xs
xsm
sm
md
lg

เรือประมงไทยที่ทำประมงในกัมพูชาจอดเรือหน้าเกาะกูด 300 ลำ รอกัมพูชาเปิดน่านน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด - เรือประมงไทยที่ทำประมงในกัมพูชาจอดเรือหน้าเกาะกูด 300 ลำรอกัมพูชาเปิดน่านน้ำด้านชาวเกาะกูดร้องเรือประมงไทยใช้ช่วงเวลาว่างทำประมงในพท.เกาะกูดจนกระทบ สวล.ขณะประมงตราด เตือนเรือประมงไทยเข้าไปทำประมงในกัมพูชาก่อนได้รับสัมปทาน

จากการที่เรือประมงไทยกว่า 300 ลำ ไม่สามารถเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา ได้ทำให้เรือประมงไทยจอดเรืออยู่ที่หน้าอ่าวสลัดและอ่าวใหญ่ใน อ.เกาะกูด จ.ตราด เพื่อรอการเปิดน่านน้ำครั้งใหม่ ขณะเดียวกัน ก็ได้ใช้เวลาว่างในเวลากลางคืนทำประมงในหน้าทะเลรอบเกาะกูดเป็นการชั่วคราว ปรากฏว่า ได้สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ทะเลและพื้นที่ทำประมงใน อ.เกาะกูดจำนวนมาก

นายวิชิต ไทรทอง กำนัน ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด กล่าวว่า หลังกัมพูชาประกาศปิดน่านน้ำทะเลที่อยู่ติดกับเกาะกูด จ.ตราด ทำให้เรือประมงขนาดใหญ่ และขนาดกลางจำนวนกว่า 300 ลำ ที่อยู่ในจังหวัดภาคใต้ จังหวัดภาคตะวันออกและ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ที่ทำประมงในกัมพูชาต้องลอยเรืออยู่บริเวณหน้า อ.เกาะกูด แล้วใช้เวลากลางคืนทำประมงในพื้นที่ทะเลรอบเกาะกูด มีบางลำเข้ามาลากอวนใกล้ชายฝั่ง บางลำมาปั่นไฟและจับปลาในพื้นที่ใกล้ชายฝั่งจนทำให้สิ่งแวดล้อมทั้งปะการัง และพื้นที่ทำประมงชายฝั่งของชาวเกาะกูดได้รับผลกระทบ หากปล่อยไว้เช่นนี้จะทำให้พื้นที่ปะการัง และพื้นที่ทำประมงชายฝั่ง อ.เกาะกูด เสียหาย และไม่สามารถฟื้นฟูได้

ขณะที่ นายเดชาธร จันทร์อบ นายก อบต.เกาะกูด กล่าวว่า เรือประมงของไทยอยู่ระหว่างการรอคอย ทำตั๋วสัมปทาน ทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาใหม่ แต่ก็ยังไม่สามารถได้รับความชัดเจนจาก จ.เกาะกง
 
เพราะต้องรอให้คณะกรรมการ ที่ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ฝ่ายทหารและฝ่ายตำรวจและศุลกากรได้ทำบันทึกข้อตกลงและเงื่อนไขเสนอไปยังรัฐบาลกัมพูชาก่อนจึงจะดำเนินการต่อสัมปทานครั้งใหม่ได้ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อใด ทำให้เรือประมงเหล่านี้ใช้โอกาสที่ว่างอยู่ทำประมงในพื้นที่น่านน้ำไทย หรือบริเวณรอบๆ เกาะกูด ทำให้เรือประมงเกาะกูดที่เป็นประมงพื้นบ้านได้รับผลกระทบ เพราะเรือประมงขนาดใหญ่เข้ามารวบกาวนการทำประมงพื้นบ้าน อีกทั้งยังทำให้สภาพแวดล้อมของทะเลรอบเกาะกูดได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ดำเนินการอะไม่ได้มากนัก เพราะเรืออยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 1 ไมล์ทะเล

ขณะที่ นายไชยันต์ การสมเนตร ประมง จ.ตราด กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทางประเทศกัมพูชา ปิดน่านน้ำของประเทศกัมพูชาเพื่อปรับปรุงระบบการจ่ายภาษี ทำให้เรือประมงของไทยที่เคยเข้าไปทำการประมงในน่านน้ำประเทศกัมพูชาประมาณ 200 ลำ ต้องกลับเข้ามาทำการประมงในเขต จ.ตราด และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งในเขตจังหวัดตราด ก็มีเรือประมงขนาดเล็กที่ทำการประมงอยู่ก่อนแล้ว ค่อนข้างมากและในช่วงที่ประเทศกัมพูชาปิดน่านน้ำ เพื่อปรับปรุงระบบการจ่ายภาษี มีเรือประมงขนาดใหญ่กลับเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำประเทศไทยมากขึ้น อาจเกิดปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรประมงระหว่างเรือประมงขนาดใหญ่ซึ่งมีประสิทธิภาพในการทำการประมงสูง ทางประมง จ.ตราด จึงขอให้เรือประมงขนาดใหญ่ที่กลับเข้ามาทำการประมงเขตประเทศไทย ออกไปทำการประมงไกลชายฝั่งออกไปเพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงแหล่งประมงกับเรือขนาดเล็ก โดยไม่เข้ามาทำการประมงใกล้บริเวณชายฝั่งในเขต 3,000 เมตร ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ บริเวณใกล้เกาะแก่งต่างๆ

ประมง จ.ตราด กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือเรือประมงไทยที่รอทำประมงอยู่ในพื้นที่กัมพูชาขณะนี้ ไม่ควรเข้าไปทำประมงในพื้นที่น่านน้ำกัมพูชาในขณะนี้ เนื่องจากอาจจะถูกตำรวจน้ำหรือทหารเรือกัมพูชา จับกุมดำเนินคดี ซึ่งอาจจุเกิดปัญหาขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม โดยความคิดเห็นส่วนตัว คาดว่าการจัดทำร่างเงื่อนไขสัมปทานประมงในน่านน้ำกัมพูชาจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้

สำหรับเรือประมงไทย ปัจจุบันมีจำนวนราว 300 ลำ (รวมเรือไทยสัญชาติกัมพูชา) ทำประมงอยู่ในกัมพูชา และปัจจุบันจอดอยู่ใน อ.เกาะกูด จำนวน 200 ลำ ท่าเรือ อ.แหลมงอบ 30-40 ลำ ท่าเรือประมงคลองสน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จำนวน 80-100 ลำ

กำลังโหลดความคิดเห็น