พิจิตร – เถ้าแก่โรงสีเมืองชาละวันฟันธง ข้าวราคาพุ่ง 800-1,000 เหรียญต่อตันยาวถึงไตรมาสแรกปีหน้า หลังอินเดียเจอภัยพิบัติ ข้าวไม่พอกิน ต้องสั่งซื้อจากไทยแน่นอน แนะรัฐบาลวางแผนระบายข้าวในสต็อคให้ดีก่อนปล่อย หวั่นฉุดราคาในตลาดร่วง
นายบรรจง ตั้งจิตวัฒนากูล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย และประธานสภาอุตสาหกรรม จ.พิจิตร ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ราคาข้าวขณะนี้ ว่า ราคาข้าวถือว่ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
โดยเฉพาะตั้งแต่วันนี้จนถึงไตรมาสแรกของปี 2553 เพราะประเทศอินเดียต้องการข้าวสารเป็นจำนวนมาก จากที่เคยทำผลผลิตได้ 85 ล้านตัน แต่ปีนี้ผลผลิตข้าวได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ ทำให้ประเทศอินเดีย มีข้าวเหลือปริมาณเพียง 59 ล้านตัน จนไม่พอบริโภคภายในประเทศ จึงมั่นใจว่าจะต้องซื้อข้าวสารจากประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วหลายหมื่นตัน และคาดว่าคงจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ราคาข้าวในประเทศไทยเพื่อส่งออก ก็จะดีดตัวสูงขึ้นอาจถึง 800 – 1,000 เหรียญ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับกลไกการระบายข้าวของรัฐบาลว่าต้องมียุทธศาสตร์การขายแบบค่อยเป็นค่อยไป ข้าวไทยก็จะได้ราคา แต่ถ้าเทขายข้าวที่อยู่ในคลังสินค้า ซึ่งเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำปี 49/50 – 51 แบบฮวบฮาบราคาข้าวก็อาจจะขยับตัวไม่ค่อยดีนัก เพราะปริมาณที่มีมากอาจทำให้ผู้ซื้อรู้ท่าทีและกดราคา
จึงอยากให้รัฐบาลวางแผนไว้ให้ดีว่าจะต้องขายให้ได้ราคาไม่ต่ำกว่า 700 เหรียญ ถ้าต่ำกว่านี้ไม่ขาย ก็จะทำให้ราคาข้าวภายในประเทศดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะโรงสีต่างๆก็จะวิ่งขายและซื้อข้าวของชาวนาเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร ซึ่งถ้ารัฐบาลทำได้เช่นนี้โรงสีต่างๆก็จะมีความมั่นใจในการประกอบธุรกิจมากขึ้น เพื่อช่วยยกระดับราคาข้าวเพื่อช่วยชาวนาไทย ให้สามารถอยู่ได้ อีกด้วย