดมีการโต้เถียง ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนเทศบาลและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จนมีเหตุการณ์วุ่นวายเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าสู่สภาวะปกติ
ด้าน นายพิเชษฐ์ คำทอง ตัวแทนชาวบ้านแหลมฉบัง กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีกระแสว่า การช่วยเหลือจะแยกระหว่างคนที่มีบ้านเลขที่ และคนที่มาพักอาศัยโดยการเช่าบ้าน ซึ่งการช่วยเหลือจะแตกต่างกัน ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นคนคนหนึ่ง การช่วยเหลือไม่ควรจะแยกเช่นนั้น
ส่วนที่มีองค์กรเอกชนเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก แต่ถูกคัดค้านและต่อต้านจากกลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่ จึงออกมาต่อต้านและคัดค้านผู้ที่จะเข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้
ด้าน นางสมร ภู่เพชร น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า การเสียชีวิตในครั้งนี้ เกิดจากสารเคมีรั่วไหลอย่างแน่นอน เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยไปหาหมอเลย แต่ในวันที่มีสารเคมีรั่วไหล ในช่วงเช้ายังไปช่วยเพื่อนบ้านทำงานเมื่อถึงช่วงบ่ายเกิดเป็นลมหมดสติและนำตัวส่งศูนย์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ก็ไม่ดีขึ้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่าวอุดม และเสียชีวิตดังกล่าว
ในการเสียชีวิตในครั้งนี้ หลายฝ่ายออกมาพูดว่า คนตายมีโรคประจำตัวจึงเสียชีวิต โดยไม่เกี่ยวข้องกับสารเคมีที่รั่วไหล ซึ่งเรื่องนี้เพื่อให้ปัญหากระจ่างในทุกๆ ฝ่าย ทางญาติจะนำศพไปหาคุณญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่าศพพิสูจน์กันต่อไป เพื่อให้เกิดความสบายใจในทุกๆ ฝ่าย
นายสุรชัย กล่าวว่า ขณะนี้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีรั่วไหลในครั้งนี้ ทางหน่วยงานรัฐได้เข้ามาช่วยเหลือในระดับหนึ่งแล้ว และในอนาคตจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนซึ่งที่ผ่านมามีกระแสความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่นั้น ซึ่งเรื่องไม่ต้องการให้เกิดขึ้น โดยขอให้ร่วมมือร่วมใจในการป้องกันปัญหาและผลกระทบต่อจะเกิดขึ้นต่อไปจะดีกว่า ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการท่าเรือแหลมฉบังกับชาวบ้านนั้น ควรต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อสามารถอยู่ร่วมกันต่อไป
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในครั้งนี้ เพื่อนำไปปรับปรุง เพื่อไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต หากมีสิ่งใดบกพร่องก็จะได้นำไปแก้ไขให้ดีขึ้น โดยไม่ใช่ลงมาจับผิดหน่วยงานที่รับผิดชอบต่างๆ แต่อย่างใด ซึ่งการรวบรวมข้อมูลในครั้งนี้ คาดว่า ไปเกิน 1 สัปดาห์ ก็สามารถแจกจ่ายให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบในทันที
สำหรับการลงมาพบปะกับประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ในวันนี้ จะต้องเฝ้าติดตามตรวจสอบผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะยาวต่อไป โดยเฉพาะเรื่องรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะหากปฏิบัติตาม EIA แล้ว ปัญหาคงไม่เกินขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้วไม่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้นจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง หากผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป