เชียงราย - สายการบิน SGA เตรียมเปิดบินเชียงราย-เชียงรุ่ง กลางปีหน้า ล่าสุดสั่งเครื่อง 304 ขนาด 33 ที่นั่งจอดรอที่ออสเตรเลียแล้ว 2 ลำ ขณะที่เลขาฯ พรรคคอมมิวนิสต์จีนสิบสองปันนา เสนอตั้งศูนย์ประสานงานร่วม 3 ฝ่าย (ไทย-พม่า-จีน/ไทย-ลาว-จีน) 5 พื้นที่สางปัญหาคนเข้า-ออกพรมแดนยาก หนุนท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขงตอนบน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า นาย Jiang Pusheng เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประเทศจีน ประจำสิบสองปันนา และประธานสมาคมมิตรภาพระหว่างประเทศสิบสองปันนา และนายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม MOU ระหว่างนายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย และนาย Lu Jianquan ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวสิบสองปันนา ที่โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท จ.เชียงราย ค่ำวันที่ 3 ธันวาคม2552 โดยมีตัวแทนภาครัฐ-เอกชนที่เกี่ยวข้องใน จ.เชียงราย และเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาเข้าร่วม
ใจความสำคัญของ MOU ดังกล่าวจะมุ่งเน้นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองฝ่าย เช่น ตั้งศูนย์ประสานงานของทั้งสองประเทศในพื้นที่ของคู่ลงนาม ร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวในด้านต่างๆ เป็นต้น
ก่อนการลงนาม นายสมเกียรติบอกว่า ปัจจุบันแม้ว่าจะมีการคมนาคมทางบกผ่าน สปป.ลาว หรือพม่าและทางเรือในแม่น้ำโขงเชื่อมกับจีนได้ แต่ยังไม่มีการคมนาคมทางอากาศ ดังนั้น จากการที่สิบสองปันนาและ จ.เชียงราย ต่างก็มีท่าอากาศยานนานาชาติเหมือนกันจึงควรส่งเสริมให้เพิ่มการคมนาคมด้านนี้ และอีกเรื่องคือปัญหาเรื่องการเข้าออกผ่านแดนระหว่างกันในทุกเส้นทาง เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยว
นาย Jiang Pusheng กล่าวอีกว่า ภาพรวมของอนุภูมิภาคนี้ทั้ง 4 ประเทศคือไทย จีน สปป.ลาว และพม่า ต่างก็มีปัญหาคือ แต่ละประเทศมีหน่วยงานที่บริหารงาน ทั้งที่ขึ้นกับส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น โดยต่างฝ่ายต่างขึ้นตรงต่อหน่วยงานของตัวเอง จึงเสนอให้มีการตั้งองค์กรความร่วมมือประสานงาน 3 ฝ่าย 5 พื้นที่ คือ ไทย-พม่า-จีน และไทย-สปป.ลาว-จีน โดยมี 5 พื้นที่เป็นคณะทำงานร่วมจากพื้นที่เชียงราย เชียงใหม่ สิบสองปันนา แขวงหลวงน้ำทา และแขวงบ่อแก้ว (สปป.ลาว) เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ และถ้าได้ผลก็อาจขยายไปยังแขวงหลวงพระบาง (สปป.ลาว) และเมืองเชียงตุง (พม่า) ต่อไป โดยอาจจัดเป็นศูนย์ประสานงานขึ้น
“ถ้าพบปัญหาที่เกี่ยวกับหน่วยงานท้องถิ่นก็สามารถหารือกันได้โดยทันที แต่ถ้าพบปัญหาระดับนโยบายอันเกิดจากส่วนกลางก็จะมีการประชุม 5 ฝ่าย เพื่อนำเสนอไปยังรัฐบาลของแต่ละฝ่ายต่อไปได้ ซึ่งผมเดินทางมาครั้งนี้ก็อยากจะประสานงานเพื่อเริ่มต้นกันที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ก่อน จากนั้นค่อยๆ ขยายไปยังแขวงบ่อแก้วต่อไป”
นาย Jiang Pusheng กล่าวอีกว่า เมื่อครั้นนางเตา หลินอิน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มาเยือน จ.เชียงราย ได้ทำรายงานถึงตนว่า จ.เชียงราย มีความพยายามจะเปิดสายการบินเชื่อมเชียงราย-สิบสองปันนา แต่ทราบว่ามีเพียงเครื่องบินเล็ก ขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติสิบสองปันนามีระเบียบรับเฉพาะเครื่องบินขนาดใหญ่ จึงอยากให้ได้เครื่องบินที่มีที่นั่ง 50-70 ที่นั่ง ซึ่งตนอยากให้เกิดสายการบินเชื่อมระหว่างกันโดยเร็วที่สุดด้วย
ด้านรองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่าที่ผ่านมาการเข้าออกไทย-จีน มีปัญหาเพราะไม่มีดินแดนติดกันเหมือนพม่าและ สปป.ลาว ที่ใช้บอร์เดอร์พาสได้ แต่ต้องใช้หนังสือเดินทาง ซึ่งเรื่องนี้จังหวัดได้นำเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทยแล้ว จึงเสนอให้ฝ่ายจีนผลักดันเป็นระดับนโยบายระหว่าง 3 ประเทศเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ส่วนกรณีการตั้งศูนย์ประสานงาน 3 ฝ่าย 5 พื้นที่ โดยส่วนตัวเห็นด้วยและอยากให้ดำเนินการกับแขวงบ่อแก้ว-หลวงน้ำทาของ สปป.ลาว ได้เลย ในส่วนของเชียงราย จะนำเสนอผู้ว่าฯ ซึ่งคาดว่าจะเห็นชอบด้วย เพราะอนาคตท่าเรือในแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน ก็จะเสร็จในปี 54 และสะพานข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมถนน R3a ก็จะเริ่มสร้างต้นปี 53
ขณะที่ นายวันชัย ช่วงชัยกิจการ รองผู้อำนวยการฝ่ายการขายและตลาดของสายการบินเอสจีเอ กล่าวว่าเอสจีเอที่มีแผนจะทำการบินระหว่างเชียงใหม่-เชียงราย-สิบสองปันนา ด้วยเครื่องรุ่น 304 ขนาด 33 ที่นั่ง ปัจจุบันเอสจีเอได้สั่งซื้อแล้วและเตรียมเครื่องบินเอาไว้แล้วที่ออสเตรเลีย 2 ลำ โดยจะบินมาไทยในเดือน มกราคม2553 และตั้งเป้าว่าจะเปิดบินเชียงราย-สิบสองปันนา ให้ได้ในเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม2553 และพร้อมจะเชื่อมธุรกิจกับเอกชนจีนต่อไป ทั้งนี้จะพยายามดำเนินเรื่องเกี่ยวกับการขออนุญาตและกฎระเบียบต่างๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากทันก่อนเดือน เมษายนจะดีมาก
สำหรับปัจจุบันเอสจีเอมีเครื่องบินเล็กจำนวน 3 ลำให้บริการโดยมี จ.เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางบินเชื่อมกับ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อ.ปาย .แม่ฮ่องสอน จ.เชียงราย และ จ.น่าน จ.อุดรธานี
ด้านนาย Den Xiping รองประธานบริษัทหยุนหนันแอร์พอร์ตกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าถ้าสายการบินเอสจีเอเปิดบินจริง ทางท่าอากาศยานนานาชาติสิบสองปันนา ก็จะให้ส่วนลดไม่ต้องเสียค่าลงจอดในปีแรกทันที 100% ปีที่สองลด 50% ปีที่สามลด 80% แต่ถ้าหาก 2-3 ปียังมีปัญหาด้านการลงทุนก็สามารถยกเว้นให้ได้อีกต่อไป