xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มอนุรักษ์ฯลงแหลมฉบังช่วยเหลือชาวบ้านเหยื่อสารพิษรั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่แหลมฉบัง ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษรั่ว เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ แก้ไขอย่างจริงจัง ด้านผู้ว่าฯชลบุรี เผยยังคงให้แหลมฉบังเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากกรมควบคุมมลพิษว่าปลอดภัย

วันนี้ (29 พ.ย.) ที่บริเวณวัดแหลมฉบังเก่า ตำบลทุงสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนชาวแหลมฉบัง ที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีอันตรายรั่วไหลจากท่าเทียบเรือ บี3 ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้านเกือบ 50 คน มาร่วมรับฟัง เพื่อร่วมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะแรกและในอนาคตต่อไป

นายสุทธิ กล่าวว่า สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้จะนำเสนอ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ด้วย ประกอบด้วย 1.การจัดตั้งคณะกรรมการจากหลายภาคส่วน อันประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ภาคนักวิชา และภาคประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อบูรณาการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น กรณีท่าเทียบเรือแหลมฉบัง รวมถึงตรวจสอบประสิทธิภาพของท่าเทียบเรือที่มีลักษณะเช่นเดียวกับแหลมฉบังที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะท่าเทียบเรือมาบตาพุดและบางปะกง

2.ปัญหาที่เกิดขึ้น หากเกิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจอยู่บนท่าเรือ ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการทันที

3.ปฏิรูประบบบริการจัดการท่าเทียบเรือ เพื่อสร้างมาตรการที่มีประสิทธิภาพและมิให้เกิดปัญหาดังกล่าวซ้ำซากอีก โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ

4.ค่าชดเชยค่าเสียหายที่เกิดจากอุบัติภัยทางเคมีในครั้งนี้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง และทุกท่าเทียบเรือที่สร้างปัญหาให้กับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างคุ้มค่า และสอดคล้องกับสภาพของปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่ประสบอยู่ตามสมควรแก่การดำรงชีวิตที่ปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ วิธีการชดเชยอาจจะออกมาในรูปของกองทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามที่ประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาต้องการและเห็นสมควร

และ 5.บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังทุกกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อการจัดการท่าเทียบเรือ รวมถึงสร้างมาตรการการมีส่วนร่วมจากประชาชนในพื้นที่

การเสนอแนวทางในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวแหลมฉบังเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่แหลมฉบังและพื้นที่ใกล้เคียง จะได้รับความสนใจน้อยหรือได้รับความสนใจเพียงระยะสั้นเท่านั้น แต่เมื่อมีหน่วยงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง โดยประชาชนส่วนใหญ่พอใจ เพื่อให้มีการแก้ไขให้เกิดเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งได้นำเรื่องเสนอท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี รับทราบแล้ว ซึ่งทางจังหวัดเองก็เห็นด้วยที่ได้เข้ามาช่วยเหลือกันในครั้งนี้

นางดวงเดือน ถนอมรอด ชาวบ้านหมู่บ้านแหลมฉบัง กล่าวถึงกรณีหน่วยงานของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ที่เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก และไม่เคยทราบมาก่อนมามีหน่วยงานหรือองค์กรประเภทนี้ในประเทศไทย และหากการช่วยเหลือในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ก็จะทำให้ประชาชนชาวแหลมฉบัง อยู่ดีขึ้นดีเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

ปัญหาในพื้นที่แหลมฉบัง เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะสร้างปัญหาและผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่ หรือระดับจังหวัด ก็เข้ามาช่วยเหลือในระดับหนึ่งเท่านั้น และหลังจากนั้นอีกไม่นานปัญหาก็จะเกิดขึ้นมาอีก โดยไม่มีการแก้ไขอย่างถาวรหรือต่อเนื่อง แต่เมื่อมีหน่วยงานที่ดูแลและรับผิดชอบโดยตรงเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้หน่วยงานในพื้นที่ไม่ค่อยพอใจและกลัวเสียหน้า แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหากหน่วยางานดังกล่าวเข้ามาช่วยเหลือ หากสิ่งใดไม่ดีก็ไม่รับแต่ข้อไหนก็พร้อมให้การสนับสนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ที่มีการหารือกันนั้นได้มีนัการเมืองในพื้นที่ได้เข้ามาขัดจังหวะ พร้อมชี้แจงว่า เหตุการณ์สารพิษรั่วไหลในครั้งนี้เป็นเรื่องของคนในพื้นที่ พวกเราสามารถจัดการกันเองได้ภายในบ้านได้ โดยไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โตไปจนถึงระดับประเทศ ชาวบ้านมีผู้นำของเขาอยู่แล้ว และเรื่องดังล่าวก็ได้มีการพูดคุยกันแล้วไม่อยากให้มีการพูดซ้ำชาก พร้อมทั้งไม่ยอมเข้าร่วมในการหารือในครั้งนี้

ด้าน นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยว่า สำหรับปัญหาการรั่วไหลของสารเคมีที่ท่าเรือแหลมฉบังนั้น ขณะนี้ทางจังหวัดยังคงประกาศให้แหลมฉบังเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ อยู่ จนกว่าจะได้รับรายงานจากทางกรมควบคุมมิลพิษ ว่า ทุกอย่างปลอดภัย ขณะนี้ให้เน้นเรื่องของน้ำและอากาศ หากทางกรมควบคุมมลพิษ ยืนยันว่าปลอดภัยแล้ว ทางจังหวัดก็จะพิจารณายกเลิกประกาศดังกล่าว

ส่วนในเรื่องของ คดีความนั้นทางรองผู้บัญชาการได้สั่งการเป็นเรื่องพิเศษแล้วว่าจะต็องแล้วเสร็จภายใน 10 วัน พร้อมทั้งให้มีการสาเหตุของการเกิดปัญหาเพื่อเป็นแนวทางในการวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดแหลมฉบัง ว่า ในวันนี้มีคณะแพทย์จากโรงพยาบาลอ่าวอุดม ได้นำคณะแพทย์มาตรวจเช็คร่างกายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีรั่วไหล จากท่าเทียบเรือบี 3 ท่าเรือแหลมฉบัง อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นทางเทศบาลได้ให้ประชาชนมาลงชื่อ เพื่อเก็บข้อมูลไว้เป็นหลัก หากในอนาคตอันใกล้นี้ มีประชาชนเกิดมีปัญหาด้านสุขภาพก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันที
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดสารเคมีรั่วไหลจนถึงปัจจุบันมีประชาชนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วกว่า 1,000 คน




กำลังโหลดความคิดเห็น