พิจิตร - อัยการเมืองชาละวันตั้งชุดเฉพาะกิจรับทวงหนี้ช่วยชาวนา แนะขายข้าวต้องได้เงินสด แต่ถ้าเกิน 3 วันแจ้งได้ทันที
นายวิศิษฐ์ ฉัตรศรีสุวรรณ อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตร ผู้รับผิดชอบงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายกับประชาชน เปิดเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/53 แต่ก็มีข้อควรระวัง เนื่องจากเดิมรัฐบาลใช้วิธีรับจำนำข้าวเปลือกจากชาวนา ถือได้ว่ารัฐบาลเป็นพ่อค้ารายใหญ่ในการรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา โรงสีเป็นเพียงผู้รับจ้างในการแปรรูป แล้วส่งมอบข้าวสาร ปัญหาเรื่องรัฐบาลโกงราคาข้าวเปลือกจากชาวนาจึงไม่มี
แต่เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนนโยบายเป็นประกันรายได้ให้เกษตรกร รัฐบาลเพียงจ่ายส่วนต่างราคาประกันกับราคากลางให้กับเกษตรกรเท่านั้นไม่ได้เป็นผู้รับซื้อข้าวเปลือกเหมือนก่อน จึงทำให้พ่อค้าเถ้าแก่โรงสีต้องเป็นผู้รับซื้อข้าวเปลือกตามกลไกตลาดเอง ซึ่งต้องใช้เงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท ในการรับซื้อ จึงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่ง ว่าเมื่อเถ้าแก่โรงสี หรือเจ้าของท่าข้าวขาดเงินหมุนเวียน หรือขาดสภาพคล่อง ก็จะใช้วิธีจ่ายเช็ค หรือให้ถือตั๋วชั่งไว้เป็นหลักฐาน สุดท้ายหมุนเงินไม่ทันก็ย้ายที่ทำการหนี โกงชาวนาแบบหน้าด้านๆ ก็เป็นได้
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตร ดูสถานการณ์แล้วน่าเชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้เอย่างมากที่ปีนี้ประวิติศาสตร์จะซ้ำรอย ดังนั้นจึงได้ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นที่ประกอบด้วยผู้นำระดับอำเภอ จนถึงตัวแทนชาวนาขึ้นมาเป็นชุดทำงานช่วยเหลือชาวนาที่ขายข้าว แล้วไม่ได้เงินสด
โดยถ้าขายข้าวเปลือกแล้ว เมื่อเวลาล่วงเลยเกิน 3 วัน ยังไม่ได้เงินสดขอให้มาแจ้งที่สำนักงานอัยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิ โทร. 0-5661-1075, 0-5665-0027 ก็จะมีคณะทำงานลงไปช่วยทวงหนี้ให้ชาวนาอย่างทันท่วงที ไม่ให้ลุกลามบานปลาย หรือถ้าพบโรงสีหรือท่าข้าวใดมีความเสี่ยงว่าจะโกงชาวนา ก็จะเสนอต่อคณะกรรมการข้าวระดับจังหวัดให้เพิกถอนใบอนุญาตธุรกิจรับซื้อข้าวทันที เพื่อไม่ให้พวกทำธุรกิจด้วยการจับเสือมือเปล่ามีโอกาสโกงชาวนาพิจิตรได้