ตราด - เผยค้าชายแดน ปี 52 ตราด- เกาะกง โตแค่ 2% ชี้เหตุขัดแย้งกัมพูชาตลอดปี 52 เศรษฐกิจโลกแย่ ค่าเงินบาทแข็งปัญหาสำคัญสุด
นายประยุทธ์ มณีโชติ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ในปีงบประมาณ 2552 ระหว่างเดือนตุลาคม 2551 - เดือนกันยายน 2552 มีมูลค่าการค้ารวม 16,778.23 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 มูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้น จำนวน 326.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.98
ส่วนมูลค่าส่งออกจำนวน 16,735.41 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 เพิ่มขึ้น 327.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.00 มูลค่านำเข้า จำนวน 42.82 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 ปรากฏว่ามูลค่านำเข้าลดลง 0.74 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.70 และดุลการค้าเกินดุล จำนวน 16,692.59 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551ดุลการค้าเกินดุล 328.19 ล้านบาท หรือเกินดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.01
สำหรับสินค้านำเข้าจากกัมพูชาที่สำคัญ คือ ไม้แปรรูป เครื่องขยายกำลังส่งของเครื่องวิทยุ อุปกรณ์เครื่องวิทยุคมนาคม ขณะที่สินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ น้ำตาลทราย นมและอาหารเสริม ขนมต่างๆ เครื่องโทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ครบชุด ผงชูรส ผงปรุงรส
นายประยุทธ์กล่าวว่า การค้าชายแดนในปีงบประมาณ 2552 มีอัตราการเติบโตที่ลดลงจากที่เติบโตในระดับ 10-15% ในทุกๆ ปี อย่างไรก็ตาม ด้วยสาเหตุจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจของกัมพูชาเอง ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเศรษฐกิจของไทย ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ทำให้ธุรกิจในกัมพูชาก็กระทบจากปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศลดการเดินทางมายังกัมพูชา
ขณะที่ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศแม้จะมีผลอยู่บ้าง แต่ด้าน จ.ตราด ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากทั้ง 2 จังหวัดมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาก และคนเกาะกงกับคน จ.ตราด เป็นเสมือนญาติพี่น้องกัน จึงทำให้เกิดความขัดแย้งไม่มากนัก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ค่าเงินของไทยแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สินค้าไทยมีราคาแพงขึ้น ทั้งนี้ กัมพูชานิยมใช้เงินดอลลาร์เป็นหลักควบคู่กับเงินบาทและเงินเรียลของกัมพูชา
ด้าน นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้า จ.ตราด และนักธุรกิจค้าขายชายแดนกล่าวว่า มูลค่าการค้าขายชายแดนไทยด้าน อ.คลองใหญ่ ทุกปีจะเกิดความเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในแต่ละปีก็จะสูงถึง 10-15% เป็นอย่างน้อย ซึ่งปีงบประมาณ 2552 ที่มีอัตราการเติบโตลดลงเหลือเพียง 1.95 % จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงเหมือนกัน เพราะต้องไม่ลืมว่าตลาดกัมพูชาเป็นตลาดการค้าสำคัญของไทยเนื่องจากมีมูลค่าสินค้าที่สูงกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี เฉพาะ จ.ตราด มีมูลค่าสูงถึง 16,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งปัญหาที่มีความเติบโตลดลงน่าจะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งกันระหว่าง 2 ประเทศ จึงทำให้ผู้ประกอบการไม่มั่นใจในการทำการค้าขายโดยเฉพาะในฝั่งกัมพูชาที่ผู้ประกอบการสั่งสินค้าจำนวนที่ลดลง ไม่กล้าสั่งครั้งละมากๆ เหมือนที่อยู่ในภาวะปกติ
นายประยุทธ์ มณีโชติ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ในปีงบประมาณ 2552 ระหว่างเดือนตุลาคม 2551 - เดือนกันยายน 2552 มีมูลค่าการค้ารวม 16,778.23 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 มูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้น จำนวน 326.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.98
ส่วนมูลค่าส่งออกจำนวน 16,735.41 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 เพิ่มขึ้น 327.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.00 มูลค่านำเข้า จำนวน 42.82 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 ปรากฏว่ามูลค่านำเข้าลดลง 0.74 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.70 และดุลการค้าเกินดุล จำนวน 16,692.59 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551ดุลการค้าเกินดุล 328.19 ล้านบาท หรือเกินดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.01
สำหรับสินค้านำเข้าจากกัมพูชาที่สำคัญ คือ ไม้แปรรูป เครื่องขยายกำลังส่งของเครื่องวิทยุ อุปกรณ์เครื่องวิทยุคมนาคม ขณะที่สินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ น้ำตาลทราย นมและอาหารเสริม ขนมต่างๆ เครื่องโทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ครบชุด ผงชูรส ผงปรุงรส
นายประยุทธ์กล่าวว่า การค้าชายแดนในปีงบประมาณ 2552 มีอัตราการเติบโตที่ลดลงจากที่เติบโตในระดับ 10-15% ในทุกๆ ปี อย่างไรก็ตาม ด้วยสาเหตุจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจของกัมพูชาเอง ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเศรษฐกิจของไทย ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ทำให้ธุรกิจในกัมพูชาก็กระทบจากปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศลดการเดินทางมายังกัมพูชา
ขณะที่ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศแม้จะมีผลอยู่บ้าง แต่ด้าน จ.ตราด ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากทั้ง 2 จังหวัดมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาก และคนเกาะกงกับคน จ.ตราด เป็นเสมือนญาติพี่น้องกัน จึงทำให้เกิดความขัดแย้งไม่มากนัก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ค่าเงินของไทยแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สินค้าไทยมีราคาแพงขึ้น ทั้งนี้ กัมพูชานิยมใช้เงินดอลลาร์เป็นหลักควบคู่กับเงินบาทและเงินเรียลของกัมพูชา
ด้าน นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้า จ.ตราด และนักธุรกิจค้าขายชายแดนกล่าวว่า มูลค่าการค้าขายชายแดนไทยด้าน อ.คลองใหญ่ ทุกปีจะเกิดความเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในแต่ละปีก็จะสูงถึง 10-15% เป็นอย่างน้อย ซึ่งปีงบประมาณ 2552 ที่มีอัตราการเติบโตลดลงเหลือเพียง 1.95 % จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงเหมือนกัน เพราะต้องไม่ลืมว่าตลาดกัมพูชาเป็นตลาดการค้าสำคัญของไทยเนื่องจากมีมูลค่าสินค้าที่สูงกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี เฉพาะ จ.ตราด มีมูลค่าสูงถึง 16,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งปัญหาที่มีความเติบโตลดลงน่าจะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งกันระหว่าง 2 ประเทศ จึงทำให้ผู้ประกอบการไม่มั่นใจในการทำการค้าขายโดยเฉพาะในฝั่งกัมพูชาที่ผู้ประกอบการสั่งสินค้าจำนวนที่ลดลง ไม่กล้าสั่งครั้งละมากๆ เหมือนที่อยู่ในภาวะปกติ