ตราด - สัมปทานประมงกัมพูชาใกล้ยุติหลัง “พัด สุภาภา-บุญเลิศ-ทร.เกาะกง” ประชุมลับ เร่งออกระเบียบและร่างสัญญา ขณะ ปธ.หอฯตราด ลั่น 2 ฝ่ายเข้าใจผิดจี้ไม่ปิดน่านน้ำ
ความคืบหน้าการจัดระเบียบการประมงในน่านน้ำกัมพูชา วันนี้ (2 ธ.ค.) โดยทางผู้บริหารระดับสูงของ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย นายบุญเลิศ พราหมณ์เกสร ผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง นายพัด สุภาภา สมาชิกวุฒิสภา จ.เกาะกง และตัวแทนของสมเด็จฮุนเซน และ พล.ร.ต.เตีย โสกา รอง ผบ.ทร.ประเทศกัมพูชา ได้ร่วมประชุมลับเพื่อหารือและหาข้อสรุปกับการจัดระเบียบและข้อตกลงรวมทั้งสัญญาการทำประมงน่านน้ำกัมพูชา หรือตั๋วน้ำให้กับเรือประมงของไทย หลังตั๋วน้ำหมดลงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเกาะกงอินเตอร์เนชั่นแนลรีสอร์ทคลับ ที่ นายพัด สุภาภา เป็นเจ้าของ โดยข้อสรุปวันนี้ จะเป็นสัญญาในการทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาต่อไป
นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้า จ.ตราด เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ของบุคคลทั้ง 3 คน จะเป็นข้อสรุปที่จะใช้เป็นสัญญาการทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา และเชื่อว่า จะสามารถเปิดให้เรือประมงไทยเข้าไปทำสัญญาและรับตั๋วน้ำจาก จ.เกาะกง ได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจากการประสานงานในเบื้องต้น ค่าสัมปทานทำประมงของเรือประมงประเภทต่างๆ จะยังอยู่ในอัตราเดิม คือ อัตราขึ้นอยู่กับชนิดของเรือประมง และขนาดของเรือประมงตั้งแต่ 40,000-200,000 บาท/1 น้ำ (หมายถึงช่วงเดือนมืด เพราะเดือนหงายจะจับปลาไม่ได้) หรือ 45 วัน ส่วนเรือประมงลากคู่ที่สามารถจับปลาได้ทั้ง 2 น้ำ (เดือนมืด, เดือนหงาย) จะคิคค่าน้ำหรือตั๋วเรือตั้งแต่ 160,000-300,000 บาท/เรือ 1 คู่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่มีปัญหาใดๆ
“มันมีเรือประมงนอกกฎหมายที่มักจะไปลักลอบทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาที่ทำให้เกิดปัญหาการทำประมงเรือประมงเหล่านี้ หากถูกจับจะถูกปรับในอัตราที่สูงกว่าการจ่ายตั๋วน้ำ ที่สำคัญ จ.เกาะกง จะมีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา 1 ชุดเป็นคณะกรรมการชุดพิเศษที่มีบุคคลของรัฐบาลมาดูแลและรับผิดชอบในการให้การอนุญาต และขึ้นตรงกับรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์จะตกอยู่กับรัฐบาลกลางเป็นหลัก ส่วนท้องถิ่นจะมีการจัดสรรให้ภายหลัง และการเข้าไปทำประมงจะสามารถเข้าไปทำได้ในสัปดาห์นี้”
นายประเสริฐ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าสัมปทานของสัญญารายใหม่ อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากในขณะนี้ปริมาณปลาในกัมพูชาก็มีจำนวนไม่ชุกชุมเหมือนเดิมนัก อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะตกต่ำ และราคาน้ำมันก็ราคาสูง หากทางจังหวัดเกาะกงจะขึ้นราคาค่าสัมปทานน่าจะส่งผลกระทบกับจำนวนเรือประมงที่จะเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา คาดว่าน่าจะอยู่ระหว่าง 250-300 ลำเท่านั้น
ขณะที่ นายฐิติกร โลหะคุปต์ นายกสมาคมการประมง จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัญหาที่ผ่านมาทาง จ.เกาะกงได้ดำเนินการในการแก้ปัญหาและประชมส่วนงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และได้ข้อสรุปว่าก็จะเปิดให้มีการทำสัมปทานและค่าตั๋วน้ำภายในสัปดาห์นี้ หากสามารถดำเนินการได้เร็วก็น่าจะไม่เกินวันที่ 4 หรือ 5 ธันวาคม 2552 นี้ โดยเรือประมงทั้งหมดจะสามารถเข้าไปติดต่อกับคณะกรรมการที่ทางจังหวัดตั้งขึ้น โดยมีรองผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง นายธรรมสอน พราหม์เกสร เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
สำหรับ นายไชยันต์ การสมเนตร กล่าวว่า ทราบว่า ทางจังหวัดเกาะกงกำลังอยู่ระหว่างประชุมเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องสัมปทานประมงน่านน้ำคาดว่าจะได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้ ส่วนเรือประมงไทยที่จะเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาจะต้องจ่ายค่าน้ำหรือตั๋วน้ำก่อนจึงจะสามารถเข้าไปได้ ซึ่งค่าสัมปทานเท่าที่ทราบในเบื้องต้นอาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากมีการประสานงานจากสมาคมประมง จ.ตราด เพื่อขอให้เก็บค่าสัมปทานอยู่ในระดับเดิม
นายประทีป จงสืบธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ปัญหาน่านน้ำระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาใดๆ ปกติแล้วการดำเนินการด้านชายแดน การค้า กิจกรรมต่างๆ การประมง หรือธุรกิจการค้า จะยึดหลักการพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ว่าจะเป็นหอการค้ากับหอการค้า ซึ่งไม่มีปัญหาด้านธุรกิจการค้าแต่อย่างใด หรือความสัมพันธ์ระหว่างท้องถิ่นกับท้องถิ่น ส่วนด้านความสัมพันธ์ทางชายแดนก็อยู่ในเกณฑ์ปกติดี
ความคืบหน้าการจัดระเบียบการประมงในน่านน้ำกัมพูชา วันนี้ (2 ธ.ค.) โดยทางผู้บริหารระดับสูงของ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย นายบุญเลิศ พราหมณ์เกสร ผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง นายพัด สุภาภา สมาชิกวุฒิสภา จ.เกาะกง และตัวแทนของสมเด็จฮุนเซน และ พล.ร.ต.เตีย โสกา รอง ผบ.ทร.ประเทศกัมพูชา ได้ร่วมประชุมลับเพื่อหารือและหาข้อสรุปกับการจัดระเบียบและข้อตกลงรวมทั้งสัญญาการทำประมงน่านน้ำกัมพูชา หรือตั๋วน้ำให้กับเรือประมงของไทย หลังตั๋วน้ำหมดลงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเกาะกงอินเตอร์เนชั่นแนลรีสอร์ทคลับ ที่ นายพัด สุภาภา เป็นเจ้าของ โดยข้อสรุปวันนี้ จะเป็นสัญญาในการทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาต่อไป
นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้า จ.ตราด เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ของบุคคลทั้ง 3 คน จะเป็นข้อสรุปที่จะใช้เป็นสัญญาการทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา และเชื่อว่า จะสามารถเปิดให้เรือประมงไทยเข้าไปทำสัญญาและรับตั๋วน้ำจาก จ.เกาะกง ได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจากการประสานงานในเบื้องต้น ค่าสัมปทานทำประมงของเรือประมงประเภทต่างๆ จะยังอยู่ในอัตราเดิม คือ อัตราขึ้นอยู่กับชนิดของเรือประมง และขนาดของเรือประมงตั้งแต่ 40,000-200,000 บาท/1 น้ำ (หมายถึงช่วงเดือนมืด เพราะเดือนหงายจะจับปลาไม่ได้) หรือ 45 วัน ส่วนเรือประมงลากคู่ที่สามารถจับปลาได้ทั้ง 2 น้ำ (เดือนมืด, เดือนหงาย) จะคิคค่าน้ำหรือตั๋วเรือตั้งแต่ 160,000-300,000 บาท/เรือ 1 คู่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่มีปัญหาใดๆ
“มันมีเรือประมงนอกกฎหมายที่มักจะไปลักลอบทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาที่ทำให้เกิดปัญหาการทำประมงเรือประมงเหล่านี้ หากถูกจับจะถูกปรับในอัตราที่สูงกว่าการจ่ายตั๋วน้ำ ที่สำคัญ จ.เกาะกง จะมีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา 1 ชุดเป็นคณะกรรมการชุดพิเศษที่มีบุคคลของรัฐบาลมาดูแลและรับผิดชอบในการให้การอนุญาต และขึ้นตรงกับรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์จะตกอยู่กับรัฐบาลกลางเป็นหลัก ส่วนท้องถิ่นจะมีการจัดสรรให้ภายหลัง และการเข้าไปทำประมงจะสามารถเข้าไปทำได้ในสัปดาห์นี้”
นายประเสริฐ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าสัมปทานของสัญญารายใหม่ อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากในขณะนี้ปริมาณปลาในกัมพูชาก็มีจำนวนไม่ชุกชุมเหมือนเดิมนัก อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะตกต่ำ และราคาน้ำมันก็ราคาสูง หากทางจังหวัดเกาะกงจะขึ้นราคาค่าสัมปทานน่าจะส่งผลกระทบกับจำนวนเรือประมงที่จะเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา คาดว่าน่าจะอยู่ระหว่าง 250-300 ลำเท่านั้น
ขณะที่ นายฐิติกร โลหะคุปต์ นายกสมาคมการประมง จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัญหาที่ผ่านมาทาง จ.เกาะกงได้ดำเนินการในการแก้ปัญหาและประชมส่วนงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และได้ข้อสรุปว่าก็จะเปิดให้มีการทำสัมปทานและค่าตั๋วน้ำภายในสัปดาห์นี้ หากสามารถดำเนินการได้เร็วก็น่าจะไม่เกินวันที่ 4 หรือ 5 ธันวาคม 2552 นี้ โดยเรือประมงทั้งหมดจะสามารถเข้าไปติดต่อกับคณะกรรมการที่ทางจังหวัดตั้งขึ้น โดยมีรองผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง นายธรรมสอน พราหม์เกสร เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
สำหรับ นายไชยันต์ การสมเนตร กล่าวว่า ทราบว่า ทางจังหวัดเกาะกงกำลังอยู่ระหว่างประชุมเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องสัมปทานประมงน่านน้ำคาดว่าจะได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้ ส่วนเรือประมงไทยที่จะเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาจะต้องจ่ายค่าน้ำหรือตั๋วน้ำก่อนจึงจะสามารถเข้าไปได้ ซึ่งค่าสัมปทานเท่าที่ทราบในเบื้องต้นอาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากมีการประสานงานจากสมาคมประมง จ.ตราด เพื่อขอให้เก็บค่าสัมปทานอยู่ในระดับเดิม
นายประทีป จงสืบธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ปัญหาน่านน้ำระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาใดๆ ปกติแล้วการดำเนินการด้านชายแดน การค้า กิจกรรมต่างๆ การประมง หรือธุรกิจการค้า จะยึดหลักการพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ว่าจะเป็นหอการค้ากับหอการค้า ซึ่งไม่มีปัญหาด้านธุรกิจการค้าแต่อย่างใด หรือความสัมพันธ์ระหว่างท้องถิ่นกับท้องถิ่น ส่วนด้านความสัมพันธ์ทางชายแดนก็อยู่ในเกณฑ์ปกติดี