ระยอง - พยานเหยื่อมลพิษมาบตาพุดเสียชีวิตสังเวยปัญหาอีก 1 ศพ ซึ่ง เป็น 1 ในผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำฝน (ฝนกรด) มลพิษทำให้เกิดการเจ็บป่วยโรคผิวหนังลอกทั้งตัวเรื้อรังมานาน และเป็นพยานในการร่วมฟ้องศาลปกครอง
วันนี้ (17 พ.ย.) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 1 ในคณะกรรมการ 4 ฝ่ายภาคประชาชน แก้ไขปัญหามลพิษนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง เปิดแถลงข่าวสื่อมวลชนว่านางสุรินทร์ หรือ ป้าเตี้ย ขมหงส์ อายุ 59 ปี เลขที่ 36 ถนนสาย 36 ชุมชน ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เป็น 1 ในผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำฝน(ฝนกรด) มลพิษ ทำให้เกิดการเจ็บป่วยโรคผิวหนังลอกทั้งตัวเรื้อรังมานาน และเป็นพยานในการร่วมฟ้องศาลปกครองกลางระงับชั่วคราว 76 โครงการ ได้เสียชีวิตเมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกันที่บ้านพักชุมชนมาบข่า พิธีรดน้ำศพในเย็นวันเดียวกัน ในนามเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกจะร่วมเป็นเจ้าภาพงานสวดพระอภิธรรมศพ ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้
นายสุทธิ ประกาศจะขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนางสุรินทร์ หรือ ป้าเตี้ย ผู้เสียชีวิต เป็นผู้ได้รับผลกระทบจนต้องสังเวยชีวิตไปอีก 1 คน และเป็นพยานหลักฐานที่ได้รับผลกระทบของกลุ่มผู้ร่วมฟ้องศาลปกครองกลาง หลังจาก นายสุขดี ภัทราจารยางกูร ลูกเขย นายน้อย ใจตั้ง เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการวุฒิสภา 5 คณะ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมลพิษขากโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้ให้ความสนใจปัญหาของนางสุรินทร์ หรือป้าเตี้ย ขมหงส์ ที่ได้รับผลกระทบจากฝนกรดทำให้ผิวหนังลอกทั้งตัว ขณะนี้ได้เสียชีวิตแล้ว
การเสียชีวิตของ นางสุรินทร์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และ รัฐบาล ว่าในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากได้อย่างไร และเป็นช่วงที่อยู่ในการพิจารณาคดีของศาล พยานได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งและโรคผิวหนังลอกทั้งตัว รวม 2 ศพแล้ว
นายสุทธิ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่มีประชาชนเสียชีวิตจากผลกระทบมลพิษโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด มองให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหามลพิษมาบตาพุดล่าช้า จะติดตามการเยียวยาและการแก้ไขปัญหามลพิษที่มีความปลอดภัยต่อ สุขภาพประชาชนต้องรีบดำเนินการ ต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากอีกต่อไป
สำหรับเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุด อ.เมืองระยอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีที่ นายอิทธิพล แจ่มแจ้ง ประธานชมรมคณะกรรมการเทศบาลมาบตาพุด ไปยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรีให้ทบทวนคณะกรรมการภาคประชาชน เนื่องจากไม่มีรายชื่อคนในชุมชนมาบตาพุดร่วมเป็นคณะกรรมการนั้น ขอย้ำไปยังรัฐบาลไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายและไม่ได้เกี่ยวข้องที่จะพยายามผลักดัน ในการแก้ไขปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 แต่อย่างใด
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรู้และผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้ จะให้อำนาจหน้าที่นำเสนอปัญหาได้อย่างเต็มที่ กรณีที่คณะกรรมการจะลงมารับฟังปัญหาในพื้นที่ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน คณะกรรมการจะมีการประชุมนัดแรก ศึกษาความต้องการของประชาชน ผู้ประกอบการ นักวิชาการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อเนื่อง จัดทำข้อยุติเพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อแกไขปัญหามาบตาพุดและให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2