“กอร์ปศักดิ์” ลงเก็บข้อมูลมาบตาพุดนำปัญหาเข้า ครม.อังคารหน้า

ระยอง - “กอร์ปศักดิ์” ลงพื้นที่มาบตาพุด หารือคณะทำงานการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนมาบตาพุดและการติดตามผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุดเพื่อนำเข้าการประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ทันในวันอังคารหน้า

วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ชั้น 4 ห้องประชุมศรีสมุทโภคไชย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี นายไพจิตร ปวะบุตร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมารับฟังการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนพื้นที่มาบตาพุด โดยเฉพาะการขยายเขตน้ำประปา ครอบคลุมพื้นที่มาบตาพุด-บ้านฉาง เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไม่มีน้ำประปาใช้ เพื่อนำเข้าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทันในวันอังคารหน้า

โดยมี นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.พรรค ปชป.เขต 1 ระยอง นายบัญญัติ รัตนจันทร์ ส.ส.พรรค ปชป.เขต 2 ระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง นายสมพงษ์ โสภณ นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม รองผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก เข้าร่วมรับฟัง

นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้รายงานถึงโครงการปรับปรุงท่อและขยายเขตประปาพื้นที่มาบตาพุดและบ้านฉาง รวม 24 โครงการ วงเงินประมาณ 173.1 ล้านบาท โครงการปรับปรุงท่อและขยายเขตประปาพื้นที่ อ.เมืองระยอง รวม 15 โครงการ วงเงินงบประมาณ 139.2 ล้านบาท

ด้าน นายสมพงษ์ โสภณ นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด กล่าวว่า โครงการกำจัดขยะมูลฝอย มีการจัดทำรายละเอียด ทีโออาร์ โดยเทศบาลฯได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการคาดว่าภายในอาทิตย์นี้จะเสร็จเรียบร้อย เดิมของบประมาณไป 385 ล้านบาท ในการกำจัดขยะ ประมาณ 380,000 ตันเศษ แต่ได้งบประมาณมา 270 ล้านบาท จึงมีแนวคิดประหยัดงบประมาณโดยใช้วิธีจัดจ้างแบบเหมากอง และผู้รับไปกำจัดจะต้องมีบ่อกำจัดและเป็นที่ยอมรับของท้องถิ่นนั้นๆ

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนการประมูล ทีโออาร์ ต้องระบุแผนงานที่ชัดเจน กำหนดจำนวนวัน และจำนวนน้ำหนักในการขนย้ายจำนวนรถยนต์ที่ใช้ในการขนย้ายขยะ ต้องมีคุณลักษณะตามสเปกที่กำหนด รวมทั้งมีการติดตามการขนย้ายต้องใส่ไว้ในข้อมูล คอมพิวเตอร์พร้อมทั้งคำรับรองสถานที่กำจัดให้เรียบร้อย คือ ให้ชาวบ้านในพื้นที่ยินยอมและเห็นชอบ รวมทั้งจัดทำแผนป้องกันสิ่งแวดล้อม พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการทีโออาร์

รายละเอียดการขยายเขตประปาภูมิภาค มีการขยายเขตเข้าไปในหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่ง ซึ่งเป็นของเอกชน จะถูกมองว่าเอาเงินงบประมาณไปทำให้หมู่บ้านจัดสรร เรื่องนี้ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน พร้อมให้ตัวแทนชาวบ้านช่วยกันดูรายละเอียด จากนี้ไปแผนงานจะเริ่มเมื่อไหร่ เสร็จเมื่อไหร่ ทุกครั้งที่มีการประชุม จะได้ติดตามแผนงานการดำเนินการได้ถูก เพราะฉะนั้นในการประชุมครั้งต่อไปไม่ว่าโครงการไหน ในการนำเสนอเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา อย่างกรณีเรื่องน้ำประปา จะนำเข้าประชุม ครม.อังคารหน้า แต่รายละเอียดโครงการไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจน ก็ไม่สามารถนำเข้า ครม.ในวันอังคารหน้าได้ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานหลังการประชูม นายปองศักดิ์ ชาลวัลย์ ประธานชุมชนเขาไผ่ ผู้นำกลุ่มประธานชุมชนเทศบาลเมืองมาบตาพุด พร้อมด้วยประธานชุมชนจาก 31 ชุมชนมาบตาพุด ได้ยื่นหนังสือถึง นายกอร์ปศักดิ์ ให้ทบทวนกรรมการในส่วนภาคประชาชน เพราะคณะกรรมการภาคประชาชนไม่มีประธานชุมชนมาบตาพุดร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งะเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากคนในท้องถิ่น ปัญหาจึงจะยุติได้ กลุ่มผู้นำประธานชุมชนมาบตาพุด ไม่ได้ร่วมกลุ่มระยองสมานฉันท์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวออกแบบสอบถามแต่อย่างใด

ด้าน นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวว่ากรณีการใช้งบประมาณ โครงการไทยเข้มแข็ง เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบมาบตาพุด อ.เมืองระยอง จะต้องติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างถึงที่สุด เพราะที่ผ่านมามีการคอร์รัปชัน ในนามคณะกรรมการภาคประชาชน จะติดตามตรวจสอบเงินประมาณจำนวนหลายพันล้านบาท เข้าถึงกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ หากกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบไม่ได้รับการเยียวยา ต้องมีการยื่นตรวจสอบต่อไป

ส่วนการที่กลุ่มประธานชุมชนมาบตาพุด จำนวน 31 ชุมชน มายื่นหนังสือจะเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ภาคประชาชน ต่อ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่ ศูนย์ราชการ จ.ระยอง แต่ขอให้ประธานชุมชนมาบตาพุด ยุติบทบาทที่จะนำปัญหาไปสร้างความขัดแย้ง เพราะขณะนี้ปัญหาต่างๆเข้าสู่ระบบการแก้ไขปัญหา และย้ำหนักแน่นว่า มีผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดบางคน ให้การสนับสนุนและกลุ่มผู้ประกอบการบางคนอยู่เบื้องหลัง พร้อมจะยื่นหนังสือต่อประธานบอร์ดการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตรวจสอบผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดบางคน

นายสุทธิ กล่าวต่อว่า กรณีที่ นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ชี้แจงการเสียชีวิตของ นางสุรินทร์ ขมหงส์ หรือ ป้าเตี้ย หนึ่งในพยายคดีฟ้องศาลปกครอง ว่า สาเหตุการตายเนื่องจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันนั้น ขณะนี้เครือข่ายประชาชนฯนำเส้นผมจากเซลล์ประสาทของป้าเตี้ย ส่งสถาบันมิยามาตะ ประเทศญี่ปุ่นให้ตรวจสอบ โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาท โดยจะทราบผลการตรวจวิเคราะห์สาเหตุการตายของป้าเตี้ย ภายใน 2 เดือน ว่า สาเหตุการตายมาจากผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรื่องฝนกรดหรือไม่
 
และในวันที่ 5 ธันวาคม นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย จะลงพื้นที่รอบบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ต.เชิงเนิน และในวันที่ 6 ธันวาคม ลงพื้นที่มาบตาพุดรับฟังปัญหามาบตาพุด-บ้านฉาง ที่ได้รับผลกระทบ 76 โครงการ และเตรียมพร้อมที่จะแจ้งความดำเนินคดีแก่กลุ่มที่พยายามจะกล่าวโทษ นางเรณู เวชรัชช์พิมล 1 ในคณะกรรมการภาคประชาชน ให้ได้รับผลกระทบชื่อเสียงทางใดทางหนึ่งแน่นอน