xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 7 ปีตัดสิทธิ์การเมือง 20 ปี อดีต ผญบ.ลำปางให้การเท็จคดีซื้อเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร
ลำปาง - ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 7 ปี ไม่รอลงอาญา อดีต ผญบ.ไร่นาน้อย เมืองลำปาง พร้อมตัดสิทธิ์การเมือง 20 ปี ฐานให้การเท็จคดีซื้อเสียง เมื่อปี 2547 เป็นเหตุให้ กกต.ยุค “วาสนา” แจกใบเหลืองแก่อดีตนายกฯเมืองเขลางค์นคร

นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร หัวหน้ากลุ่มพัฒนาเมืองเขลางค์นคร เปิดเผยถึงกรณีที่ถูกร้องเรียนเรื่องการซื้อเสียงเมื่อปี 2547 จนได้ใบเหลือง เป็นเหตุให้ตนเองพ้นจากตำแหน่งหลังเข้าทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีได้เพียง 3 เดือน 19 ว่า หลังจากที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2547

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2547 ตนได้รับหนังสือแจ้งรายละเอียดข้อกล่าวหาจาก สนง.กกต.ลำปาง พร้อมกับให้ส่งรายชื่อพยานและรายละเอียดตามข้อกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งร้องเรียนเรื่องซื้อเสียงเลือกตั้ง จำนวน 15 ข้อ ตนจึงได้ชี้แจงรายละเอียดไปตามข้อเท็จจริง แต่ผลปรากฏว่า กกต.กลาง ที่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน ตัดสินให้ใบเหลือง เนื่องจากมีพยานบุคคลให้ข้อมูลว่าตนซื้อเสียงจริง

ตนคิดว่า ไม่เป็นธรรมและยังคงสงสัยในข้อกล่าวหา ที่เป็นเหตุให้ตนได้รับใบเหลืองในการเลือกตั้ง 2 ข้อ คือ

1.ตนถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 ตนร่วมกับ นายสมเพชร ชมพูศรี และผู้สมัคร ส.ท.เมืองเขลางค์ ในนามกลุ่มพัฒนาเมืองเขลางค์นคร นำเงินจำนวน 500 บาท ไปซื้อเสียงที่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 5 ต.ปงแสนทอง อ.เมืองลำปาง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับตนเองและพวก ซึ่งภายหลังตนสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าว มีนายน้อย ใจละออ อดีตผู้ใหญ่บ้านไร่นาน้อย หมู่ 5 เป็นเจ้าบ้าน

2.ข้อกล่าวหาว่า นายประพันธ์ ใจสาร และพวกอีก 1 คน ไม่ทราบว่าเป็นใคร นำเงินจำนวน 500 บาท ไปซื้อเสียงที่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 11 ต.ปงแสนทอง อ.เมืองลำปาง เพื่อให้ลงคะแนนให้กับตนเองและพวก ภายหลังตนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมี นายเจริญ แก้วก้อ เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านไร่ข่วงเปา หมู่ 11 เป็นเจ้าบ้าน

ทั้งสองคนได้เป็นพยานว่าได้จ่ายเงินในการซื้อเสียงจริง ซึ่งตนทราบดีว่าทั้งสองให้การเป็นเท็จ อีกทั้งเคยเป็นถึงผู้ใหญ่บ้านไม่ควรกระทำเช่นนี้ จึงได้ยื่นฟ้องนายน้อย และนายเจริญ ที่ศาลจังหวัดลำปาง เรื่องการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ โดยศาลชั้นต้นได้ตัดสินคดีของนายเจริญ แก้วก้อ อดีตผู้ใหญ่บ้านไร่ข่วงเปา ให้จำคุก 4 ปี 8 เดือน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ แต่ยกฟ้องคดีของ นายน้อย ใจละออ ตนจึงได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลจังหวัดลำปางอีกครั้ง

ล่าสุด ศาลจังหวัดลำปาง ได้อ่านคำพิพากษาคดีของศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงใหม่ ซึ่งได้พิพากษาให้นายน้อย ใจละออ อดีตผู้ใหญ่บ้านไร่นาน้อย หมู่ 5 ต.ปงแสนทอง จำคุกเป็นเวลา 7 ปี โดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 20 ปี

นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นครั้งใดตนไม่เคยใช้เงินซื้อเสียง และอยากฝากถึงประชาชนว่าอย่าเห็นแก่เงินเล็กๆ น้อยๆ หรือแม้จะเป็นเงินก้อนใหญ่ก็ตาม เพราะเมื่อแลกกับผลที่ออกมา ที่ต้องจำคุกถึง 7 ปี และตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีก 20 ปีมันไม่คุ้มกัน อย่าช่วยเหลือคนผิดดีกว่า เมื่อเราลำบากเขาก็ไม่ได้มาช่วยอะไรเรา”

สำหรับ นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง เป็นบุตรชายของนายเมือง โพธิ์ทอง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์หลายสมัย ก่อนจะจบชีวิตทางการเมือง เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2547 เนื่องจากถูกฆาตกรรมคาบ้านพัก จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้ ทำให้
นายไพฑูรย์ ซึ่งเป็นทายาทต้องรับไม้ต่อจากผู้เป็นบิดาโดยการกระโดดเข้าสู่สนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์ แต่ถูก กกต.สอยให้พ้นจากตำแหน่ง หลังนั่งเก้าอี้นายกไม่ถึง 4 เดือน

ส่วนอนาคตทางการเมือง นายไพฑูรย์ กล่าวว่า จะยังไม่ทิ้งและพร้อมที่จะลงแข่งขัน หากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร หมดวาระลงในเดือนสิงหาคม ปี 2553 ซึ่งตนเองคิดว่าสิ่งที่ได้ทำดีไว้ยังมีคนมองเห็น
กำลังโหลดความคิดเห็น