“สาทิตย์” ชี้ปลุกระดมฆ่าผู้นำผิด กม. จ้องเชือดคลื่นชุมชน “ทาสแม้ว”

รมต.สำนักฯ ย้ำข่าวมุ่งเอาชีวิตนายกฯ รุนแรงยิ่งว่าเรียกร้องให้ยุบสภา เข้าข่ายผิด กม.อาญา และฝ่าฝืนระเบียบ กทช.ชัดเจน จ้องปิดคลื่นดำเนินคดี ประเมินมวลชนเสื้อแดง ลดลงทุกจังหวัด เพราะชุมนุมเพื่อผลประโยชน์

วันนี้ (20 พ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงที่มีการประกาศผ่านวิทยุชุมชน จ.เชียงใหม่ ถ้านายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จะมีการทำร้ายว่า เรื่องวิทยุชุมชนเชียงใหม่มีการดำเนินการทางกฎหมายไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็มีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายตั้งขึ้นมาใหม่ ขณะนี้อนุกรรมการ กทช.เปิดให้มีการลงทะเบียนวิทยุชุมชนแล้ว จากนี้หากปรากฏว่ามีการทำผิดกฎหมายก็จะต้องเข้าเงื่อนไขที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้เป็นวิทยุชุมชนได้ ประเด็นที่ต้องดำเนินการที่เชียงใหม่ ตนได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ กทช.ที่นั่นตลอดเวลา เพราะจะมีการเฝ้าฟังบันทึกเทป และกรณีดังกล่าวจะดูเทปที่บันทึกไว้ ถ้าปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ามีการปลุกระดมเพื่อมาทำร้ายคน ถือว่าเป็นการกระที่มีเจตนา จะมีความผิดทางอาญาและมีความผิดระเบียบวิทยชุมชน เรื่องนี้จะประสานไปยังตำรวจและผู้เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตามจะควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ต้องป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีวิทยุชุมชน ที่ทำผิดอยู่ประมาณ 20 สถานี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยทำความผิดมาแล้ว

“มีการประเมินตลอด และรับรู้มาตั้งแต่ต้น ยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯ บอกว่าเขามีเป้าหมายมากกว่าให้รัฐบาลยุบสภาจริง ข่าวที่เกี่ยวข้องทำร้ายนายกฯ ถึงขั้นเอาชีวิตถึงขั้นที่มีการยืนยันมาตลอดเวลา จะเห็นตั้งแต่ที่กระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่ว่ากลัวจนไม่ไปไหน แต่ต้องระวังเพราะรู้ว่าเป้าหมายอยู่ที่นายกฯคนเดียว” นายสาทิตย์กล่าว

นายสาทิตย์กล่าวว่า ตนได้หารือกับนายกฯ ว่ามีวิทยุชุมชนหลายที่ที่ไปปลุกระดมให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ คล้ายๆ ยุคก่อนเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ฉะนั้น การดำเนินการจะเข้มงวดขึ้น จะมาบอกว่ารัฐบาลเข้าไปแทรกแซงคงไม่ได้อีกแล้ว เพราะปรากฏหลักฐานชัด เรื่องคดีก็มีการดำเนินการ ฟ้องร้องดำเนินคดี หากมีอีกคงจะหนักกว่าเดิม

“รัฐบาลจะปล่อยให้กลุ่มคนที่ไม่คำนึงถึงกฎหมายและความสงบสุขของบ้านเมืองคงไม่ได้ และการเดินทางไปเชียงใหม่ของนายกฯ นั้นไปแน่นอน และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเต็มที่ หากมีการทำผิดกฎหมายก็ต้องจัดการไม่มีทางเลือก” นายสาทิตย์กล่าว

นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลได้มีการประเมินสถานการณ์และจำนวนคนเสื้อแดงอยู่ตลอด พบว่าจำนวนลดลงในทุกจังหวัด เพราะเขารู้ว่าถ้าประท้วงในขณะที่นายกฯ ไปช่วยชาวนา เขาก็จะเสีย แต่แกนนำคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ พยายามจะไปรวมคนเสื้อแดงที่มาจากจังหวัดอื่น คนมาประท้วงเพราะมีความเชื่ออย่างหนึ่งกับออกมาประท้วงหาประโยชน์ก็มี เช่น กรณีที่อุบลฯ บอกขอแสดงพลังเพื่อให้วางบิลได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การส่งคนลงไปเจรจาแกนนำแต่ละพื้นที่ ก่อนที่รัฐบาลจะลงพื้นที่ช่วยอะไรได้หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ช่วยได้ในหลายที่ สำหรับคนที่คิดว่าความเคลื่อนไหวไม่มีความชอบธรรมแล้ว ประท้วงเพื่อคนคนเดียว ก็ถอยกันเยอะ แต่มีแกนนำบางส่วนหนึ่งยืนยันว่าต้องทำต่อ หลายคนก็เหมือนที่ได้รับผลประโยชน์ด้วย ฉะนั้น กลุ่มนี้คงยากหน่อย แต่หน้าที่รัฐบาลคงไม่รังแกใครก่อน มีหน้าที่รักษากฎหมาย ดำเนินการให้สงบเรียบร้อย

นายสาทิตย์กล่าวว่า ส่วนการประกาศเป็นพื้นที่ฉุกเฉินหรือไม่นั้นคงยังไม่ถึงขั้นต้องประกาศ เพราะการประกาศพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉินคงต้องปรากฏเหตุที่ชัดเจน อย่างกรณีการชุมนุม 28-29 พ.ย.จะต้องมีหน่วยงานที่ติดตามสถานการณ์ มีเงื่อนไขที่ปรากฏชัดเจนว่ามีเหตุการณ์ที่คุกคามต่อความมั่นคงจึงประกาศได้

เมื่อถามว่าประเมินการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงอย่างไร นายสาทิตย์กล่าวว่า เขาคงตั้งใจให้มีเหตุการณ์รุนแรง แต่รัฐบาลมีหน้าที่จะทำให้สงบ
ฟังชัดๆ “เพชรวรรต + สุรชัย” ปลุกคน 8 จังหวัดฆ่านายกฯ