จันทบุรี -ชาวประมงใน 4 อำเภอ จังหวัดจันทบุรี ได้รับผลกระทบหนักหลังประเทศกัมพูชาได้สั่งปิดน่านน้ำ ห้ามเรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงในประเทศกัมพูชา ทำให้ชาวประมงต้องมีการนำเรือจอดเทียบท่ากว่า200 ลำเพื่อรอการเจรจา
หลังจากที่ประเทศกัมพูชาได้มีการสั่งปิดน่านน้ำ ห้ามเรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงในประเทศกัมพูชาทำให้ในขณะนี้ ชาวประมงใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรีได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักต้องมีการนำเรือมาจอดเทียบท่ากันแล้วกว่า 200 ลำ
ส่วนใหญ่เรือประมงใน 4 อำเภอ คือ อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรีจะเข้าไปทำการประมงในฝั่งประเทศกัมพูชา ทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ในเบื้องต้นชาวประมงได้รอการเจรจา หลังประเทศกัมพูชามีการปรับเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ เพื่อที่จะเข้าไปทำการประมงในฝั่งประเทศกัมพูชาได้เหมือนเดิมแต่ในขณะนี้ได้ผ่านไป 2-3 วัน ฝั่งประเทศกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการเปิดให้เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงแต่อย่างไร ทำให้ชาวประมงในอำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรีต้องขาดรายได้ และเสียเวลาในการออกทำการประมงไม่ได้
ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ รัฐบาล เข้ามาดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพราะขณะนี้เรือประมงในภาคตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดตราด จันทบุรี ชลบุรี และ จังหวัดระยอง รวมแล้วประมาณ 1000 ลำ กำลังได้รับความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบโดยตรงจึงเป็นสิ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไขเป็นการเร่งด่วน ในเบื้องต้นการเจรจายังไม่เป็นผล เนื่องจากประเทศกัมพูชายังไม่มีการอนุญาตให้เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมง
รวมทั้งทางประเทศกัมพูชายังคงมีการนำเรือตำรวจน้ำ เรือทหารมาคอยวิ่ง ลาดตระเวนสังเกตุการณ์อย่างต่อเนื่องจึงทำให้เรือประมงไทยของ อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี จำนวน 100-200 ลำไม่กล้าที่จะนำเรือประมงวิ่งเข้าไปทำการประมงใกล้น่านน้ำประเทศกัมพูชา รวมทั้งต้องมีการนำเรือประมงมาจอดเทียบท่าเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย นอกจากนี้ทำให้เรือประมงบางลำต้องออกหาปลาในน่านน้ำไทยไปก่อนแต่รายได้ ที่เคยได้วันหนึ่งประมาณ 50,000 บาท ต้อลดลงเหลือเพียง 30000-35000 บท
นายศักดิ์ หนูเขียว ไต๋เรือ ต.สงวนศิลป์ กล่าวว่า ในช่วงนี้หลังประเทศกัมพูชาได้สั่งปิดน่านน้ำทำให้เรือประมงในจังหวัดจันทบุรีที่เข้าไปทำการประมงในประเทศกัมพูชาต้องมีการนำเรือกลับฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัย รวมถึงทำให้รายได้ที่เคยได้จากการออกทำประมงต้องลดลง ในส่วนนี้อยากให้จังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการหาวิธีแก้ไข ทั้งนี้ ถ้าปล่อยให้ระยะเวลาเนินนานจะส่งผลกระทบทำให้เรือประมงได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย
หลังจากที่ประเทศกัมพูชาได้มีการสั่งปิดน่านน้ำ ห้ามเรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงในประเทศกัมพูชาทำให้ในขณะนี้ ชาวประมงใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรีได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักต้องมีการนำเรือมาจอดเทียบท่ากันแล้วกว่า 200 ลำ
ส่วนใหญ่เรือประมงใน 4 อำเภอ คือ อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรีจะเข้าไปทำการประมงในฝั่งประเทศกัมพูชา ทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ในเบื้องต้นชาวประมงได้รอการเจรจา หลังประเทศกัมพูชามีการปรับเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ เพื่อที่จะเข้าไปทำการประมงในฝั่งประเทศกัมพูชาได้เหมือนเดิมแต่ในขณะนี้ได้ผ่านไป 2-3 วัน ฝั่งประเทศกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการเปิดให้เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงแต่อย่างไร ทำให้ชาวประมงในอำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรีต้องขาดรายได้ และเสียเวลาในการออกทำการประมงไม่ได้
ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ รัฐบาล เข้ามาดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพราะขณะนี้เรือประมงในภาคตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดตราด จันทบุรี ชลบุรี และ จังหวัดระยอง รวมแล้วประมาณ 1000 ลำ กำลังได้รับความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบโดยตรงจึงเป็นสิ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไขเป็นการเร่งด่วน ในเบื้องต้นการเจรจายังไม่เป็นผล เนื่องจากประเทศกัมพูชายังไม่มีการอนุญาตให้เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมง
รวมทั้งทางประเทศกัมพูชายังคงมีการนำเรือตำรวจน้ำ เรือทหารมาคอยวิ่ง ลาดตระเวนสังเกตุการณ์อย่างต่อเนื่องจึงทำให้เรือประมงไทยของ อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี จำนวน 100-200 ลำไม่กล้าที่จะนำเรือประมงวิ่งเข้าไปทำการประมงใกล้น่านน้ำประเทศกัมพูชา รวมทั้งต้องมีการนำเรือประมงมาจอดเทียบท่าเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย นอกจากนี้ทำให้เรือประมงบางลำต้องออกหาปลาในน่านน้ำไทยไปก่อนแต่รายได้ ที่เคยได้วันหนึ่งประมาณ 50,000 บาท ต้อลดลงเหลือเพียง 30000-35000 บท
นายศักดิ์ หนูเขียว ไต๋เรือ ต.สงวนศิลป์ กล่าวว่า ในช่วงนี้หลังประเทศกัมพูชาได้สั่งปิดน่านน้ำทำให้เรือประมงในจังหวัดจันทบุรีที่เข้าไปทำการประมงในประเทศกัมพูชาต้องมีการนำเรือกลับฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัย รวมถึงทำให้รายได้ที่เคยได้จากการออกทำประมงต้องลดลง ในส่วนนี้อยากให้จังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการหาวิธีแก้ไข ทั้งนี้ ถ้าปล่อยให้ระยะเวลาเนินนานจะส่งผลกระทบทำให้เรือประมงได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย
