xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของเรือประมงจ่ายเงิน 4 แสนขอเรือคืนจากกัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตราด -นอภ.คลองใหญ่ จ.ตราด แจ้นรายงานเรือประมงไทย 4 ลำ ให้ผู้ว่าฯตราดรับทราบ หลังเจ้าของเรือประมงจ่ายเงิน 400,000 บาท แลกเรือประมงจากกัมพูชากลับไทย ด้านประมง จ.ตราด เผยค่าสัมปทานประมงมากกว่า 100 ล้านบาท/ปี จ่ายใต้โต๊ะอีกมาก

จากการที่มีรายงานว่าเรือประมงของไทยถูกตำรวจน้ำกัมพูชาจับกุมไป เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 หลังเข้าไปทำประมงในพื้นที่น่านน้ำกัมพูชาด้าน จ.เกาะกงนั้น ปรากฎว่าในเช้าวันนี้ (09.00 น.วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552) เรือประมงทั้ง 4 ลำ พร้อมไต๋ก๋งเรือประมง รวม 10 คน ได้เดินทางนำเรือประมง ทั้ง 4 ลำ มาเทียบท่าบริเวณท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออก บ้านคลองสน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด แล้ว

หลังจากเจ้าของเรือประมงทั้ง 4 ลำที่มาจาก อ.มหาชัย จ.สมุทรสงคราม นำเงินสดจำนวน 400,000-500,000 บาท ไปเสียค่าปรับให้กับตำรวจน้ำ จ.เกาะกง ที่ตั้งอยู่ที่บ้านปากคลองสนามควาย อ.เสาธง จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่ง นายภวัต เลิศมุกดา นอภ.คลองใหญ่ ได้เดินทางไปพบเจ้าของเรือประมงทั้ง 4 ลำ และไต๋ก๋งเรือพร้อมรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นได้ทั้งรายงานด่วนไปให้ผู้ว่าราชการ จ.ตราด ได้รับทราบข้อเท็จจริงแล้ว

นายภวัต กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการปิดน่านน้ำทะเลเกาะกง เพื่อห้ามมิให้เรือประมงไทยเข้าไปทำประมงมีข่าวการจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 4 ลำไป เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตหรือสัมปทานทำประมงใน จ.เกาะกง แต่ไม่มีการยืนยันจากฝ่ายกัมพูชา

กระทั่งเมื่อบ่ายวานนี้ รับแจ้งจากเจ้าของเรือประมงทั้ง 4 ลำ (ไม่ขอเปิดเผยชื่อเจ้าของและเรือประมง) ว่าได้นำเงินจำนวน 4-500,000 บาท ไปเสียค่าปับให้กับผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง คนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเรือประมงทั้ง 4 ลำ กลับมายังประเทศไทย และเทียบท่าที่ท่าเรือบ้านคลองสน ทางอำเภอคลองใหญ่ จึงรีบทำรายงานข้อเท็จจริงไปแจ้งให้กับผู้ว่าราชการ จ.ตราด ได้ทราบอย่างเร่งด่วนแล้ว

“ยอมรับว่า มีการให้ข่าวกับสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่ง ไม่มีการปิดน่านน้ำและไม่ได้รับรายงานเรือประมงถูกจับทั้ง 4 ลำ เนื่องจากยังไม่ได้รับการประสานงานจากเจ้าของเรือประมงและสมาคมประมง จ.ตราด จึงให้ข่าวไปก่อน แต่เมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าของเรือประมงทั้ง 4 ลำ จึงได้รีบรายงานให้ผู้ว่าราชการ จ.ตราด ได้รับทราบข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ส่วนเรือประมงที่จะเข้าไปทำประมงในทะเลเกาะกง จะต้องขอหรือต่อสัมปทานต่อคณะกรรมการเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะถูกทางการกัมพูชาจับกุม”

ขณะที่ นายไชยันต์ การสมเนตร ประมง จ.ตราด เปิดเผยว่า ทางอธิบดีกรมประมงได้สั่งการให้ทางสำนักงานประมง จ.ตราด สำรวจข้อมูลเรือประมงไทยที่เข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชานั้น ทางสำนักงานประมง จ.ตราด ได้ประสานกับนายกสมาคมประมง จ.ตราด ,นายกสมาคมประมงคลองใหญ่ และผู้ประสาน งานนำเรือประมงเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาแล้วพบว่า ปัจจุบันมีเรือประมงไทยที่เจ้าของเป็นคนไทยจะมีจำนวน 200-300 ลำ เช่น อวนลากเดี่ยว อวนลากคู่ อวนล้อม อวนลอยปลา และเรือไดร์ที่มีมากที่สุด แต่ละชนิดจะเสียค่าสัมปทานแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 6,000-300,000 บาท/ลำ ในระยะเวลา 45 วัน

ในส่วนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปทำประมงได้ แต่มีเรือประมงอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้าของเป็นคนไทย แต่ใช้ชื่อเจ้าของเป็นของกัมพูชา ส่วนใหญ่จะเป็นเรืออวนลากเดี่ยวจะมีประมาณ 30-50 ลำ และจะต้องจ่ายค่าภาษี ค่าจ้างยื่นชื่อ ค่าเคลียร์ตำรวจ ทหาร รวมเป็นเงินประมาณ 3,000-50,000 บาท/ปี/ลำ ซึ่งในแต่ละปีจะมีมูลค่าในการจ่ายเงินให้กัมพูชามากกว่า 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยังมีเรือประมงที่ลักลอบทำโดยจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับส่วนราชการ ท้องถิ่นของ จ.เกาะกง กัมพูชา อีกวก่า 100 ลำ
กำลังโหลดความคิดเห็น