xs
xsm
sm
md
lg

วันแห่งความภาคภูมิใจในชาติที่ไร้อุดมการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวจีนชูธงชาตจีนระหว่างการเฉลิมฉลองวันชาติจีนปีที่ 60 วันที่ 1 ตุลาคม 2552-เอเอฟพี
อินเตอร์เนชั่นนัล เฮรัลด์ ทรีบูน--วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เซี่ย จวิน เด็กหนุ่มจีนผู้รักชาติวัย 23 ปี ยืนมองแถวทหารหลายพันนายเคลื่อนผ่านจัตุรัสเทียนอันเหมิน เพื่อรำลึกการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนครบ 60 ปี ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ตื้นตันจนรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ

“การเรียนประวัติศาสตร์จีนจากหนังสือเรียน ทำให้ผมรู้ว่าในอดีดเราเคยถูกชาวต่างชาติรุกรานอย่างไร และชาติเราอยู่รอดมาได้อย่างไร เราจึงต้องผนึกกำลังและรักชาติของเรา ผมภูมิใจมากที่จีนสามารถผงาดจากประเทศหล้าหลังขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าบนเวทีโลกได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว”

เมื่อถูกขอให้อธิบายคุณค่าของสังคมจีน นอกเหนือจากความสำเร็จในการสร้างเศรษฐกิจและความทันสมัย เซียนิ่งไปพักใหญ่แล้วจึงกล่าวว่า “สิ่งนั้นคือความสามารถในการปรับตัว การเรียนรู้จากโลกตะวันตก ความพากเพียร และความอุตสาหะ”

ในงานรำลึก 60 ปีวันชาติจีนปีนี้ ยังมีการจัดแสดงภาพอาวุธที่ทันสมัยและความหนาแน่นของตึกระฟ้าในนครเซี่ยงไฮ้ พร้อมกับข้อความที่ระบุว่า ประธานเหมาได้กระทำสิ่งที่ถูกต้อง และพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง จนเป็นที่ยอมรับนับถือจากทั่วโลก

แต่ทว่า ท่ามกลางงานเฉลิมฉลองที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศเลือดรักชาติ ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนหลายคนคงสงสัยว่า แล้วเลือดรักชาติของชาวจีนเช่นที่เห็นอยู่ต่อหน้านี้ จะคงอยู่ไปอีกนานเท่าใด

“ทุกวันนี้อุดมการณ์ไม่หลงเหลืออยู่แล้วในประเทศจีน ไม่ว่ารัฐบาลหรือประชาชนต่างก็ไม่มีอุดมการณ์ เหตุผลที่รัฐบาลยังอยู่ในอำนาจ เพราะพวกเขายังสามารถป่าวร้องกับประชาชนได้ว่า ‘ตราบเท่าที่อำนาจยังอยู่ในมือฉัน ชีวิตพวกคุณก็จะดีขึ้น และมีความมั่นคง’ ถ้ารัฐบาลยังทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี พวกเขาก็ยังอยู่ได้ แต่อะไรจะเกิดขึ้น หากวันหนึ่งพวกเขาทำอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว” นั่นคือความเห็นของ จาง หมิง อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่ง

หากไปถามชาวปักกิ่งถึงเหตุผลที่ทำให้เขารักประเทศจีน คำตอบจากหลายๆ คนก็คือ เป็นเพราะจีนมีเศรษฐกิจเข้มแข็ง และการที่จีนก้าวขึ้นมาเป็นชาติชั้นนำในโลก ขณะที่คำขวัญเกี่ยวกับอุดมการณ์สังคมนิยมและการปฏิวัติเพื่อโค่นล้มระบอบทุนนิยม กลายเป็นเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อที่ชาวบ้านหลายคนไม่เคยนึกถึง ยกเว้นคนที่ฝักใฝ่ในระบอบสังคมนิยมอย่างแท้จริงเท่านั้น

บรรดานักประวัติศาสตร์และนักสังคมวิทยาให้ความเห็นว่า ชาวจีนเคยเชื่อมั่นกับอุดมการณ์สังคมนิยมและได้สนับสนุนรัฐบาลของพวกเขาด้วยเหตุผลนี้ แต่อุดมการณ์นั้นได้ตายไปแล้วเมื่อ 30 ปีก่อน เมื่อจีนมีการปฏิรูปสังคมและเปิดประเทศสู่โลกภายนอก ซึ่งนำไปสู่ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจอย่างน่าอัศจรรย์จนทุกวันนี้

ดังนั้น แรงขับที่ทำให้ชาวจีนจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ทุกวันนี้จึงไม่ใช่อุดมการณ์ หากเป็นความสำเร็จที่รัฐบาลทำให้จีนหลุดพ้นจากสภาพของประเทศยากจน

“ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ผมก็สามารถรักพรรคฯได้เหมือนๆกับที่รักชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นกับจีนทุกวันนี้ ถือเป็นการรังสรรค์จากพรรคคอมมิวนิสต์จีน

”ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีระบอบอื่นใดที่สามารถปกครองจีนได้ ถ้าคุณเปลี่ยนระบอบการปกครอง และพรรคคอมมิวนิสต์จีนถูกเขี่ยออกจากอำนาจไป หลายคนต่างเห็นพ้องกันว่าเมื่อนั้นประเทศจีนจะเกิดความโกลาหลวุ่นวายอย่างใหญ่หลวง” นั่นคือความเห็นจาก เหรา จิ้น เจ้าของเว็บไซต์ Anti-CNN ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักชาติและการปฏิเสธชาติตะวันตก

ขณะที่ หลี่ อี่ว์เฉียน นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกีฬาวัย 30 ปี เห็นว่า แม้พรรคคอมมิวนิสต์จะทำงานบริหารประเทศได้ดี “แต่สิ่งที่ทำให้เรารักประเทศนี้แตกต่างจากความรักที่มีต่อพรรคฯ” เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อทิ้งท้ายว่า “อย่าไปเขียนนะว่าผมไม่ได้รักพรรคคอมมิวนิสต์”
กำลังโหลดความคิดเห็น