บุรีรัมย์ - “เจ๊วา” รมว.พาณิชย์ ยันรัฐบาลไม่มีการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนไม่ต้องวิตก ให้ค้าขายกันตามปกติ ส่วนด้านความสัมพันธ์ 2 ประเทศนายกฯกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่แต่ต้องใช้เวลาและเชื่อไม่ถึงขั้นแตกหัก ระบุกระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนส่งเสริมด้านข้อมูลข่าวสารการค้า การลงทุน ระหว่างหอการค้าในภูมิภาคกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อยกระดับการค้าการลงทุนไทยให้มีศักยภาพ
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดอาคารที่ทำการหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่เลขที่ 444 หมู่ 3 ถนนรอบเมือง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังจากคณะกรรมการฯ และสมาชิกหอการค้าในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันผลักดันจัดสร้างที่ทำการหอการค้าดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นศูนย์รวมของภาคธุรกิจเอกชนในจังหวัดฯ ที่แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของคณะกรรมการ สมาชิก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่จะร่วมกันพัฒนาองค์กรของหอการค้าให้มีความเจริญก้าวหน้า และมีความมั่นคง ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจด้านการค้า การลงทุนของท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมา จ.บุรีรัมย์ไม่มีที่ทำการหอการค้าเป็นของตนเอง ซึ่งปัจจุบันมีนายรัชพล ตระหนักยศ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทางกระทรวงพาณิชย์จะได้สนับสนุนและส่งเสริม ด้านการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับด้านการค้า การลงทุน และข้อมูลอื่นที่เป็นประโยชน์กับหอการค้าในส่วนภูมิภาคกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการยกระดับการค้าการลงทุนให้มีศักยภาพมากขึ้น
นางพรทิวากล่าวอีกว่า หลังรัฐบาลไทยได้มีการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศกัมพูชาจนเกิดปัญหาสถานการณ์ตึงเครียดอยู่ในขณะนี้นั้น ยอมรับว่ามีผลกระทบเรื่องการส่งออกบ้างแต่ไม่มาก หากเปรียบเทียบกับการส่งออกโดยรวมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการปิดด่านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่หลายฝ่ายหวาดวิตก เพราะหากมีการปิดด่านชายแดนแล้วจะส่งผลกระทบกับกลุ่มนักลงทุน พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั้ง 2 ประเทศ จึงขอให้ประชาชนไม่ควรวิตกกังวล ให้ทำการค้าขายกันไปตามปกติเหมือนที่ผ่านมา
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา จะกลับคืนสู่ปกติเร็วหรือช้านั้น ขณะนี้นายกรัฐมนตรี กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอยู่ แต่ต้องใช้เวลา และเชื่อว่าไม่น่าจะถึงขั้นแตกหัก เพราะหากทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันแล้ว เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า