บริษัททัวร์เก็กซิม การเมืองไทยวุ่นไม่หยุด วันชาติจีนปีนี้ ยังไร้เงาชาร์เตอร์ไฟล์ หวั่นม็อบเสื้อแดงป่วน ยอดจองหล่นวูบเหลือไม่ถึง 30%รายได้หายกว่า 1,000 ล้านบาท เทียบกับปี 50 ระบุรัฐบาลจีนสั่งประชาชน ไม่ต้องการให้เดินทางไปประเทศที่บ้านเมืองไม่สงบและมีการชุมนุม เป็นผลบริษัททัวร์ล้มระนาวปิดกิจการกว่า 20 บริษัทแล้ว
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า ในช่วงวันชาติจีนต้นเดือนตุลาคมปีนี้ อัตราการจองซื้อทัวร์ของชาวจีนเพื่อเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยยังมีจำนวนน้อยมาก ลดลงจากปี 2550 ซึ่งเป็นช่วงเหตุการณ์ปกติถึงกว่า 50% โดยในส่วนของเส้นทางกรุงเทพฯมหานคร เที่ยวบินโดยสารปกติก็ยังมีการจองที่นั่งไม่เต็ม ส่วนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟล์ ไม่มีเลย ส่วนเดสติเนชั่นภูเก็ตก็มีชาร์เตอร์ไฟล์ทเข้ามาบางแต่จำนวนก็เล็กน้อย
ทั้งนี้เพราะบริษัททัวร์ประเทศจีน ยังไม่กล้าที่จะจัดโปรแกรมทัวร์เที่ยวประเทศไทย เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง โดยจะรอดูสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ก่อนว่าจะผ่านพ้นไปได้หรือไม่ นอกจากนั้นยังทราบมาว่ารัฐบาลจีนมีนโยบายชัดเจนที่ไม่ต้องการให้ประชาชนของตนเองเดินทางไปยังประเทศที่เห็นว่ายังไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งให้เหตุผล 2 ประการหลัก คือ 1.เป็นห่วงประชาชนจะได้รับอันตราย และ 2. ไม่ต้องการให้ประชาชนของตัวเองไปเห็นภาพการชุมนุมทางการเมือง พร้อมกับแจ้งประชาชนชาวจีนให้จดจำไว้ว่า ประเทศจีนมีความเจริญรุดหน้าได้อย่างรวดเร็วเพราะรัฐบาลมีเสถียรภาพ
“ในปี 2551 ช่วงเวลานี้ก็มีการชุมนุมกันอย่างเข้มข้น และมีการปะทะกันจนเสียชีวิตด้วย ดังนั้นเราจึงเปรียบเทียบกับปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่เหตุการณ์ปกติ โดยในปี 2550 นั้น ช่วงวันชาติจีนเดือนเดียวมีชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเกือบ 70,000 คน เฉลี่ยค่าทัวร์คนละ 30,000 บาท เท่ากับมีรายได้เกือบ 2,000 ล้านบาท แต่ปีนี้ช่วงเวลาเดียวกันยังมีชาวจีนจองซื้อทัวร์มาประเทศไทยไม่ถึง 30% ของปีดังกล่าว คิดเป็นจำนวนเพียง 20,000 คน ซึ่งแน่นอนรายได้ต้องหายไปมากกว่า 50% หากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ยืดเยื้อเกิน 3-5 วัน ท่องเที่ยวคงล้มกันทั้งหมด “
หากการเมืองไทยยังมีความวุ่นวายไม่จบสิ้น แม้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ใหญ่ในรัฐบาลจะไปช่วยเจรจาให้รัฐบาลจีนส่งนักท่องเที่ยวมาให้ประเทศไทยก็ไม่เป็นผล สิ่งที่ททท.กระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวไปทั้งหมดก็ล้มเหลว ไม่ใช่แค่ตลาดจีน แต่เชื่อว่าทุกประเทศทั่วโลกก็ไม่มีใครมาหากบ้านเมืองเราไม่สงบ
อย่างไรก็ตามจากความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทยที่มีมาต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ปี่ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้บริษัทนำเที่ยวเริ่มปิดตัวไปจำนวนมากแล้ว ในส่วนของบริษัทที่ทำทัวร์รับนักท่องเที่ยวจากประเทจีน ล่าสุดมีรายงานปิดตัวไปกว่า 20 บริษัท เพราะหมดเงินทุนและหมดกำลังใจที่จะทำธุรกิจนี้ต่อไป โดยบ้างก็เปลี่ยนไปค้าขายเสื้อผ้า บ้างก็ไปเปิดร้านขายอาหาร เป็นต้น
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า ในช่วงวันชาติจีนต้นเดือนตุลาคมปีนี้ อัตราการจองซื้อทัวร์ของชาวจีนเพื่อเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยยังมีจำนวนน้อยมาก ลดลงจากปี 2550 ซึ่งเป็นช่วงเหตุการณ์ปกติถึงกว่า 50% โดยในส่วนของเส้นทางกรุงเทพฯมหานคร เที่ยวบินโดยสารปกติก็ยังมีการจองที่นั่งไม่เต็ม ส่วนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟล์ ไม่มีเลย ส่วนเดสติเนชั่นภูเก็ตก็มีชาร์เตอร์ไฟล์ทเข้ามาบางแต่จำนวนก็เล็กน้อย
ทั้งนี้เพราะบริษัททัวร์ประเทศจีน ยังไม่กล้าที่จะจัดโปรแกรมทัวร์เที่ยวประเทศไทย เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง โดยจะรอดูสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ก่อนว่าจะผ่านพ้นไปได้หรือไม่ นอกจากนั้นยังทราบมาว่ารัฐบาลจีนมีนโยบายชัดเจนที่ไม่ต้องการให้ประชาชนของตนเองเดินทางไปยังประเทศที่เห็นว่ายังไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งให้เหตุผล 2 ประการหลัก คือ 1.เป็นห่วงประชาชนจะได้รับอันตราย และ 2. ไม่ต้องการให้ประชาชนของตัวเองไปเห็นภาพการชุมนุมทางการเมือง พร้อมกับแจ้งประชาชนชาวจีนให้จดจำไว้ว่า ประเทศจีนมีความเจริญรุดหน้าได้อย่างรวดเร็วเพราะรัฐบาลมีเสถียรภาพ
“ในปี 2551 ช่วงเวลานี้ก็มีการชุมนุมกันอย่างเข้มข้น และมีการปะทะกันจนเสียชีวิตด้วย ดังนั้นเราจึงเปรียบเทียบกับปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่เหตุการณ์ปกติ โดยในปี 2550 นั้น ช่วงวันชาติจีนเดือนเดียวมีชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเกือบ 70,000 คน เฉลี่ยค่าทัวร์คนละ 30,000 บาท เท่ากับมีรายได้เกือบ 2,000 ล้านบาท แต่ปีนี้ช่วงเวลาเดียวกันยังมีชาวจีนจองซื้อทัวร์มาประเทศไทยไม่ถึง 30% ของปีดังกล่าว คิดเป็นจำนวนเพียง 20,000 คน ซึ่งแน่นอนรายได้ต้องหายไปมากกว่า 50% หากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ยืดเยื้อเกิน 3-5 วัน ท่องเที่ยวคงล้มกันทั้งหมด “
หากการเมืองไทยยังมีความวุ่นวายไม่จบสิ้น แม้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ใหญ่ในรัฐบาลจะไปช่วยเจรจาให้รัฐบาลจีนส่งนักท่องเที่ยวมาให้ประเทศไทยก็ไม่เป็นผล สิ่งที่ททท.กระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวไปทั้งหมดก็ล้มเหลว ไม่ใช่แค่ตลาดจีน แต่เชื่อว่าทุกประเทศทั่วโลกก็ไม่มีใครมาหากบ้านเมืองเราไม่สงบ
อย่างไรก็ตามจากความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทยที่มีมาต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ปี่ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้บริษัทนำเที่ยวเริ่มปิดตัวไปจำนวนมากแล้ว ในส่วนของบริษัทที่ทำทัวร์รับนักท่องเที่ยวจากประเทจีน ล่าสุดมีรายงานปิดตัวไปกว่า 20 บริษัท เพราะหมดเงินทุนและหมดกำลังใจที่จะทำธุรกิจนี้ต่อไป โดยบ้างก็เปลี่ยนไปค้าขายเสื้อผ้า บ้างก็ไปเปิดร้านขายอาหาร เป็นต้น
