พิษณุโลก/พิจิตร- ชึ้อากาศแปรปรวน เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดหนัก เกษตรจังหวัด-อำเภอวังทองแนะรับมือ โดยใช้เชื้อราบิววอเรีย ฉีดพ่นแปลงข้าว ระบุเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลายแปลงนาข้าว 61,750 ไร่ใน 6 อำเภอ
วันนี้ (27 ต.ค.52) นายวีระศักดิ์ เกิดแสง หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมพัฒนาเกษตร เกษตรจังหวัดพิษณุโลก และ นายดำรงค์ ทัพสุข เกษตรอำเภอวังทองพร้อมเจ้าหน้าที่เกษตร เดินทางไปแปลงปลูกข้าวที่หมู่ 14 ต.วังทอง อ.วังทอง พิษณุโลก หลังตรวจพบว่า มีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล อยู่ในแปลงข้าว
นายวีระศักดิ์ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมพัฒนาเกษตร เปิดเผยว่า ตนมาดูในพื้นแปลงปลูกข้าวของเกษตรเพราะทราบว่าเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลแพร่ระบาดในวงกว้าง ล่าสุดเกษตรอำเภอแต่ละพื้นที่ได้แจ้งกับเกษตรกรให้รับมือเพลี้ย โดยใช้เชื้อราบิววอเรีย ที่ได้จากการเพาะราในเม็ดข้าวฟาง นำมาผสมน้ำแล้วฉีดพ่นแปลงข้าว สามารถป้องกันโรคเพลี้ยระบาดได้ชะงัก
สาเหตุที่ปีนี้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดหนัก เป็นเพราะ อากาศแปรปรวน อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ฝนไม่ตก ร้อนอบอ้าว ทำให้เหมาะต่อการขยายพันธุ์เพลี้ย ส่วนสาเหตุอื่นเป็นผลมาจาก การปลูกข้าวที่ไม่ต้านทานโรค การปลูกถี่ในแปลงข้าว การใช้ปุ๋ยยูเรีย เร่งให้ข้าวต้นเขียว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเกษตรกร ควรหมั่นตรวจแปลงนาทุกวันและใช้เชื้อราบิววอเรียเร่งแก้ไข
สำหรับตัวเลขล่าสุดที่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาด จำนวนทั้งสิ้น 61,750 ไร่ หรือ เกษตรกร 3,500 ราย ใน 6 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก ยกเว้นพื้นที่สูงอย่างอำเภอเนินมะปราง ชาติตะการและนครไทย เพลี้ยระบาดหนักที่สุด คือ อำเภอวังทอง ใน 4 ตำบล จำนวน 48,000 ไร่หรือเกษตรกร 2 พันคนได้รับความเสียหายจากระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลครั้ง
พิจิตรจนท.เกษตรไม่แยแสด้านผู้ว่าฯให้ชาวนาช่วยตัวเองไปก่อน
นายศรชัย สิบหย่อม หรือ “ผู้ใหญ่ไสว” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร เปิดเผยถึงความเดือดร้อนของชาวนาใน ต.หนองโสน และ ต.เนินปอ ว่าขณะนี้พื้นที่นาที่ต้นข้าวอายุราว 60 วัน กำลังตั้งท้องออกรวงเพื่อรอการเก็บเกี่ยวต้องเผชิญกับปัญหาถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลรุมกัดกินต้นข้าวและรุกลามระบาดไปทั่วท้องทุ่งนานับหมื่นไร่ใน 2 ตำบล ซึ่งคาดว่าถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ผลผลิตคงจะไม่เหลือให้เก็บเกี่ยว
อีกทั้งถ้าเก็บเกี่ยวได้ก็คงขายไม่พอใช้หนี้ เนื่องจากผลผลิตเสียหายไปเกือบ 30 %ชาวนาที่เดือดร้อนที่ต้องการข้อมูลทางวิชาการในการใช้สารเคมี หรือกรรมวิธีกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล พยายามติดต่อเกษตรตำบล แต่ปรากฎว่าเกษตรตำบลไม่เคยลงพื้นที่เลย หาตัวไม่เจอ อีกทั้งไปหาที่ทำการเกษตร อ.สามง่าม ก็ไม่เคยพบตัวเกษตรตำบลเจ้าของพื้นที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง จนชาวบ้านเอือมระอาไปครั้งใด ก็จะมีเพียงเกษตรอำเภอที่อยู่เฝ้าที่ทำงานเพียงไม่กี่คน พูดคุยแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้โรคระบาดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลรุกลามไร่ นา เกษตรกร ใน อ.สามง่าม ดังกล่าว ในเบื้องต้น “ผู้ใหญ่ไสว” กล่าวว่าทางอำเภอบอกว่าจะประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพลี้ยกระโดด เพื่อจะได้ใช้งบฯฉุกเฉินช่วยชาวนา แต่จนถึงทุกวันนี้ความช่วยเหลือจากภาคราชการก็ยังมาไม่ถึง ดังกล่าว
ในส่วนของนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผวจ.พิจิตร เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของ สนง.กษ.จ.พิจิตร ซึ่งถ้าเกินกว่ากำลังก็ขอให้ร้องขอมายังจังหวัด ก็พร้อมจะช่วยเหลือ ทันที แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานใดๆมาถึง ผู้ว่าฯพิจิตร จึงยังมิได้มีการปฏิบัติการใดๆ ซึ่งคิดว่าเรื่องเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่กำลังระบาดอยู่นี้ เนื่องจาก จ.พิจิตรมีการทำนากันทั้งปี จึงทำให้แมลงศัตรูพืชใช้วงจรชีวิตอยู่ได้ ซึ่งชาวนาก็รู้วิธีป้องกันและปราบปรามอยู่แล้ว จึงคาดว่าชาวนาจะช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ถ้าเกินกำลังผู้ว่าฯก็พร้อมอุดหนุนงบประมาณภัยพิบัติฉุกเฉิน ดังกล่าว เพื่อช่วยชาวนาพิจิตร ต่อไป