ศูนย์ข่าวศรีราชา - ลือสะพัดกัมพูชาปิดน่านน้ำห้ามเรือประมงไทยหากินเกินเส้น 211 และเส้นอ้างสิทธิผ่ากลางเกาะกูด หลายกระแสหวั่นประมงไทยอาจหลงกลลวงยอมรับการอ้างสิทธิทำสัมปทานรับทราบเส้นแบ่งเกาะกูด อาจเป็นหลักฐานอ้างไทยยอมรับขึ้นศาลโลก
จากกระแสข่าวลือสะพัดในเรื่องผู้บัญชาการทหารเรือกัมพูชาสั่งปิดพรมแดนซึ่งเป็นน่านน้ำติดต่อระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยใช้เส้นแบ่ง 211 และเส้นแบ่งระหว่างกึ่งกลางเกาะกูดที่กัมพูชาอ้างสิทธิ ทำให้เรือประมงที่ทำสัมปทานน่านน้ำไว้กับกัมพูชาต้องหยุดชะงัก เรือนับพันลำส่วนมากไม่กล้าเข้าไปลากเพราะเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาจับกุม
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวเอสเอสทีวี ผู้จัดการ ว่าได้รับรายงานจากหน่วยงานลาดตระเวนของกองทัพเรือ ทราบว่าขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ทำให้สัมปทานในการจับสัตว์น้ำที่ได้สัมปทานไว้กับผู้ว่าคนเก่าก็ต้องหมดอายุ และจะต้องมีการทำสัมปทานขึ้นใหม่กับผู้ว่าราชการเกาะกงคนใหม่ การปิดน่านน้ำไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองระหว่างประเทศแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อมีการต่อสัมปทานแล้วก็สามารถทำได้ตามปกติ คาดว่าถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกงคนใหม่ศึกษาระเบียบปฏิบัติต่างๆ เรียบร้อยแล้วก็สามารถดำเนินเปิดน่านน้ำได้ทันที ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นระเบียบปฏิบัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งในด้านความสัมพันธ์กับกัมพูชาทางด้านทะเลติดต่อ มีกองทัพเรือดูแลได้มีการทำงานร่วมกัน ลาดตระเวน และประสานงานกันตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ได้รับทราบจากชาวบ้านตามแนวเขตชายแดนไทย-เขมร ว่าชาวเกาะกงทุกคนทราบดีว่า กำลังเป็นอาณาจักรแห่งใหม่ที่มีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ได้มีการพูดคุยกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจการค้าชายแดน และผู้ประกอบการประมง สงสัยว่าการเปลี่ยนแปลงหรือการปิดน่านน้ำในครั้งนี้น่าจะมีนัยบางอย่างที่ต้องนำมาทำการบ้านกันก็คือ เรื่องของการทำสัมปทานในน่านน้ำที่แบ่งทางด้านปลายเกาะกูดที่ถูกกัมพูชาอ้างสิทธิ์
ถ้าต้องทำสัมปทานในการเข้าไปทำการประมงก็แสดงว่าคนไทยกำลังยอมรับว่าเป็นเขตแดนของประเทศกัมพูชาจริง ซึ่งเกรงว่าหลักฐานการสัมปทานของประมงไทยเข้าไปลากอวนในย่านปลายเกาะกูดจะถูกนำไปเป็นหลักฐานให้ศาลโลกตัดสินว่าคนไทยยอมรับว่าเป็นเขตแดนของกัมพูชาจริง จึงได้ทำหลักฐานยอมรับ ยอมจ่ายเงินสัมปทานขึ้น จึงขอให้คนไทยระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย แต่ถ้าทำสัมปทานในเส้นแบ่ง 211 คงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าให้ยอมรับเรื่องเขตแดนทางด้านปลายเกาะกูดก็คงต้องพิจารณากันใหม่ในเรื่องการทำสัมปทานในครั้งนี้
จากกระแสข่าวลือสะพัดในเรื่องผู้บัญชาการทหารเรือกัมพูชาสั่งปิดพรมแดนซึ่งเป็นน่านน้ำติดต่อระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยใช้เส้นแบ่ง 211 และเส้นแบ่งระหว่างกึ่งกลางเกาะกูดที่กัมพูชาอ้างสิทธิ ทำให้เรือประมงที่ทำสัมปทานน่านน้ำไว้กับกัมพูชาต้องหยุดชะงัก เรือนับพันลำส่วนมากไม่กล้าเข้าไปลากเพราะเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาจับกุม
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวเอสเอสทีวี ผู้จัดการ ว่าได้รับรายงานจากหน่วยงานลาดตระเวนของกองทัพเรือ ทราบว่าขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ทำให้สัมปทานในการจับสัตว์น้ำที่ได้สัมปทานไว้กับผู้ว่าคนเก่าก็ต้องหมดอายุ และจะต้องมีการทำสัมปทานขึ้นใหม่กับผู้ว่าราชการเกาะกงคนใหม่ การปิดน่านน้ำไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองระหว่างประเทศแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อมีการต่อสัมปทานแล้วก็สามารถทำได้ตามปกติ คาดว่าถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกงคนใหม่ศึกษาระเบียบปฏิบัติต่างๆ เรียบร้อยแล้วก็สามารถดำเนินเปิดน่านน้ำได้ทันที ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นระเบียบปฏิบัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งในด้านความสัมพันธ์กับกัมพูชาทางด้านทะเลติดต่อ มีกองทัพเรือดูแลได้มีการทำงานร่วมกัน ลาดตระเวน และประสานงานกันตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ได้รับทราบจากชาวบ้านตามแนวเขตชายแดนไทย-เขมร ว่าชาวเกาะกงทุกคนทราบดีว่า กำลังเป็นอาณาจักรแห่งใหม่ที่มีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ได้มีการพูดคุยกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจการค้าชายแดน และผู้ประกอบการประมง สงสัยว่าการเปลี่ยนแปลงหรือการปิดน่านน้ำในครั้งนี้น่าจะมีนัยบางอย่างที่ต้องนำมาทำการบ้านกันก็คือ เรื่องของการทำสัมปทานในน่านน้ำที่แบ่งทางด้านปลายเกาะกูดที่ถูกกัมพูชาอ้างสิทธิ์
ถ้าต้องทำสัมปทานในการเข้าไปทำการประมงก็แสดงว่าคนไทยกำลังยอมรับว่าเป็นเขตแดนของประเทศกัมพูชาจริง ซึ่งเกรงว่าหลักฐานการสัมปทานของประมงไทยเข้าไปลากอวนในย่านปลายเกาะกูดจะถูกนำไปเป็นหลักฐานให้ศาลโลกตัดสินว่าคนไทยยอมรับว่าเป็นเขตแดนของกัมพูชาจริง จึงได้ทำหลักฐานยอมรับ ยอมจ่ายเงินสัมปทานขึ้น จึงขอให้คนไทยระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย แต่ถ้าทำสัมปทานในเส้นแบ่ง 211 คงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าให้ยอมรับเรื่องเขตแดนทางด้านปลายเกาะกูดก็คงต้องพิจารณากันใหม่ในเรื่องการทำสัมปทานในครั้งนี้
